SOPON’S BLOG
“สุขมากขึ้น ร่ำรวยขึ้น และสงบมากขึ้น” : เปิดประสบการณ์ ‘No Spend Year’ ของนักข่าวฟรีแลนซ์ที่เคยใช้เงินฟุ่มเฟือยกับปี 2024 ที่ตัดค่าใช้จ่ายเหลือแค่ที่จำเป็น
November 28, 2024
ด้านมืดของ ‘บริโภคนิยม’ จากสารคดี ‘Buy Now! The Shopping Conspiracy’ มนุษย์โหมบริโภค โลกจึงกลายเป็นกองขยะ
November 27, 2024
อย่าให้สังคมกำหนดว่าเรา ‘ต้องมีอะไร’ ถึงจะมีความสุข
November 27, 2024
แม้ไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายมีทุกวัน : 5 อย่างที่ต้องเตรียมพร้อมด้านการเงิน เมื่อตลาดแรงงานไม่มั่นคง
November 27, 2024
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว แต่วางหินวันละก้อน
November 26, 2024
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
FeaturedThoughts

iPhone Evolutionary Dead-end – เมื่อวิวัฒนาการของไอโฟนหยุดชะงัก

sopons
October 17, 2020 One Min Read
528 Views
0 Comments

สิบปีก่อน iPhone เปิดประตูแห่งเทคโนโลยีบานใหม่ของความเป็นไปได้และเปลี่ยนโลกของมนุษย์ผู้ใช้งานหลายพันล้านคนบนโลกใบนี้ไปตลอดกาล – แต่ความจริงแสนโหดร้ายก็คือว่า Apple ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ทุกปี และตอนนี้สิ่งที่ชัดเจนยิ่งกว่ากล้องสามตาก็คือพวกเขามาถึงทางตันของวิวัฒนาการซะแล้ว

กลายเป็นเรื่องที่ “ซ้ำซาก” ไปซะแล้วสำหรับงานอีเวนท์เปิดตัว iPhone ประจำปีของ Apple จำไม่ได้แล้วว่าครั้งล่าสุดที่ตื่นเต้นอดหลับอดนอนเพื่อรอดูคือเมื่อไหร่ ทุกๆปีเราก็จะเจอเรื่องเดิม หลายๆอย่างที่เคยได้ยินมาแล้วเมื่อปีก่อน ปีก่อนหน้า และปีก่อนนู้น – โปรเซสเซอร์ที่เร็วขึ้น กล้องที่ดีขึ้น (ปีนี้จำนวนมากขึ้นด้วย) สีใหม่ ซอฟแวร์อัพเดท และฟีเจอร์เล็กๆน้อยๆ…

แน่นอนว่าทุกปีเราก็จะเห็นคนออกมาบ่น (เหมือนผมนี่แหละ) ว่างานอีเวนท์เปิดตัว iPhone นั้นน่าเบื่อไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ไม่มีการเปิดตัวอะไรที่เซอไพรส์เลย (ปีนี้อุตส่าห์มีความหวังว่าจะได้เห็น AR glasses เท่ๆสักอัน แต่ก็สุดท้ายก็ไม่มี ‘one more thing’) ไม่ใช้วัสดุที่แตกต่างไปจากเดิม (คาดหวังกันไปถึงคาร์บอนไฟเบอร์) หรือมีเทคโนโลยีสร้างภาพฮอโลแกรมอย่างที่เห็นในสตาร์เทรค

แต่ประเด็นมันไม่ใช่ตรงนั้น ถ้ามีคนเอาปืนมาจ่อหัวแล้วบังคับให้บอกว่าอีเวนท์เปิดตัว iPhone ตัวไหนที่รู้สึกว่าตื่นเต้นครั้งสุดท้าย? น่าจะตั้งแต่ช่วงประมาณปี 2014 ที่เปิดตัว iPhone 6 ที่มีหน้าจอใหญ่ขึ้นเพื่อแข่งกับเจ้าอื่นๆในตลาดนั้นแหละ ตอนนั้นยอดขายของ iPhone เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก (จาก 169 ล้านเครื่องในปี 2014 ไปเป็น 231 ล้านเครื่องในปี 2015 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 37%) ซึ่งหลังจากนั้นมาก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย


ความจริงก็คือมันแทบไม่มีอะไรใหม่ให้พูดถึงเกี่ยวกับ iPhone เลย และการที่เราเห็น (หรืออ่าน) เหล่านักรีวิวทุกช่องทางพยายามงัดกลยุทธทุกอย่างเพื่อทำคอนเทนท์เกี่ยวกับตัว iPhone ที่ออกมาใหม่ในแต่ละปีนั้นก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างปวดใจ คือแพทเทิร์นมันก็แบบเดิม benchmarks ดีขึ้น กล้องดีขึ้น ถ่ายรูปกลางคืนได้สวยขึ้น แบตเตอรี่อึดขึ้น…วนแบบนี้ซ้ำๆ เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจอีกต่อไปที่เราเห็นหลายๆคนใช้ iPhone ที่อายุมากกว่า 2-3 ปีขึ้นไปด้วยซ้ำ

จำเมื่อห้าสิบปีก่อนได้ไหมที่ยานอวกาศ Apollo 11 ลงจอดบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรก เราตื่นเต้นกับมันมาก เอามนุษย์ไปดวงจันทร์แล้วกลับมาเลยนะเว้ย! แต่หลังจากนั้นที่ยานอวกาศลงจอดที่ดวงจันทร์ มันก็ตื่นเต้นแหละ แต่ก็น้อยลงๆเรื่อยๆ เพราะเราก็แค่กลับไปดวงจันทร์เหมือนทุกครั้ง การเปิดตัว iPhone ในปี 2007 นั้นแหละ มันเป็นก้าวสำคัญที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง ความกล้าหาญ เผชิญหน้ากับความเป็นไปไม่ได้ แต่สุดท้ายมันก็สำเร็จและได้เปลี่ยนมุมมองของเราที่มีต่อโทรศัพท์ในมือไปตลอดกาล หน้าจอสัมผัสที่ใช้นิ้วเพื่อสั่งงานนั้นเปรียบดั่งพรจากสวรรค์เลยทีเดียว แม้ว่าตอนนั้น Steve Jobs ต้องโน้มน้าวผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับโทรศัพท์มือถือที่แบตเตอรี่อึดห้าวันมาเหลือวันเดียวจะเป็นเรื่องยากก็ตาม แต่มันเป็นความเสี่ยงที่ต้องทำ เหมือนกับตอนที่ยานอวกาศ Apollo 11 ลงจอดบนดวงจันทร์ได้นั้นแหละ

แต่มันก็ยากที่จะแยกแยะระหว่าง Apollo 12 และ Apollo 15 เหมือนกับที่ยากจะแยกแยะ iPhone 7, iPhone 8 แม้แต่ iPhone XR, iPhone 11 หรือ iPhone 12 (คือนอกจากที่ไม่มีปุ่ม Home และใช้ Face ID นอกนั้นก็ยังเป็น iPhone ที่คุ้นเคย) ซึ่งถ้าจะให้เท่าเทียมแล้วมองไปอีกด้านอย่าง Samsung เราก็แทบจะเห็นแนวทางเดียวที่เหมือนๆกัน S7, S8…S10 มันก็แทบจะเหมือนกันทุกอย่าง มีอัพเกรดนิดๆหน่อยๆ

มันเหมือนกับโปรเจคของ Apollo นั้นแหละที่ติดแหง๊กอยู่กับที่ เทคโนโลยีที่จะสร้างฐานบนดวงจันทร์หรือส่งมนุษย์ไปดาวอังคารยังมาไม่ถึง เหมือนกับสมาร์ทโฟนที่เราไม่สามารถไปไหนได้เพราะเทคโนโลยีมีอยู่แค่นี้ เรากำลังอยู่ในจุดที่เทคโนโลยีหยุดชะงักและตันไปหมด จึงทำให้การพัฒนา iPhone นั้นติดอยู่กับที่ด้วยเช่นกัน

ช่วงก่อนมี iPhone เราก็ติดอยู่ในวงจรแบบเดียวกันนี้ เหมือน PCs หรือ Game Consoles ที่เมื่อมีรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน ทุกอย่างๆที่เพิ่มเติมเข้ามาก็เป็นเพียงอัพเกรดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น แน่นอนว่าเราเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยรวมอย่างเช่นฮาร์ดไดร์ฟจากที่หมุนติ้วๆกลายเป็น SSD หรืออย่างหูฟังที่ตอนนี้ก็กลายเป็นไร้สายกันแทบทั้งนั้น กล้องวงจรปิดที่เชื่มต่อกับอินเตอร์เน็ตที่มีอยู่ทุกหัวมุมถนน หรืออย่าง smart speakers ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่บริษัทเหล่านี้เอาเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาปรับเปลี่ยนเล็กๆน้อยมากกว่า

แล้วเราจะออกจากการหยุดชะงักแบบนี้ได้ไหม? คำตอบคือได้แหละแต่อาจจะไม่ใช่เร็วๆนี้

ลองคิดถึงเรื่องนี้จากอีกปรากฏการณ์หนึ่งที่เรียกว่า “วิวัฒนาการ” ก็ได้ นักชีววิทยาหลายคนที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้เชื่อว่าสปีซี่ส์ไม่ได้ปรับเปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เป็นการปรับเปลี่ยนที่รวดเร็วและตามมาด้วยช่วงเวลาที่เงียบสงบ ทฤษฎีการเว้นวรรคของดุลภาพ (punctuated equilibrium) นั้นบอกว่าถ้าไม่มีแรงกดดันจากภายนอกให้เกิดความเปลี่ยนแปลงสิ่งมีชีวิตก็จะไม่เปลี่ยนแปลง มันจะเกิดความเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อมีแรงกดดันจากภายนอกเช่นอุกาบาตตกใส่โลกหรือมีโอกาสใหม่เช่นออกซิเจนในอากาศ สิ่งมีชีวิตก็จะใช้สิ่งเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์ เพราะฉะนั้นตัวผลักดันจะมาจากภายนอก ซึ่งถ้ากลับไปพูดถึงสมาร์ทโฟนตอนนี้มันก็เป็นอะไรไม่ได้มากกว่าสมาร์ทโฟนนั้นแหละ


เรากำลังอยู่ในจุดที่เทคโนโลยีกำลังชะงัก ต้องรอโอกาสจากภายนอกที่จะมาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง (ลองคิดว่ามีเทคโนโลยีชนิดใหม่ที่ทำให้แบตเตอรี่สมาร์ทโฟนสามารถอยู่ได้สองอาทิตย์ เราคงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงแน่นอน) แต่ตอนนี้ก็อย่างที่เห็น พอใจในส่ิงที่มี ดูหน้าจอเดิมๆไป กล้องดีกว่าเดิมอีกหน่อย แบตฯอึดกว่าเดิมอีกนิด บางทีเราอาจจะเห็นแว่นตา AR ปีหน้า วันหนึ่งเราอาจจะหลุดพ้นจากจุดที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้

Tags:

deadevolutioniphoneiphone 12iphone 12 miniiphone 12 proiphone 12 pro maxnewstuck

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

ยุคทองของ Netflix ได้ผ่านไปแล้ว?

Next

3 ทศวรรษของ The Mac Portable – โปรดักส์ล้มเหลวที่ทำให้ Apple MacBook มายืนอยู่ตรงนี้

Next
October 17, 2020

3 ทศวรรษของ The Mac Portable – โปรดักส์ล้มเหลวที่ทำให้ Apple MacBook มายืนอยู่ตรงนี้

Previews
October 17, 2020

ยุคทองของ Netflix ได้ผ่านไปแล้ว?

No Comment! Be the first one.

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Posts

ถ้าเจอ Tim Cook ผมอยากบอกเขาว่า…

by sopons
October 23, 2020
SOPON’S BLOG

STUFF WORTH READING

© 2022, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Psychology

Follow

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact