SOPON’S BLOG
“สุขมากขึ้น ร่ำรวยขึ้น และสงบมากขึ้น” : เปิดประสบการณ์ ‘No Spend Year’ ของนักข่าวฟรีแลนซ์ที่เคยใช้เงินฟุ่มเฟือยกับปี 2024 ที่ตัดค่าใช้จ่ายเหลือแค่ที่จำเป็น
November 28, 2024
ด้านมืดของ ‘บริโภคนิยม’ จากสารคดี ‘Buy Now! The Shopping Conspiracy’ มนุษย์โหมบริโภค โลกจึงกลายเป็นกองขยะ
November 27, 2024
อย่าให้สังคมกำหนดว่าเรา ‘ต้องมีอะไร’ ถึงจะมีความสุข
November 27, 2024
แม้ไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายมีทุกวัน : 5 อย่างที่ต้องเตรียมพร้อมด้านการเงิน เมื่อตลาดแรงงานไม่มั่นคง
November 27, 2024
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว แต่วางหินวันละก้อน
November 26, 2024
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
Interview

Good Mood Food : เพราะอาหารคือความสุข Red Box

sopons
July 16, 2021 2 Mins Read
263 Views
0 Comments

Redbox กับต่ายที่จริงแล้วเรารู้จักกันมาค่อนข้างนานแล้ว ถ้านับคือน่าจะเป็นลูกค้าคนแรกๆของต่ายเลยก็คงไม่ผิดนัก แต่ด้วยความที่ต่างคนต่างยุ่งกับการทำงานเราก็ไม่เคยได้นั่งคุยกันจริงๆจังๆสักที จนกระทั่งวันหนึ่งเราไปเจอกันทีไปสัมภาษณ์คุณจ้ำที่ร้าน Krisp แล้วบังเอิญเจอ “เชฟแดน” ชินดนัย บุญเฉลียว และ “คุณพราว” พิมพ์มาดา กรรณกุลสุนทร ที่นั้นพอดีเลยมีโอกาสได้นัดวันและคุยกันสักที

บ้านสีขาวหลังเล็กๆกลางเมืองที่ร่มรื่น บรรยากาศสงบในซอยเล็กๆที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีร้านอาหารซ่อนตัวอยู่ “เชฟแดน” และ “คุณพราว” เดินออกมาต้อนรับแล้วพาต่ายและทีมงานชมร้านที่ตบแต่งแนวโฮมมี่ มีความเป็นบ้านที่เดินเข้ามาแล้วสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นทันที

RED BOX ไม่ใช่กล่องสีแดงตามความหมายแต่อย่างใด หากได้รู้จักทั้งคู่แล้ว REDBOX เริ่มจากธุรกิจอาหารกล่องที่บรูใน ที่นำเสนอให้รูปแบบที่แปลกใหม่ Trendy สะอาดและมีคุณภาพ R_E_D จึงย่อมาจาก Ready | Eatable | Distinctiveness นั้นเอง

เชฟแดนเป็นเด็กเชียงใหม่ เรียนจบมงฟอร์ตคนหนึ่งแต่หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้ไปเรียนต่อที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย

คุณแดนไม่มีแพชชั่นในการทำอาหารมาก่อนที่จะมาซิดนีย์เลย 

“ตอนนั้นผมก็มีย้ายร้านไปบ้าง เริ่มจากเด็กล้างจาน หั่น ยำแล้วก็ย้ายร้าน พอย้ายแล้วผมก็มีประสบการณ์ล้างจานหั่นยำมาแล้วผมก็ขอผัด อาจจะไปเทรนด์เทคนิค บางร้านทำสด บางร้านใช้ซอส มันก็เลยกลายเป็นว่าเราต้องฝึกความเร็ว ความอดทน ขยัน งานที่เมืองนอกก็จะให้ข้อคิดมาประมาณนี้”

“ผมทำทั่วซิดนีย์เลย ร้านอาหารไทย ญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน อีกอย่างหนึ่งก็คือผมติดเพื่อนด้วย เพื่อนย้ายไปร้านไหนผมก็ตามไปร้านนั้น แล้วมันก็จะมีจุดเปลี่ยนคือตอนที่ผมไปอยู่ที่ร้าน ‘Spice I Am’ ซึ่งเป็นร้านที่เทพที่สุดในซิดนีย์ มันใกล้เคียงไทยที่สุดและลูกค้าเยอะ ร้านนี้เขาเริ่มสอนให้ทำรสชาติให้เป็นไทย”

“ต่อมาผมก็อยากเปิดร้านอาหารไทยเป็นของตัวเอง ด้วยความที่เห็นเพื่อนๆเราเปิดร้าน ทำธุรกิจ เราก็อยากเปิดบ้าง ซึ่งพื้นฐานแล้วครอบครัวผมมีร้านอาหารอยู่ที่บรูไน แล้วก็มีร้านอาหารไทยอยู่ 4 สาขา ก็จะเป็นอาหารประเภท comfort thaifood ข้าวผัด ผัดกระเพรา ผัดไทย อะไรประมาณนี้ ตอนนั้นผมก็ปรึกษาที่บ้านว่าอยากเปิดที่ซิดนีย์บ้าง แต่ที่บ้านบอกว่า ไม่ได้  ถ้าจะเปิดให้มาเปิดที่บรูไนละกันเดี๋ยวจะเปิดให้อีกสาขาหนึ่ง ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะไปบรูไน แต่พอดีลกันละเราก็โอเค”

“เมืองที่ผมอยู่ชื่อคัวลาเบลัท(Kuala Belait) ซึ่งเมืองนั้นเป็นเมืองที่เขาจะขุดเจาะน้ำมัน ครึ่งหนึ่งเป็นคนท้องถิ่น อีกครึ่งหนึ่งจะเป็นต่างชาติ ซึ่งต่างชาติที่มาก็จะเป็นวิศวกรเพราะเขาขุดเจาะน้ำมัน ผมก็ไปเปิดร้านอาหารใต้ออฟฟิศและตอนนั้นก็ได้ไปเจอคุณพราว”

คุณพราวเล่าให้ต่ายฟังว่าตัวคุณพราวเองก็เป็นคนเชียงใหม่ ทำงานสาย HR ในสายปิโตเลียมในแถบ Southeast Asia ซึ่งตอนหลังก็ได้มาอยู่ที่บรูไน คุณพราวบอกกับต่ายว่าชีวิตของคุณพราวตอนนั้นก็เหมือนกับพนักงานธรรมดา เข้าทำงาน กินข้าวกลับบ้าน และตอนแรกก็ไม่คิดจะกลับบ้านด้วยกะว่าจะอยู่ที่นั่นจนเกษียณ

ตอนอยู่ที่บรูไนคุณพราวมีงานเสริมเป็นปาร์ตี้แพลนเนอร์ ด้วยความที่คุณพราวชอบจัดโต๊ะ จัดจาน แต่งร้าน เตรียมสถานที่ ก็เลยลองทำธุรกิจหลายอย่างเจ๊งไปเพราะไม่มีเวลาก็เยอะ

“ตอนนั้นพราวก็รู้สึกว่ามันว่าง อีกอย่างตอนนั้นเราสองคนก็คบกันแล้วก็เลยชวนกันทำอาหารกล่อง เพราะคุณแดนชอบทำอาหาร ส่วนพราวชอบถ้วยจานช้อนซ้อม เราก็เปิดเป็นไอจีเล็กๆชื่อ Red Box ประมาณ 2017 ทำเป็นงานพาร์ทไทม์”

“ตอนนั้นเราก็สังเกตว่าคนในโรงงานจะมีคนอยู่สามประเภทคือ ห่อข้าวไปกินเอง ซื้อจากรถที่มาขายราคาถูกๆไม่กี่เหรียญ และชาวต่างชาติที่จะกินเมนูเดียวซ้ำๆ ตอนนั้นเราก็คิดว่าถ้าเราทำกับข้าวเป็นกล่องแบบนี้ไปน่าจะขายได้ เริ่มแรกเลยเราขาย 7 เหรียญ มีขนม มีข้าว ตอนนั้นก็ทำกันสองคน ตอนเช้าทำอาหาร ตอนสายๆขับรถไปส่ง”

“ช่วงแรกก็ขายไม่ค่อยได้หรอกเพราะมันก็แพงและคนยังไม่ค่อยรู้จัก แต่ต่อมาเราก็ที่รู้จักจากการที่ว่าเราชอบทำบุญ ชอบไปบริจาคแต่ที่นั้นจะไม่ค่อยมีวัด เราก็เลยจัดเป็นปาร์ตี้แชร์ริตี้ แล้วเราก็เอาเงินไปบริจาคให้กับบ้านเด็ก ซึ่งตอนนั้นมีนักข่าวมาทำข่าว เราก็เลยเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น”

“ตอนที่ Red Box มันอยู่ได้ระดับหนึ่งแล้ว เราก็เลยอยากให้มันมีหน้าร้าน ที่บรูไนก็จะมีช่องๆ CUBE SHOP เราก็ไปเช่าโซนอาหารแล้วก็เอาอาหารไปวาง ตอนนั้นเราก็มีเค้กมีเครื่องดื่มแล้วเอาไปวาง เราก็ส่งตอนเช้าเช็คตอนเย็น ตอนนั้นทุกอย่างก็กำลังไปได้สวยเลยแต่เราก็ต้องกลับมาเมืองไทย”

“เหตุผลหนึ่งก็คือเราอยากกลับมามีหน้าร้านแล้วก็มีเรื่อง VISA ทำงานต่างๆ เราก็เลยตัดสินใจว่ากลับมาเมืองไทยดีกว่า”

ตอนนั้นบริษัทน้ำมันชื่อดัง ก็ติดต่อมาหาคุณพราว เป็นงานประจำที่ตำแหน่งดี เงินก็ดี ตอนนั้นตัดสินใจลำบากมาก ถ้าเกิดว่าไม่รับโอกาสตรงนี้ก็จะไม่มีอีกแล้ว คืออายุก็เริ่มมากขึ้น จะไปหางานประจำแบบนี้ก็คงไม่ง่ายแล้ว

“เราก็ทำทุกอย่างสวดมนต์ จับฉลาก ขอพรพระ ให้ตัดสินใจให้ถูก มันไม่ง่ายเลยจริงๆ”

“ความคิดเราต่างกันมากและเราไม่เคยทำงานด้วยกันจริงๆ เราก็เลยมาคุยกันเยอะมากกว่าพาร์ทเนอร์ร้านอาหารปกติ เราคุยกันถึงว่าถ้าต้องทะเลาะกัน ถ้าจบ จะจบแบบไหน เราคุยกันมาถึงตรงนี้เลยนะ”

แต่เมื่อตัดสินใจที่จะทำร้านอาหารจริงๆ เชฟแดนและคุณพราวก็มาที่บ้าน ทั้งสองคนเล่าว่าวันแรกที่เปิดเข้ามาบ้านหลังนี้น้ำท่วม ก็ใช้เวลา 9 เดือน ทาสี ขนของ ตัดหญ้า ขนหิน ทำทุกอย่าง เหลือแต่ห้องครัวและระหว่างนั้น แม่ของเชฟแดนก็บอกให้ทำอะไรขายระหว่างนั้น ตอนนั้นทั้งคู่ก็ขายน้ำพริก ทำเค้กส่งขายร้านกาแฟ ส่งอะไรทั่วๆไปให้พอมีเงินกินข้าว บ้านหลังนี้ไฟก็ต้องทำใหม่ทั้งหลัง ทั้งวันก็มาเป็นพนักงานก่อสร้าง อาหารที่กินก็เป็นอาหารลด 50% จากห้าง

“ลูกค้าคนแรกจำได้ว่าคือแม่ แม่เข้ามาพาแขกเข้ามา 10 คน แม่ก็บอกชั้นจะกินเป็นคอร์ส คราวนี้ก็โทรหาเพื่อนให้มาช่วยจัดจานล้างจานหน่อย และตอนนั้นสิบคนที่แม่เชิญมาเป็นนักธุรกิจในเมืองเชียงใหม่หมดเลย”

“พอกินเสร็จเขาก็บอกว่าขอเรียกมานั่ง แล้วจากนั้นก็วิจารณ์ทีละคน ตอนนั้นเหมือนรายการท็อปเซฟเรายืนน้ำตาซึม ยิ่งกว่าออกรายการอีก”

“เขาก็มีพูดบ้างนะว่าอาหารแบบนี้ การจัดจานแบบนี้ ราคาแบบนี้คนเชียงใหม่จะไม่กิน ดูจากข้างนอกบ้าน ดูไม่ออกว่าจะเป็นร้านอะไร ตัวบ้านก็เหมือนบ้านสถานทูต เหมือนเขาจำกัดธีมมาละว่าต้องเป็นยังไง”

แต่มีอยู่คนหนึ่งที่คิดต่างออกไป

“เพื่อนของแม่คนสุดท้ายเขาก็บอกว่าถ้าจะทำแบบนี้ก็ทำต่อไป อย่าเป๋เวลาคนคอมเม้นรับฟังได้ แต่แก่นของเราคืออะไร รสมือเรา รสชาติเรา เราอาจต้องดัดแปลงให้เข้ากับปากคนไทย ไม่ใช่อาหารไทยเมืองนอก”

“เราบอกไม่ถูกนะว่ามันเป็นอาหารอะไร ไทย comtemp thai หรือว่าอะไร แต่มันคือตัวเรา คนไทยที่ไปอยู่ที่นั่นที่นี่มาแล้วก็เอามาผสมกันจนเป็น Red Box ”

“ทำแบบนี้มาได้ 8 เดือน ลูกค้าก็เริ่มเข้าเรื่อยๆ แล้วก็ได้ Best Thailand Taster มาแบบงงๆ ต่อมาก็ได้ TOP 40  เชียงใหม่ จากนั้นก็ได้ ThaiSelected ที่ธนาคารไทยพานิชย์ และพีคสุดคือทำมาได้ 1 ปี 8 เดือนได้รางวัลมิชลินเพลท”

“ตอนนั้นใจชื่นขึ้นมาก และร้านนี้ถ้าเราไม่รักจริงๆ เราต้องทะเลาะกันจนเลิกกันแล้วแน่ๆ คงมาไม่ถึงจุดนี้ได้ถ้าเราไม่ได้รัก — มันเครียดนะ เราต้องทำทุกอย่างกว่าจะถึงจุดนี้ระหว่างทางมันเยอะมาก ต้องอดทนต้องทำไปให้ดีที่สุดของทุกวันๆ”

“ผมอยากเห็นเรสบ็อกซ์เป็นแบบนี้หลายๆที่ เราอยากทำให้มันครบรส อาหาร บริการ เราพยายามให้คนที่มาทานมีความสุขและกลับไป”

“กินที่ร้านกลับไปต้องมีความสุข เพราะเรสบ็อกต์ไม่ใช่แค่อาหาร”

เชฟแดนทิ้งท้ายไว้ว่าร้านนี้เกิดจากความรักของคุณพ่อคุณแม่ และของทุกคนที่หวังดีกับเชฟแดนและคุณพราว ทั้งคู่เลยอยากจะส่งต่อออกไปในรูปแบบอาหารให้ทุกคนได้ชิม

คงบอกได้ยากว่า อาหารแบบเรสบ็อกต์จะมีรสแบบไหน เราอยากให้คุณได้ลอง

เชฟแดน – คุณพราว

ช่องทางติดต่อ

เฟซบุ๊คแฟนเพจ : The Redbox Restaurant

เบอร์โทรศัพท์ : 092 979 4542

แผนที่ : https://g.page/redboxthailand?share

Tags:

chiangmaiInterviewRedBoxThaiFoodสัมภาษณ์อาหารไทยฟิวชั่น

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

กาแฟที่คุณชอบบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับคุณ

Next

ร้านต๊อกเกาหลีคู่เด็กเชียงใหม่ : K-POP TTEOKBOKKI CHIANGMAI

Next
July 17, 2021

ร้านต๊อกเกาหลีคู่เด็กเชียงใหม่ : K-POP TTEOKBOKKI CHIANGMAI

Previews
July 15, 2021

กาแฟที่คุณชอบบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับคุณ

Related Posts

อิ่มหมีพีมัน : 4 สาขา ภายใน 4 ปี บุฟเฟ่ต์ชาบูหมูสไลด์ที่มีเป้าหมายคือประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า

by sopons
August 4, 2021

Bunny Buns – ขนมปังของครูสอนดนตรีกับร้านอาหารที่แอบเปิดโดยที่บ้านไม่มีใครรู้

by sopons
May 28, 2021

จุดเชื่อมต่อของยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนผ่าน : 5 ทศวรรษของศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่กับการปรับตัวสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

by sopons
June 15, 2021

Book Smith – ร้านหนังสืออิสระที่เชื่อว่าหนังสือเล่มยังไม่ตาย

by sopons
October 16, 2021
SOPON’S BLOG

STUFF WORTH READING

© 2022, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Psychology

Follow

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact