Book Smith – ร้านหนังสืออิสระที่เชื่อว่าหนังสือเล่มยังไม่ตาย
คุณอาร์ต – คุณสิโรตม์ จิระประยูร เจ้าของร้าน Book Smith คุณอาร์ตเล่าให้ต่ายฟังว่าก่อนจะมาเป็นร้าน BookSmith ตัวคุณอาร์ตเองเป็นกรรมการผู้จัดการเอเชียบุ๊คมาก่อน มาเปิดร้าน BookSmith เมื่อปี 2012 คุณอาร์ตเล่าว่าตัวคุณอาร์ตเองอยู่ในวงการธุรกิจหนังสือมาตั้งแต่ต้น จนภายหลังทำงานที่นั่นมาสักระยะหนึ่งก็อยากทำธุรกิจ ก็เลยมองดูธุรกิจหนังสือ
“ตอนนั้นไม่ได้อิ่มตัว เอเชียบุ๊คส์เปิดมา 60 กว่าสาขาได้ แต่ตอนนั้นเรารู้สึกว่าอยากช้าลงนิดนึงกับสไตล์การทำงาน หลายอย่างก็รู้สึกเหนื่อย ตั้งแต่จบมาก็ไม่เคยลาพักร้อนยาวๆ ถึงเวลาก็อยากจะพักบ้างเลย อยากพักบ้างเลยออกมาเปิดร้านหนังสือของตัวเอง”
เรื่องที่ทำให้มาเปิดร้านหนังสือคุณอาร์ตเคยเขียนเล่าว่าแรงบันดาลใจเกิดมาจากภาพยนต์เรื่อง You’ve got mail กับ Nothing Hill
“หนังสองเรื่องนั้นทำให้เรามีความสนใจในธุรกิจ และพอมันมีรับงานที่เอเชียบุ๊คส์เราก็เลยลองสมัครดู”

- คุณอาร์ตไม่ได้เป็นคนเชียงใหม่ ทำไมเลือกมาเปิดร้านหนังสือที่เชียงใหม่?
คุณอาร์ตเล่าให้ต่ายฟังว่ามีความคุ้นเคยกับเชียงใหม่พอสมควร ทั้งมีบ้านอยู่ที่นี่หลังหนึ่งแล้วก็เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยพายัพ เวลาจะพักผ่อนคุณอาร์ตก็จะมาที่เชียงใหม่เกือบทุกเดือน เลยรู้สึกว่าบ้านเมืองเพื่อนฝูงก็มี ก็คุ้นเคย เลยมาเปิดตรงนี้
Book Smith เปิดมา 2012 ก็มีอายุเกือบ 10 ปีแล้ว ในตอนนั้นคุณอาร์ตเล่าให้ต่ายฟังว่า ช่วงนั้นวงการหนังสือเล่มยังถือว่าก้ำกึ่งเพราะว่ามีสิ่งที่เรียกว่า E-Book เกิดขึ้นมา คุณอาร์ตเล่าให้ต่ายฟังว่าสถานการณ์ของร้านหนังสือในตอนนี้ยังดีกว่าในตอนนั้น แต่ว่าสุดท้ายแล้วเจ้า E-Book ไปต่อไม่ไหว สิ่งที่เข้ามาแทนก็เลยกลายเป็น Social Media
“ตอนนั้นอีบุ๊คส์ยังแรงอยู่เราเห็นความก่ำกึ่งแต่ว่าในปัจจุบันมันชัดเจนว่าอีบุ๊คส์ไปไม่ไหวแต่หนังสือเล่มยังไหวอยู่ สิ่งที่เข้ามาแทนก็ซื้อโซเชียลมีเดีย ซึ่งก็น่าหวั่นไหวกว่าอีบุ๊คส์อีก”
“เป็นเรื่องระหว่างหนังสือเล่มกับเทคโนโลยี แต่เราก็ได้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียเยอะอยู่เหมือนกัน”
- ตอนนี้ร้านบุ๊คส์สมิธมีคาเฟ่
“ที่เราต้องมาทำตัวคาเฟ่เนี่ยเพราะว่าลูกค้าถามเราเยอะเหลือเกิน คือว่าเขาก็อยากจะอยู่ในร้านให้นานขึ้น”
ตอนที่เปิดสาขาแรกที่นิมมานก่อนจะย้ายไปที่วันนิมมานสิ่งที่คาดหวังกับธุรกิจเป็นยังไงบ้าง
“จริงๆผมไม่ได้คาดหวังกับธุรกิจ ก็พอรู้ว่าธุรกิจหนังสือภาษาอังกฤษมันยังสูง เราก็ดูโปรแกรมต่างๆ ทิศทางของการพัฒนาประเทศและพัฒนาการของการศึกษามันจะเป็นระบบสองภาษา ภาษาอังกฤษเลยยังพอมีตลาดของมันอยู่ แต่เรามาดูเราก็รู้สึกว่าผู้เล่นในตลาดยังมีน้อยเกินไป เราเลยทำขึ้นมาเพื่อให้ตลาดเติบโตขึ้นอีก”
หนังสือภาษาอังกฤษในร้านคุณอาร์ตเล่าให้ต่ายฟังว่าเขาเป็นเลือกเอง ตอนนี้ก็ยังเลือกอยู่ มันเลยเป็นคำว่า BookSmith ที่เหมือนช่างที่คัดเลือกของให้กับลูกค้า
“การคัดเลือกหนังสือมันต้องมีความเข้าใจตัวโครงสร้างตลาด และเข้าใจหนังสือ มันจะมีเรื่องของสารของข้อมูลพอสมควร ผมก็เลยอยากเลือกเองอยู่”
การทำร้านหนังสือในภาพยนต์มันดูสวยหรู มันดูโรแมนติกมากๆเลยความเป็นจริงแล้วมันเป็นอย่างนั้นไหม
“มันก็ผสมผสานกันนะครับ จริงๆแล้วมันเป็นในมุมที่ออกจะยากลำบากด้วยซ้ำ ช่วงโรแมนติกก็พอมีบ้าง อย่างช่วงที่ขายดีๆเนี่ยโรแมนติกละ” (คุณอาร์ตหัวเราะ)
“ถ้าช่วงไหนที่ Performance ดีๆเราก็รู้สึกดีที่ว่าลูกค้ามาเลือกหนังสือของเรา มาคุยมาแลกเปลี่ยนความรู้กับเรา แต่บางช่วงอย่างช่วงโควิดอย่างนี้ต่อให้เราเลือกหนังสือมาดีแค่ไหน เขาก็ไม่ได้มา ไม่ได้เข้าถึงเราก็รู้สึกบั่นทอนกำลังใจ”
ประโยคจากหนัง
“Kathleen. You are a lone reed, standing tall, waving boldly in the corrupt sands of commerce.”
คุณอาร์ตบอกว่าประโยคนี้เป็นประโยคที่ทำให้คุณอาร์ตสามารถผ่านอุปสรรคมาได้เรื่อยๆ

“จริงๆมันก็เหมือนปลอบใจตัวเองว่าในภาวะที่ทุกอย่างมันซวนเซ บางทีในโลกดูเหมือนว่ามันไม่ได้มีภาวะการแข่งขันกันแต่จริงๆแล้วในโลกของหนังสือมันมีกลไกตลาดที่คุมอยู่”
“ถ้าเราเปรียบหนังสือ หนังสือภาษาอังกฤษก็เหมือนยอดเขาที่มันอยู่บนยอดเขา”
“ยุค 2012 เป็นยุคแห่งการเริ่มต้นสองภาษา เด็กสมัยนี้คือเด็กที่โตมากพอที่จะเข้าใจสองภาษาแล้ว”
ร้านของคุณอาร์ตก็เหมือนกับวางแผนระยะยาวในการสร้างธุรกิจสำหรับหนังสือเพื่อรองรับคนในเจนเนอเรชั่นใหม่
กระบวนการที่คุณอาร์ตคัดหนังสือมา
“กระบวนการเราก็จะใช้ธรรมดา ผมไม่ได้ปิดกำแพงด้านภาษา ผมสามารถไปคุยหรือนัดหมายกับเขาได้ ผมมีแวร์เฮ้าท์และก็มีคนที่ติดต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไรในยุโรปก็จะสามารถส่งมาที่โกดังที่ลอนดอนได้ เมื่อได้น้ำหนักก็ให้ ship เข้ามา”
หนังสือที่ขายดีในร้านคือหนังสือพวก Art&Design เพราะว่าหนังสือขายดีขึ้นอยู่กับกลุ่มที่สั่งมา

- คู่แข่งออนไลน์
“ผมไม่ได้มองว่าแข่งนะ แต่ถ้าจะซื้อถ้าเราไปดูโครงสร้างราคาจริงๆสั่งกับบุ๊คส์สมิธจะถูกกว่าแล้วเราก็มีการการันตี ถ้ามีการดาเมจ ถ้าลูกค้าเจอหนังสือมีปัญหา ลูกค้าไม่แฮปปี้ผมก็จะบอกว่าเก็บเล่มนั้นไว้อ่านก่อนเดี๋ยวผมหาเล่มใหม่ให้ หรือถ้าได้เล่มใหม่แล้วพอใจแล้วค่อยส่งคืน แต่ถ้าเป็นลูกค้าประจำผมก็จะบอกว่าไม่เป็นไร ผมให้ ผมไม่จำเป็นต้องคิดเล็กคิดน้อยหรือทำให้วุ่นวาย”
“สั่งกับผมรอระยะเวลาพอๆกันหรือบางทีอาจจะนานกว่า ผมสั่งจากอังกฤษมาจนถึงบ้านไม่ได้เสียค่าอะไรเป็นพิเศษ และถ้ามีปัญหาเขาก็แค่บอกเราได้ เรามีตัวตนพูดง่ายๆ”
- อุปสรรคที่เจอและผ่านมาได้ยังไง
“อุปสรรคเรื่องการขายหนังสือผมไม่เคยเจอนะครับ ผมจะเจอเรื่องอื่นเช่น ตอนย้ายสาขาเพราะว่าตึกมีการขาย เราเลยมีการคิดว่าลูกค้าจะตามไหม จะบอกลูกค้ายังไงและเรามีเวลาแค่ 60 วันตอนนั้นเราก็โชคดีแหละ ตอนนั้นก็ผ่านไปด้วยความโชคดี”
“อุปสรรคด้านการขายเราไม่ค่อยมีเพราะเรามีหน้าร้านแล้วก็เป็นโฮทส์เซลเลอร์ด้วย”
“5 สาขาตอนนี้มีที่นิมมาน สนามบินเชียงใหม่สองจุด สนามบินดอนเมือง เกสรที่กรุงเทพ”
“เรารับออกแบบห้องสมุดและจัดหนังสือเข้าสถาบันการศึกษาด้วย เราเป็นคน supply หนังสือให้ด้วย บางที่ก็ให้เรามาออกแบบฟังชั่น Book Smith ไม่ใช่แค่ร้านขายหนังสืออย่างเดียวแต่ทำทุกอย่างเกี่ยวกับหนังสือ”
“เราพยายามจะอยู่เล็กๆ แต่จริงๆแล้วหลังบ้านเราใหญ่มาก”
- นิตยาสาร Book Seller
“ผมอ่านเพราะว่ามันจะบอกว่าปีหน้ามีหนังสืออะไรที่จะใหญ่ออกมาบ้าง มันเป็นการเคลื่อนไหวของวงการหนังสือที่อาจจะไม่มาก”
- ทำไมถึงดูหนังเรื่องเดิม
“อย่างหนึ่งคือชอบแล้วเราก็ได้มองหาความรู้ใหม่ๆในหนัง ยิ่งดูเราก็ยิ่งมองเห็นถึงจุดหนึ่ง บางทีถ้าเราสังเกตเราก็จะได้ความรู้ใหม่ๆ”
- การเปลี่ยนแปลงของคนที่อ่านหนังสือ
“ผมคงไม่ใช่เป็น Final Answer แต่ผมเห็นเด็กอายุน้อยๆมาอ่านหนังสือที่ยากขึ้น ความเข้าใจเดิมที่ว่าเขาจะอ่านอะไรคลาสิคง่ายๆไม่ใช่แล้ว เขาจะอ่านหนังสือยากๆดีๆทั้งนั้นเลย อินเทอร์เน็ตทำให้เขาหลากหลายและหนังสือที่ลูกค้ากลุ่มนี้สั่งเข้ามาหลายๆเล่มคอนเทนดีมาก ผมว่าเขามีการอ่านและมีการเป็นตัวเอง มีตัวตนที่สูง แน่วแน่แล้วก็จับแนวได้ — เขาจะไม่ได้อ่านในกระแส”
“เด็กรุ่นใหม่ที่จริงแล้วรู้ว่าเราต้องการอะไรมากกว่า ที่ผมเจอเยอะคือเขาอ่านแนวปรัชญา แล้วก็แนวดีไซต์ก็เป็นดีไซต์ที่ลึกลงไปอีก มีรายละเอียดและซับซ้อนลงไปอีก”

- ทิศทางของร้าน
“ในอนาคตเราอาจจะต้องยุบสาขาลงเพื่อทำให้หลังบ้านกว้างขึ้น — จริงๆแล้วมันก็อยู่ที่อนาคตนะครับ”
คุณอาร์ตเล่าให้ฟังว่าโควิดก็บอกไว้ว่าสิ่งที่ทำให้เราอยู่รอดได้ก็เพราะออนไลน์ ตอนนี้มีหน้าร้านก็มีลูกค้าอยู่บ้างแต่ในอนาคตเราอาจจะไม่จำเเป็นต้องมีหน้าร้าน
“ดิ้นรน ดื้อรั้นในสิ่งที่ทำและปรับตัวให้อยู่ในยุคสมัย มีเทคโนโลยีอะไรก็ต้องสร้างทีมและเอาคนรุ่นใหม่มาช่วย ให้มันเป็นการผสมผสานระหว่างคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่”
เชียงใหม่เป็นเมืองปราบเซียนจริงไหม
“ไม่จริงครับ เชียงใหม่ก็มีเนเจอร์ของเชียงใหม่อยู่แล้ว เชียงใหม่เป็นเมือง 6 สังคม จะมีซีซั่น เชียงใหม่ถูกสร้างขึ้นมาเพราะนักท่องเที่ยว ผมไม่ได้คิดว่าเชียงใหม่เป็นเมืองปราบเซียนเพราะการทำธุรกิจมันมีทั้งโอกาส ความเสี่ยง ปัญหาที่หลากหลายขึ้นอยู่กับว่าเราจะจัดการยังไง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราก็ต้องอยู่ให้ได้”
–
“เชียงใหม่โลเคชั่นไหนน่าทำธุรกิจไม่น่าทำธุรกิจ ไม่ใช่ว่าโลเคชั่นตรงนั้นจะเหมาะทำธุรกิจได้ตลอดไป”
ข้อมูลติดต่อ :
เฟซบุ๊คแฟนเพจ : The Booksmith