SOPON’S BLOG
2 เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จด้านการเงิน
November 28, 2022
สูตรลดน้ำหนัก 4 กิโล ใน 4 สัปดาห์ : ไม่ต้องพึ่งยา แถมยังไปกินชาบูอีกต่างหาก
November 26, 2022
ฟีดแบคที่ดี ไม่ได้ดีเสมอไป : รับมือยังไงเมื่อเจอฟีดแบคหนัก ๆ ตรง ๆ และต้องปรับตัว
November 24, 2022
ปีใหม่ คนเก่า : จะเปลี่ยนตัวเองได้ ต้องรับตัวเองที่ไม่สมบูรณ์ให้ได้ก่อน
November 21, 2022
20 บทเรียนจากนักจิตบำบัดที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น
November 20, 2022
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
Self-Improvement

4 อย่างในชีวิตที่เสียเวลาที่สุด : นอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังเสียพลังชีวิตไปด้วยอีกต่างหาก

sopons
November 4, 2022 One Min Read
552 Views
0 Comments

เราทุกคนล้วนทราบดีว่า ‘เวลา’ เป็นสิ่งที่มีค่าและหาซื้อไม่เติมไม่ได้ จึงไม่แปลกใจที่เรามีหนังสือหรือบทความมากมายเกี่ยวกับเคล็ดลับการทำงานและใช้ชีวิตเพื่อให้ใช้เวลาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด

แต่ก็มีหลายครั้งที่ผมมองย้อนกลับไปในชีวิตตัวเองแล้วรู้สึกว่าชีวิตบางช่วงก็ ‘เสียเวลา’ ไปกับบางอย่างที่ไม่ควรเสียเวลา เราไม่ได้พูดถึงการไถทวีตเตอร์ หรือนั่งดูเน็ตฟลิกซ์นะครับ พวกนั้นบางครั้งก็เสียเวลาจริง แต่มันมาจากนิสัยแย่ ๆ ที่ต้องแก้ไขมากกว่า

‘การเสียเวลา’ ที่จะพูดถึงเป็นเรื่องของการตัดสินใจและระบบความคิดมากกว่า ที่ทำให้มองย้อนกลับไปแล้วรู้สึกว่าไม่น่าไปเสียเวลาตรงนั้นเลย

1. ไม่ขอคำแนะนำหรือความช่วยเหลือเมื่อไม่รู้

ตอนที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ด้วยความที่เป็นเด็กนักเรียนต่างชาติและสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษยังไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่ จึงค่อนข้างประหม่าเวลาต้องคุยกับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะกับอาจารย์ กลัวถูกมองว่า ‘โง่’ ประมาณนั้น

ครั้งหนึ่งในคาบวิชาฟิสิกส์ อาจารย์ให้การบ้านมาซึ่งมันเป็นบทที่ผมสับสนมากบทหนึ่งเลย ครูให้ไปเขียนรายงานอะไรสักอย่าง จำได้เลยว่าหลังจากเดินออกห้องเรียนมาก็หน้าเสียเพราะไม่เข้าใจทั้งบทเรียน ทั้งงานที่ต้องทำส่ง แต่ก็เงียบไม่ยอมบอกใคร

กลับบ้านไปก็พยายามอ่าน พยายามค้นข้อมูลนะ แต่ก็ทำไม่ได้ เหมือนมันเหวอไปแล้ว ทำตัวไม่ถูก วันต่อมาพอครูเรียกให้เอาใบงานมาส่งที่หน้าชั้น (ครูให้เดินมาวางกันเอง ซึ่งผมก็ไม่ได้เดิน) แล้วครูก็เริ่มสอนบทต่อไป ตอนนี้ก็ยิ่งงงเพิ่มเข้าไปอีก คิดจะดรอปเรียนแล้วด้วยซ้ำเพราะรู้สึกว่าไม่ทันเพื่อน

พอจบคาบเรียนระหว่างที่กำลังเก็บของเดินออกจากห้องอาจารย์ก็เดินมาถามว่าทำไมผมไม่ส่งงานหล่ะ เพราะเช็คชื่อจากกองงานแล้วไม่เจอ ผมก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ สักพักแล้วก็บอกว่า ‘ผมไม่ค่อยเข้าใจบทที่ผ่านมาเลยครับ เลยทำไม่ได้’

คำหนึ่งของอาจารย์ที่ผมจำติดหัวเลยคือ

‘คุณอาจจะรู้สึกว่าโง่เวลาที่ต้องถามคนอื่น แต่คุณจะรู้สึกว่าโง่กว่าเดิมอีกเมื่อทำไม่ได้เพราะคุณไม่ยอมถามคนอื่น’

โอ้โหว มันเจ็บ แต่จริงมาก ๆ เลยหล่ะครับ

หลังจากนั้นครูก็เดินพาผมไปเจอติวเตอร์ฟิสิกส์ที่เป็นเด็กต่างชาติเหมือนกันคนหนึ่งแล้วบอกว่ามีอะไรให้ถามคนนี้เขาเรียนคลาสนี้มาก่อนและน่าจะสอนได้ดี หลังจากนั้นทุกเย็นผมก็ไปเรียนเสริม กล้าถามมากขึ้น เวลาไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้แล้วก็หาคนที่รู้มาสอน ไม่ค่อยกลัวหน้าเสียอีกต่อไป เพราะไม่อยากรู้สึกโง่ไปกว่าเดิมเพราะไม่ได้ถาม

2. พยายามแก้ไขความสัมพันธ์อันย่ำแย่

ความสัมพันธ์ทุกความสัมพันธ์ต้องใช้ความพยายาม ความอดทน และความเข้าใจ นี่คือเรื่องจริง ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะดีแค่ไหนก็ตาม แต่มันมีความแตกต่างอยู่ครับระหว่างความสัมพันธ์ที่ดี กับ ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ และการพยายามแก้ไขหรือบังคับให้ความสัมพันธ์แย่ ๆ ให้กลายเป็นดีได้นั้น…เสียเวลามากจริง ๆ

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ความสัมพันธ์ของผมกับแฟนช่วงชีวิตมหาวิทยาลัย เราคบกันสี่ปี ทุกอย่างค่อนข้างราบเรียบไม่ได้มีอะไร เพราะต่างคนก็ต่างเรียนเพื่อจะจบไปหางานทำ แต่เรื่องมาเกิดตอนหลังจากเรียนจบ เพราะเธอต้องกลับบ้านที่ญี่ปุ่นเพราะอยากทำงานที่นั่น ส่วนผมอยากหางานทำที่อเมริกา ก็ตกลงกันว่าจะคบกันแบบ long distance หรือความสัมพันธ์แบบระยะยาว พอผมได้กรีนการ์ดเธอก็ค่อยย้ายกลับมา ประมาณนั้น

ช่วงหนึ่งปีต่อมาถือว่าชีวิตผมค่อนข้างมืดมนพอสมควร เนื่องจากอยู่ห่างกันคนละช่วงเวลา กลางวันของผม คือกลางคืนของเขา การติดต่อพูดคุยกันก็ติด ๆ ขัด ๆ เธอได้งานที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งวัฒนธรรมญี่ปุ่นก็จะมีการไปดื่ม ไปกินเหล้ากันหลังจากทำงานเสร็จเป็นประจำ ส่วนผมก็จะต้องตื่นเช้ามาโทรหาคอยตามว่าเธอถึงบ้านรึยัง ตอนแรก ๆ ก็รับสาย หลัง ๆ มาเริ่มรับบ้างไม่รับบ้าง จู่ ๆ เธอก็บอกว่าเธอไปมีอะไรกับผู้ชายอีกคน และเธอก็บอกว่าเราควรจบกันแค่นี้ เธอก็บอกว่าเธอไม่รู้จะรักษาสัญญาได้ไหมว่าจะไม่มีคนใหม่ ซึ่งผมก็พยายามยื้อครับ (อ่าาา….ช่วงวัยเยาว์อันแสนเขลาของตัวเอง)

สุดท้ายก็ยื้อไปได้เดือนสองเดือน…สัมพันธ์อันย่ำแย่มันก็จบอยู่ดี

3. จมจ่ออยู่กับความผิดพลาดและความล้มเหลว

ผมเคยเขียนเรื่องนี้ไปแล้วในบทความที่พูดถึงหนังสือ ‘The Power of Regret’ บอกว่าการเรียนรู้จากความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ดีและควรทำ แต่การจมจ่ออยู่กับมันนั้นเป็นอะไรที่เสียเวลาและพลังชีวิตอย่างมากเลย

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่บ่งบอกว่ายิ่งเราจมจ่ออยู่กับอดีตมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีโอกาสที่ทำผิดพลาดแบบเดิมซ้ำอีกรอบ

ซึ่งมันก็มีเหตุผล ลองคิดดูว่าการจมอยู่กับอดีตนั้นทำให้รู้สึกว่าเราล้มเหลว พอล้มเหลว ก็ไม่รู้จะพยายามไปทำไม เมื่อพยายามไปก็ล้มเหลวอยู่ดี (อย่างในกรณีคนที่เป็นหนี้แล้วมีหนี้พอกพูนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อหนี้มากขึ้นเพราะรู้สึกว่ายังไงก็หลุดจากตรงนี้ไม่ได้)

แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมองข้ามความผิดพลาดและความล้มเหลวที่เกิดขึ้นนะครับ แต่เป็นการยอมรับว่าพลาด บอกตัวเองว่า ‘ [เติมชื่อตัวเองในนี้] มึงก็มนุษย์คนหนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น และมันไม่เป็นไรเว้ย นายจะโอเค ไม่มีใครโทษนายนะ’ แล้วก็ค่อย ๆ ขุดตัวเองออกมาครับ

ความล้มเหลวและผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์ สิ่งสำคัญคือลองทำดู อย่าเสียเวลาไปกับความรู้สึกกลัวว่าจะล้มเหลวด้วย เพราะสุดท้ายแล้วคุณจะเสียดายในสิ่งที่ไม่ได้ลงมือทำมากกว่าสิ่งที่ทำลงไปแล้ว

4. กังวลกับเรื่องของคนอื่นมากเกินไป

มันง่ายมากเลยนะที่จะหลุดไปในวงจรอุบาทถ์ของการติดกับดักความคิด ‘คนอื่นจะคิดยังไงนะ’ ‘ทำไมคนนั้นมีอันนี้’ ‘ทำไมคนนั้นถึงประสบความสำเร็จจัง’ ‘ทำไมคนนั้นชอบนินทาเรา’ ‘ทำไมเราถึงทำไม่ได้เหมือนคนอื่นนะ’ ฯลฯ

อารมณ์เหล่านี้จะไม่ว่าจะเปรียบเทียบ อิจฉา หรือ สนใจคนอื่น ๆ มากเกินไป เป็นเรื่องที่พอกลับมาดูเป็นการเสียเวลาสุด ๆ เลย ความรู้สึกที่ว่าเราทำไมมีไม่เท่าเขา ไม่เก่งเท่าคนอื่น รูปร่างไม่ดีเหมือนคนใน IG หรือไม่รวยเท่าเด็กอายุ 20 ที่ขายของได้วันละล้านสองล้าน ขับรถหรู มีบ้านเป็นห้าหกหลัง คนตามบนโซเชียลเป็นแสนเป็นล้าน ฯลฯ

คือเราเปรียบเทียบได้หมดแหละ และก็ไม่เคยดีพอดีด้วย อารมณ์พวกนี้มันเป็นตัวมารดูดเวลาและทำให้ตัวเองเสียอารมณ์ความรู้สึกมาก ๆ เลย คำแนะนำก็คือการแยกความรู้สึกเหล่านั้นออกมาครับ ลองใช้เทคนิคการถาม ‘ทำไม’ 5 ครั้งก็ได้

เช่น “อยากรวยเหมือนคนนั้นจังเลย”

“ทำไมเราถึงอยากรวย?” “ครอบครัวจะได้อยู่สบาย”
“ทำไมถึงอยากให้ครอบครัวอยู่สบาย?” “จะได้พาลูกเมียไปเที่ยวต่างประเทศได้”
“ทำไมถึงอยากพาลูกเมียไปเที่ยวต่างประเทศ?” “อยากสร้างความทรงจำที่ดี ๆ ด้วยกัน”
“ทำไมถึงอยากสร้างความทรงจำที่ดี ๆ ด้วยกัน?” “เพราะตอนนี้ทำงานหนักไม่ค่อยมีเวลา”
“ทำไมถึงไม่ลองผ่อนงานลงแล้วใช้เวลากับครอบครัวหล่ะ?” “…เออ…”

แน่นอนครับ แต่ละคนก็มีเรื่องหรือมีเหตุผลที่ต่างออกไป ซึ่งสุดท้ายแล้วมันอยู่ที่เราครับเมื่อแตกย่อยออกมาแล้วเราจัดการกับมันยังไง มีอะไรที่เราทำได้บ้างตอนนี้ไหม มีเป้าหมายอะไรที่พอจะทำได้รึเปล่า คือวิธีนี้ไม่ว่ายังไงก็ดีกว่าไปเสียเวลาคิดถึงคนอื่นนั่นแหละ

สุดท้ายครับเรื่องพวกนี้บางทีในขณะที่เราอยู่ในช่วงเวลานั้นเราจะไม่รู้สึกว่ามันเสียเวลาหรอก แต่พอหลุดออกมาได้มองย้อนกลับไปก็จะเห็นครับว่าช่างเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีประโยชน์กับชีวิตเลย ยิ่งมองเห็นมันเร็ว ก็ยิ่งแก้ได้เร็วครับ ยิ่งมีเวลาไปทำในสิ่งที่มีประโยชน์กับชีวิตและคนที่เรารักมากขึ้นด้วย

Tags:

first jobberself improvementบทความคนทำงานบทความพัฒนาตัวเองบทความสำหรับคนทำงานพัฒนาตัวเองอยากให้ชีวิตดีขึ้นอย่าเสียเวลาเสียเวลาโสภณชวนอ่านไม่ขอคำแนะนำ

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

ความสร้างสรรค์เกิดจากการตั้งคำถาม ​: บางอย่างที่น่าเบื่อ ก็สามารถดลใจให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ได้

Next

‘ร้านนี้ห่วยแตก’ แต่คนกลับไปรอแ*กเพียบเลย : เข้าใจเหตุผลทางจิตวิทยาว่าทำไมรีวิวแย่ ๆ กลับช่วยส่งเสริมยอดขายให้ดีขึ้นได้

Next
November 7, 2022

‘ร้านนี้ห่วยแตก’ แต่คนกลับไปรอแ*กเพียบเลย : เข้าใจเหตุผลทางจิตวิทยาว่าทำไมรีวิวแย่ ๆ กลับช่วยส่งเสริมยอดขายให้ดีขึ้นได้

Previews
November 3, 2022

ความสร้างสรรค์เกิดจากการตั้งคำถาม ​: บางอย่างที่น่าเบื่อ ก็สามารถดลใจให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ได้

No Comment! Be the first one.

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Posts

สิ่งที่ควบคุม (ไม่) ได้ : ทางเลือกและสงครามที่ไม่มีวันชนะ

by sopons
October 23, 2022

15 คำตอบเคล็ดลับสัมภาษณ์งาน : เมื่อเจอคำถามตอบยาก คำตอบเหล่านี้อาจช่วยคุณให้หลุดออกมาได้

by sopons
November 8, 2022

ผิดทุกคน ยกเว้นตัวเอง : ‘โรคคลั่งไคล้ตัวเอง’ โทษคนรอบข้างแต่ไม่เคยมองสิ่งที่ตัวเองทำ

by sopons
October 22, 2022

ตัวคุณคือศัตรู : เมื่ออีโก้จากความสำเร็จมันโตเกินตัว

by sopons
November 14, 2022

Subscribe to our newsletter and stay updated.

SOPON’S BLOG

© 2021, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About
  • Billion Brands
  • Blockdit

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Travel

Follow Us

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact