SOPON’S BLOG
2 เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จด้านการเงิน
November 28, 2022
สูตรลดน้ำหนัก 4 กิโล ใน 4 สัปดาห์ : ไม่ต้องพึ่งยา แถมยังไปกินชาบูอีกต่างหาก
November 26, 2022
ฟีดแบคที่ดี ไม่ได้ดีเสมอไป : รับมือยังไงเมื่อเจอฟีดแบคหนัก ๆ ตรง ๆ และต้องปรับตัว
November 24, 2022
ปีใหม่ คนเก่า : จะเปลี่ยนตัวเองได้ ต้องรับตัวเองที่ไม่สมบูรณ์ให้ได้ก่อน
November 21, 2022
20 บทเรียนจากนักจิตบำบัดที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น
November 20, 2022
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
Thought

อะไรทำให้มนุษย์ต้องทำงาน และการต่อสู้ของผู้รับค่าจ้าง

sopons
March 15, 2022 One Min Read
61 Views
0 Comments

หากคุณต้องการให้ใครสักคนทำอะไรสักอย่าง คุณต้องตอบสนองโดยการเสนอผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพราะแท้จริงแล้ว มนุษย์ทำทุกอย่างตามแรงจูงใจ — นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงทำงานเหรอ?

ถ้าโลกนี้ไม่มีระเบียบการแลกเปลี่ยนหลักเป็น “ตัวเงิน” พวกคุณจะอยากทำงานไหม? มันก็ไม่แน่นะ หลายคนอาจจะอยากเป็นคนกวาดถนนเพราะ อยากให้ท้องถนนโล่ง ไม่เกะกะตาก็ได้ แต่ถ้าถามเรา เราอยากเป็นด้วงหรือไม่ก็แพนด้าแดง (เปลี่ยนสปีชีย์ไปเลย)

Photo by Israel Andrade on Unsplash

ทั้งหมดนี้เกิดจากการมนุษย์ทุกคนต่างต้องการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายสูงสุดตามสัญชาตญาณ หากผลตอบแทนคงที่ไม่ว่าจะปฏิบัติอย่างไร ก็มีแนวโน้มว่ามนุษย์จะเลือกการออกแรงที่ขอไปที และหาทางที่สบายที่สุด B.F.Skinner ศึกษาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนได้มาซึ่งทฤษฏี “การวางเงื่อนไขการกระทำ” การทดลองของเขาแสดงให้เห็นว่าการควบคุมหรือจูงใจให้สัตว์มีพฤติกรรมต่าง ๆ มีความสัมพันธ์กับความถี่และจำนวนของรางวัล (reward) แนวคิดของเขาช่วยสนับสนุนแนวคิดที่ว่า “ค่าแรงรายชิ้นเพิ่มการทำงานของนกพิราบในห้องทดลองได้” แต่อย่างไรก็ตามไม่มีใครสนุกกับการทำงาน ทุกอย่างเกิดขึ้นตราบเท่าที่ผลตอบแทนนั้นเหมาะสม

  • มนุษย์ทำงานเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว?

ในอดีตแนวคิดเรื่องชนชั้นได้กดทับ และลดทอนความสุขของมนุษย์ด้วยกัน ด้วยการเสนอกรอบที่ว่าโดยธรรมชาติแล้วคนทั่วไปทำงานเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว และมีแต่คนชั้นสูงเท่านั้นที่ต้องการความท้าทาย และแนวคิดเช่นนี้แหละที่หล่อหลอมให้เกิด “แรงงานอันด้อยประสิทธิภาพ”

หากเราต้องการสร้างธรรมชาติที่ส่งเสริมให้มนุษย์ทำงานเราจำเป็นต้องทำให้เขาโหยหาความท้าทาย การมีส่วนร่วม ความหมาย สิทธิในการตัดสินใจ โอกาสและความพึงพอใจ ทำให้เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกินเอื้อม หากเราละเลยแนวคิดพื้นฐานของการเป็นมนุษย์อย่างนี้ไป ก็จะเหลือเพียงแค่นายจ้างและลูกน้อง งานดี ๆ กับ ที่มาของแหล่งรายได้ 

เราอาจมองหาความหมายและการมีส่วนร่วมในงานบางประเภท มองอย่างผิวเผินแล้ว  “งาน” อาจหาความหมายยาก แต่ เอมี เรสเนสกี ให้ลักษณะงานไว้ 3 ประเภทหลัก ๆ 

  1. งานที่ใจเรียกร้อง (Calling) : งานที่ตนพึ่งพอใจกับตำแหน่ง มีความเชื่อว่างานที่ทำมีคุณค่า
  2. เครื่องมือหาเลี้ยงชีพ (Job) : คนที่มองว่างานเป็นเครื่องมือ งานคือสิ่งจำเป็น ทำงานเพื่อผลตอบแทนและพร้อมเปลี่ยนงานหากมีที่อื่นเสนอค่าตอบแทนมากกว่า
  3. อาชีพ (Career) : คนที่มองว่างานเป็นอาชีพ มักจะมีอำนาจในการตัดสินใจ เป้าหมายคือการเลื่อนขั้น เงินเดือนที่สูงกว่า หรืองานที่ดี

เพราะฉะนั้นแล้ว อะไรที่ทำให้ผู้คนมีทัศนคติต่องานต่างกันไป ก็คือทัศนคติต่อการมองงานและความคิดที่พวกเขามีต่องานแบบนั้น แม้ทัศนคติจะเป็นเรื่องสำคัญแต่มันก็มีข้อจำกัดทางจิตวิทยาอยู่ บางทีเราก็ต้องหลอกตัวเองมากพอดูกับการจะเห็นว่างานของตนมีเป้าประสงค์

“รางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต มาจากประสบการณ์ที่ต้องต่อสู้”

Friedrich Nietzsche

แรงบันดาลใจ หรือเบื้องหลังความสำเร็จ อันนำมาซึ่งเป้าประสงค์สูงสุดหรือแม้กระทั่งความหมายของชีวิต มักเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุด เพราะในวินาทีนั้นเราต่างค้นหาช่วงที่จะได้เรียนรู้ สร้างโอกาสและความเป็นไปได้ และนั่นจึงเป็นคำตอบที่ว่า

มนุษย์ทำงานเพื่อเงินเพียงอย่างเดียวหรือไม่  — “ไม่ใช่เลย”

  • แต่มนุษย์ก็ต้องใช้เงิน

ความจนคืออะไร? ความจนคือการขาดแคลน การเข้าไม่ถึงโอกาส หรืออาจพูดได้ว่ามันคือการมองไม่เห็นอนาคต แม้ว่าเราจะทำงานอย่างมีความสุขและพบคุณค่าของมัน แต่ถ้างานเหล่านั้นไม่มอบผลตอบแทนที่เพียงพอ

มนุษย์ทำงานเพื่อเงินเพียงอย่างเดียวหรือไม่ — คำตอบก็คือ “ใช่”

Positive Mindset เป็นการตอบสนองต่อสัญญาณทางสังคม เพื่อให้ผู้คนรับมือกับแรงกดดันจากความไม่มั่นคงทางการเงินและการอยู่ชายขอบ เป็น setting ที่เราจะกำหนดวิธีคิดโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ดูเหมือนจะมีปัญหา และหลงลืมที่จะไตร่ตรองให้ดีก่อนว่าทำไมเราถึงต้องปรับตัวให้เข้ากับทัศนะนั้นตั้งแต่แรก

การหันหลังให้กับสิ่งที่ทำให้อารมณ์เสีย และหมกมุ่นอยู่กับการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ การชั่งน้ำหนักมิตรภาพลงไปในแง่ของกำไรขาดทุน ทำให้เราถูกผูกมัดในรูปแบบของอัตวิสัยนี้ และปรับตัวเองให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด และความคาดหวังของผู้อื่น นี่เป็นอีกวิธีคิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่ขาดแคลน (ตัวเงิน ความมั่นคงฯ) แนวคิดนี้ทำให้คนยากจนถูกตำหนิสำหรับความโชคร้ายของพวกเขา จนนำมาซึ่งการแบ่งฝ่ายต่อต้านนายทุน และแทรกแซงเพื่อลดทอนแรงสนับสนุนสถานะของแรงงาน

การดิ้นรนต่อสู้ของแรงงานก็ยังเป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ควบคู่กับการกดขี่และอำนาจที่ไม่ชอบธรรม ประวัติศาสตร์การต่อสู้ไม่เพียงสะท้อนออกมาในรูปแบบเรื่องราวข้อเท็จจริง มีความพยายามสนับสนุนให้ผู้คนสร้างชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับตนเองโดยมุ่งเน้นไปที่ การศึกษา และความรู้ทางการเงิน ดังนั้นผู้ที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่ต่ำกว่า จึงถูกสั่งสอนวิธีตัดสินใจ แต่ไม่มีใครพูดเรื่องนี้กับกลุ่มคนที่เพียบพร้อมหรอกนะ

บริบทต่างๆ กำหนดวิธีที่เราคิด สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ล่องลอยได้อย่างอิสระ แท้จริงแล้วเป็นผลพวงของพลังทางสังคมที่ทำงานในรูปแบบที่ละเอียดอ่อน 

  • เมื่อไม่ได้รับความยุติธรรมก็ต้องต่อต้าน

การต่อต้านเกิดขึ้นทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกทางภาษา หรือการลอบบ่อนทำลายโดยผู้ต่อต้านลูกจ้างมักถูกมองข้าม หรือถูกสบประมาทว่าการต่อต้านของพวกเขาไม่ใช่การกระทำทางการเมือง เพราะไม่สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจได้  และการต่อต้านถูกวัดความสำเร็จด้วยการดู “ผลทางการเมือง” เช่น สามารถปฏิวัติโค่นล้มอำนาจเดิมได้โดยทันที เพราะ การต่อสู้ที่ปะทุออกมาอย่างเปิดเผยย่อมมีพื้นฐาน (infrapolitcs) มาจากการดิ้นรนขัดขืนเล็กๆน้อยๆแทบทั้งสิ้น

Photo by Library of Congress on Unsplash

อ้างอิง อ้างอิง2 อ้างอิง3 อ้างอิง4 อ้างอิง5 อ้างอิง6

Tags:

Bussinessworkค่าจ้างงานหนักทำงานธุรกิจ

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

The Broken Ladder (เมื่อบันไดหัก)

Next

The Rise of Virtual Human Influencers : มิติใหม่ของโลกโฆษณาด้วยการใช้อินฟูลเอนเซอร์ที่เป็น ‘มนุษย์เสมือน’

Next
April 19, 2022

The Rise of Virtual Human Influencers : มิติใหม่ของโลกโฆษณาด้วยการใช้อินฟูลเอนเซอร์ที่เป็น ‘มนุษย์เสมือน’

Previews
March 6, 2022

The Broken Ladder (เมื่อบันไดหัก)

Related Posts

Dating App ภิวัตน์ : โอกาสของคนโสดและธุรกิจ

by sopons
October 14, 2021

อินเทอร์เน็ตต้องการกฎที่ดีกว่า ไม่ใช่ผู้ตัดสินที่เข้มงวด

by sopons
December 27, 2021

อนาคตที่สดใสของเทคโนโลยี…จริงๆเหรอ?

by sopons
December 13, 2021

Subscribe to our newsletter and stay updated.

SOPON’S BLOG

© 2021, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About
  • Billion Brands
  • Blockdit

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Travel

Follow Us

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact