SOPON’S BLOG
“สุขมากขึ้น ร่ำรวยขึ้น และสงบมากขึ้น” : เปิดประสบการณ์ ‘No Spend Year’ ของนักข่าวฟรีแลนซ์ที่เคยใช้เงินฟุ่มเฟือยกับปี 2024 ที่ตัดค่าใช้จ่ายเหลือแค่ที่จำเป็น
November 28, 2024
ด้านมืดของ ‘บริโภคนิยม’ จากสารคดี ‘Buy Now! The Shopping Conspiracy’ มนุษย์โหมบริโภค โลกจึงกลายเป็นกองขยะ
November 27, 2024
อย่าให้สังคมกำหนดว่าเรา ‘ต้องมีอะไร’ ถึงจะมีความสุข
November 27, 2024
แม้ไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายมีทุกวัน : 5 อย่างที่ต้องเตรียมพร้อมด้านการเงิน เมื่อตลาดแรงงานไม่มั่นคง
November 27, 2024
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว แต่วางหินวันละก้อน
November 26, 2024
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
Interview

“รู้จักรถ ให้เหมือนรู้จักแฟน” ไลฟ์สดขายรถมือสองที่เน้นความจริงใจ – คุณมิ้นท์ บุญธิดา พิสูจน์ ร้าน “รถมือสองคนเชียงใหม่”

sopons
June 22, 2021 3 Mins Read
466 Views
0 Comments

หลังจากวันที่ต่ายได้เจอคุณเชอรี่ (https://blog.busyrabbit.co/kradoomthong-cnx/) วันก่อน คุณเชอรี่แนะนำว่ามีเพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักกันชื่อคุณมิ้นท์ เป็นเจ้าของธุรกิจที่ขายรถมือสองออนไลน์ ต่ายก็ “อ๋ออ ครับๆ ไม่ได้อะไร” เสร็จปุ๊บคุณเชอรี่ต่อท้าย “ด้วยการไลฟ์สด!!!” เออ….อันนี้น่าสนใจ ต่ายเคยเห็นคนที่ขายเสื้อผ้า ขายขนม อาหารแห้ง หรือสินค้ายิบย่อยต่างๆ แต่ไม่เคยเห็นการไลฟ์สดขายรถยนต์มือสอง มันมีคนซื้อจริงๆเหรอ ทำไมคนถึงกล้าซื้อรถออนไลน์ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นรถด้วยซ้ำ เพราะขนาดเราเอง เราอยากซื้อรถ เราต้องไปดูแล้วดูอีก ต้องเอาเพื่อนที่รู้จักวิธีการดูรถไปด้วย ทำยังไงหล่ะ? นี่เป็นคำถามที่ต่ายมีในหัวตอนนั้น สุดท้ายสู้ความคันสมองอยากรู้ไม่ไหวเลยต้องนัดคุณมิ้นท์สัมภาษณ์

เช้าวันที่ต่ายไปถึงที่เต๊นท์รถตรงแถวสารภี เลี้ยวรถเข้าไปจะเห็นป้ายรูปคุณมิ้นท์ยืนยกมือไหว้ “สวัสดีเจ้า” อยู่ด้านหน้าชัดเจน คุณมิ้นท์อธิบายพร้อมรอยยิ้มว่า “พอดีลูกค้าบางท่านที่มาจากต่างถิ่น ไม่แน่ใจว่าใช่ตรงนี้รึเปล่า แต่ เขาจำหน้าเราได้ ติดตามเราออนไลน์ เราเลยเอารูปไปติดไว้ด้านหน้าเลย เวลาเขามาตามหาเขาก็จะบอกว่าน้องคนที่พูดคำเมืองนั้นนะ” ต่ายเลยเข้าใจแล้วว่าตอนนี้คุณมิ้นท์จะไม่ใช่แค่เจ้าของธุรกิจเต้นท์ขายรถมือสอง เรียกว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์คนหนึ่งไปแล้ว เพราะรวมกันแล้วระหว่างเฟสบุ๊คกับยูทูปของ “รถมือสองคนเชียงใหม่” มีคนตามกว่า 1 แสนคนเข้าไปแล้ว

คุณมินท์กับคุณพ่อ

รถมือสองคนเชียงใหม่ เป็นกิจการของคุณพ่อที่คุณมิ้นท์สืบทอดมา ซึ่งก็เหมือนลูกหลานคนทำธุรกิจทั่วไป เติบโตขึ้นก็ไม่อยากทำงานของที่บ้าน คุณมิ้นท์เลยไปทำงานธนาคารตอนที่เรียนจบ

“ทำงานที่แบงค์สักพักก็เบื่อค่ะ” คุณมิ้นท์เริ่มเข้าประเด็นเกี่ยวกับการทำงานของตัวเอง 

“แล้วตอนนั้นก็มีรายการประกวด SME ของธนาคารกสิกร มิ้นท์ก็เขียนโครงการส่งเข้าไปประกวดแล้วก็ผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้าย ต้องไปถ่ายรายการที่กรุงเทพฯ ตอนนั้นเอาซาลาเปาของแม่เข้าประกวด ก็ผ่านเข้ารอบไปเรื่อย ๆ จนเหลือ 9 คนสุดท้าย รายการเขาบอกว่าหนูต้องอัดรายการ 15 วัน ซึ่งตอนนั้นทำงานอยู่ ถ้าจะลา 15 วันก็ต้องลาออก มิ้นท์ก็เลยคิดว่าไหนๆก็ไหน ลาออกไปเลย” เอากันง่ายๆแบบนั้นเลย แต่สุดท้ายผลการแข่งขันก็จบลง คุณมิ้นท์ไม่ได้รับรางวัล แต่ก็ได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจและกลับมาอยู่ที่บ้าน “ทำซาลาเปาอย่างจริงจังปีหนึ่ง” 

แล้วก็มีเหตุพลิกผัน

“พ่อย้ายเต้นท์จากที่เดิมมาแล้วมันใหญ่ขึ้น แต่ไม่มีคนช่วยพ่อ เราก็คิดว่าถ้าพ่อไปจ้างคนอื่น เขาก็จะเป็นแค่ลูกจ้างเหมือนเดิม แล้วลูกจ้างจะช่วยพ่อได้ดีเท่าเรามั้ย เพราะความรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของต่างกัน ธุรกิจใหญ่ขึ้นต้องใช้เงินเยอะ อีกอย่างธุรกิจนี้ มันต้องหมุนเงินไว หนูก็เลยคิดว่างั้น มันต้องเป็นตัวเราที่ต้องมาช่วยแล้วแหละ”

ปัญหาติดอยู่อย่างเดียวตรงที่ว่า คุณมิ้นท์ไม่มีความรู้หรือความชำนาญเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์เลย นอกจากขับรถยนต์เป็นก็ทำอะไรไม่ได้อีกเลย

“ทุกอย่างเป็น 0 เลยยยยย!!!!” (หัวเราะเสียงดัง)

“คือ ตั้งแต่โตมาก็ไม่เคยสนใจเรื่องรถเลย แต่ตอนนั้นสิ่งหนึ่งที่หนูคิดว่าหนูมีก็คือความสามารถเรื่องออนไลน์ เฟสบุ๊คบูมมาก ทำแฟนเพจอยู่สองอันคือซาลาเปามายด์มิ้นท์ และ รถมือสองคนเชียงใหม่ ทำเสร็จปุ๊บก็รู้สึกว่ามันก็เหมือนๆของคนอื่น” เพราะ ทุกคนก็สามารถทำได้เหมือนกันแบบนี้ ไม่มีอะไรแตกต่างกับของคนอื่นเลย

“เริ่มคิดละว่าอยากทำอะไรให้มันแหวกแนว ตอนนั้นเฟสบุ๊คก็พึ่งออกฟังชั่นใหม่มาคือ Facebook Live เห็นคนขายเสื้อผ้าแล้ว Engagement เยอะ มีคนมา F อะไรเยอะมาก็เลยรู้สึกว่ามันน่าสนุกดี”

แต่ มันก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเริ่มต้นได้ง่ายๆซะเมื่อไหร่

“เราเห็นเขาขายกันเราก็กลัวนะ กลัวว่าเขาจะหลอกกันหรือเปล่าแต่คนอื่นเขาก็ดูกันนี่ มันก็น่าจะทำอะไรได้”

“ช่วงนั้นก็ยังถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ค เล่นเหมือนแฟนเพจเฉยๆเลย เหมือนเพจอื่นนั้นแหละ แต่เราก็คิดขึ้นได้ว่าแค่เฟสบุ๊คมันไม่พอ”


เฟสบุ๊คเหมือนเราไปเช่าที่เขาน่ะ ถ้าเกิดวันหนึ่งเฟสบุ๊คหายไปเราจะทำอะไร ก็เลยทำเว็บไซต์ รถมือสองคนเชียงใหม่ ขึ้นมาเพราะเว็บไซต์คือที่ของเรา

“ทำเว็บขึ้นมาเหมือนแคตตาล็อก ให้ลูกค้าเลือก เพราะ ว่าบางทีลูกค้ามาถามเราก็ต้องย้อนเอารูปมาให้เขาดูใหม่ซึ่งบางทีมันก็เสียเวลาก็เลยทำเว็บไปเลยดีกว่า แล้วก็เอารถของเราไปลงในนั้น  ตอนนั้นคุณพ่อมีรถประมาณ 30-40 คัน เราก็เอาไปลงแล้วลูกค้าก็บอกว่าเห็นไม่ชัด แล้วก็โทรมาหา”  

“หนูเลยทำไลน์แอดเพิ่มเพื่อให้ลูกค้าดูข้อมูลผ่านการส่งไลน์ ถ้าโทรมาขอดูรูปเพิ่มเติม ก็ส่งไปให้ดูเลย ตอนนั้นมี ไลน์แอดร้าน แฟนเพจ เว็บไซต์”

แต่ก็ยังไม่พออออ!!! “ลูกค้าบางคนก็จะทักมาว่าพี่อยากดูคันนี้ คันเดียวเลย อยากดูเป็นวีดีโอ เราก็มาคิดว่าจะทำยังไงดี”

“หนูก็มาคิดว่าอยากเห็นคันนี้คันเดียวโดย ที่ไม่ต้องเสียเวลา ตอนนั้นก็คิดขึ้นมาได้ว่า งั้นอัดวิดีโอสิเวลามีอะไรจะได้เห็น คือถ้าจะให้ลูกค้ามาดูเอง เขาก็เสียเวลา อากาศมันก็ร้อน เราก็เลยคิดว่าถ่ายเป็นคลิปไปเลยดีกว่า ไม่เสียเวลาดี  ถ้าพอใจแล้วค่อยมาก็ได้”

นี่คือจุดพลิกผันของธุรกิจ จากการขายรถยนต์มือสองที่เต๊นท์ กลายเป็นเริ่มอัดคลิปวีดีโอ โชว์รถยนต์แต่ละคันส่งให้ลูกค้าที่สนใจ

“ตอนแรกก็อัดคลิปสั้นๆในไลน์ แต่ด้วยความว่าเราก็ขี้เกียจ เราก็เลยไปถามคนทำเว็บว่าจะเอาคลิปไปลงในเว็บได้ไหม เขาก็แนะนำมาว่าให้ไปทำลงยูทูปเพราะพื้นที่เว็บไม่น่าจะพอ” และ นั้นคือการเข้ามาของยูทูปนั้นเอง

“ตอนนั้นหนูก็ดูดคลิปจากเฟสบุ๊คที่หนูไลฟ์อ่ะมาลงยูทูป คลิปที่ลูกค้าถามเป็นคัน หนูก็เอามาลง ทำอย่างนั้นประมาณ 3 เดือน ทำทุกวันเลย” ซึ่งสำหรับหลายคนที่กำลังทำอยู่จะรู้ว่าของพวกนี้ต้องใช้เวลากว่าจะมีคนเริ่มเห็น “ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมีคนติดตามเลยนะคะ แต่ก็มีคนมาติดตามประมาณ 1,000 คน แล้วยูทูปก็บอกว่า คุณมีคุณสมบัติที่จะสร้างรายได้กับยูทูปได้แล้ว คุณเปิดช่องกับเราไหม ให้เราลงโฆษณาทำรายได้ไป แล้วเราก็ไปหาข้อมูลเพิ่ม แล้วเราก็เปิดเป็นการโฆษณาให้ข้อมูลไป จากนั้นเวลาลูกค้ามาติดต่อหนูก็จะส่ง link ให้ลูกค้าแทน”

“ตอนแรกๆ ช่วงสามเดือนแรกก็เงียบๆไม่มีคนสนใจแต่มีคนติดตามและก็มีคนโทรมาหา ไลน์มาหา มันก็เป็นเหมือนกับการสะสม ต้องใช้เวลาบางคนเขาก็มาหาที่นี่เลย ที่ตรงนี้ต้องมีรูปหนูติดด้วยนะคะเพราะบางคนเขาอยากมาเจอ (หัวเราะ!!!!)”

เพราะอย่างที่บอกว่าตอนนี้คุณมิ้นท์ไม่ใช่แค่คนดูแลร้านขายรถยนต์มือสองแล้ว เขาเป็นอินฟูลเอนเซอร์ที่เริ่มมีคนติดตาม มีแฟนคลับของตัวเอง

“ตอนแรกๆคือหนูงงมากที่คนติดตามมา เขาก็บอกว่าเขารู้จักเราจากยูทูป”

การทำยูทูปมันก็เหมือนการที่หนูแสดงตัวตนของตัวเองออกมาบนโลกออนไลน์ แล้วเขาจะรู้จักหนูและเชื่อถือเรามากขึ้น

ต้องบอกว่าความสำเร็จของการขายออนไลน์นั้นเริ่มส่งผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ใช่แค่คนในพื้นที่เท่านั้นที่เห็นการไลฟ์ขายรถของคุณมินท์หรือติดตามช่องยูทูป แต่เริ่มมีคนจากต่างพื้นที่เข้ามาหาด้วย

ลูกค้าคนแรกที่มาจากต่างจังหวัดหนูจำได้เลยชื่อว่าพี่วันดี เขามาสองคนแม่ลูกเลย มาจากนครปฐม เขานั่งรถทัวน์มาจากนครปฐมและเอาเงินสดมาสามแสน แล้วก็โทรมาหาหนูบอกว่ามาจากนครปฐมแล้วก็เอาเงินสดมาซื้อรถ (หาาาา!!!!)

“ตกใจมากเลยตอนเขาโทรมาหา ด้วยความที่เขาเป็นผู้หญิงเราก็เลยกล้าเอารถไปรับเขา แล้วก็พาเขามาที่ร้าน พาไปเปิดห้องพัก คือพาไปพักผ่อนก่อน เป็นโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าต่างจังหวัด เขาตั้งใจมาก”

คุณมิ้นท์ถามเขาว่าทำไมถึงมาไกลขนาดนี้? เขาก็บอกว่า “เขาก็ดูมาหลายที่แต่ไม่มั่นใจ มาเจอมิ้นท์เขาบอกว่ารู้สึกว่าถูกชะตาเพราะดูในยูทูปและเฟสบุ๊ค เขาก็ดูแล้วก็บอกว่าเราเนี่ยสื่อสารกับเขาแล้วดูไม่โกหก เราจริงใจนะ เราไม่ได้โกหก เขาก็เลยโทรมาติดต่อ ขอข้อมูลจากพนักงานเราหรือพ่อเรา เราก็ให้ข้อมูลเต็มที่ เขาก็เลยมั่นใจและนั่งรถมาหา” เพราะความเชื่อใจล้วนๆ และนั้นก็ไม่ใช่เคสเดียว เพราะหลังจากนั้นก็เริ่มมีมาเรื่อยๆ

“วันนั้นมีคุณยายมาด้วย พอเขามาถึงหนูก็เลยพาไปเที่ยว นั่นเป็นครั้งแรกเลยนะคะที่ได้พาลูกค้าไปเที่ยวดอยสุเทพ (หัวเราะ!!) พอไปเที่ยวเราก็ส่งเขากลับอีกวันหนึ่ง เราประทับใจมากแล้วก็แฮปปี้มากด้วย ไม่คิดว่าเขาจะตั้งใจมาหาเราขนาดนี้ — จากนั้นก็มีลูกค้าที่ตั้งใจมาหาเราเรื่อยๆ”

ลูกค้าที่เห็นไลฟ์บางทีอาจจะยังไม่ซื้อทันที อาจจะดูเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่ก็มีบางรายที่เห็นปุ๊บสักพักก็เข้ามาซื้อเลยเพราะรู้สึกว่าคันนี้แหละที่กำลังตามหาอยู่

“มีลูกค้าคนหนึ่งเคยมาที่นี่แล้ว แต่ไม่มีรุ่นที่เขาอยากได้ เขาก็กลับไป วันหนึ่งรถเข้ามาใหม่ มิ้นท์ก็ไลฟ์ปกติเลย อีกครึ่งชั่วโมงเขาก็มาหาที่ร้านเลยแล้วก็บอกว่ารถรุ่นนี้แหละที่เขาอยากได้ เขาก็มาเห็นแล้วก็บอกว่าพี่จะเอาคันนี้แหละ พี่อยากได้” ควักเงินซื้อเงินสดเลย เป็นลูกค้ากลุ่มที่ซื้อเงินสดแล้วก็มีเป้าหมายอยู่แล้วไม่ใช่ดูไปเรื่อยๆ 

มิ้นท์ว่าเฟสบุ๊คเนี่ยเหมือนกับตลาดนัดที่จะมีทุกอย่างๆ  แต่ ถ้าติดตามมาจากยูทูปมันก็เหมือนเขาตั้งใจที่จะมาหาอยู่แล้ว ซึ่งก็ขึ้นกับการตัดสินใจ ว่า ชอบแบบไหนมากกว่ากัน

แต่ อย่างที่คุณมิ้นท์บอกว่าไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถเลย แบบนี้กว่าจะไลฟ์ขายต้องใช้เวลาเรียนรู้เกี่ยวกับรถแต่ละคันนานไหม?

“ช่วงคันแรกๆก็จะงงๆหน่อย แต่พอศึกษามาเรื่อยๆเราก็จะจับจุดได้ว่ารถแต่ละคันมันพิเศษตรงไหนและต้องพูดถึงตรงไหน เพราะเราเอามาจากคำถามของลูกค้า”

“Mindset แรกของมิ้นท์ก็คือมิ้นท์เชื่อว่าลูกค้ายังไม่เคยใช้และไม่รู้จัก”

เพราะฉะนั้นเลือกรถก็เหมือนเลือกแฟน เราต้องทำความรู้จักก่อนว่า รถคันนี้เป็นแบบไหน เหมาะกับ วิถีชีวิตของเรามั้ย เข้ากันได้รึเปล่า เรียนรู้ในส่วนข้อดี ข้อเสีย เพื่อ ที่จะได้เลือกได้เหมาะกับตัวเอง

“บางทีลูกค้ามีแค่ราคามาเลยแต่ว่าไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับรถประเภทนี้ เช่น ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าคือขับรถอยู่ในเมือง ก็เป็นแค่ซิตี้คาร์หรืออีโคคาร์ก็พอแล้ว แต่ลูกค้าอยากได้ฟอร์จูนเนอร์ มายเซ็ทของแรกของเราก็คือการแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลการใช้งานและความเหมาะสมของรถแต่ละประเภท ว่าเหมาะกับการใช้งานยังไงแน่นอนว่าต้องมีเรื่องของฟังก์ชั่นต่างๆที่อยู่ในรถ เราก็ต้องแนะนำลูกค้าได้ด้วย” แต่เรื่องการให้ข้อมูลก็เรื่องหนึ่ง แต่ อะไรหล่ะที่ทำให้ลูกค้าเชื่อถือเรามากขึ้น

“วิธีการดูรถของมิ้นท์ด้วยค่ะ เช่น การแกะขอบยาง อันนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะบางทีลูกค้าดูรถไม่เป็นเขาก็จะเลือกรถที่ราคาถูก ซึ่งบางทีรถมือสองจะเลือกที่มันถูกมากไม่ได้ เพราะ ราคารถมือสองแปรผันตรงกับสภาพรถ”

ราคาของที่นี่ไม่ได้ถูกที่สุด แต่เราเน้นราคาสมเหตุสมผลกันกับคุณภาพ

“หนูก็ไม่ได้ขายแพงก่อนจะตั้งราคาหนูก็จะเช็คราคากับทุกร้านก่อน แต่ว่าที่หนูจะขายคือหนูขายคุณภาพ หนูจะไม่ขายรถชน รถชนหนักหนูจะไม่รับ รถที่ชนหนัก รถที่มีปัญหา รถแช่น้ำ หนูจะไม่รับเลยเพราะรถชนหนัก มันเหมือน คนที่ไม่สบายหนักเกือบตาย เหมือนจะตายแล้วพยายามเอากลับมา สุดท้ายก็ต้องเป็นภาระอยู่ดี  หนูอยากให้ลูกค้าได้รถที่มันดีๆซื้อไปแล้วเหมือนซื้อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในราคาที่ถูกลงมากกว่า”

อาจเป็นรูปภาพของ สถานที่ในร่ม

ก่อนที่จะซื้อก็ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ใจ “ต้องดูก่อนว่ารถชนหนักไหม มิ้นท์กับคุณพ่อ เราก็จะมีลิฟเช็ครถและยกดูช่วงล่าง เอาแค่ไม่ชนหนักเพราะไม่ชนหนักนี่ก็ดีแล้วเพราะว่ารถมันผ่านการใช้งานมาแล้วมันต้องมีบ้างที่เสื่อมตามสภาพ เรามีรับประกันให้ลูกค้า 1 เดือน เสียซ่อมฟรีอะไหล่ฟรี เพราะ ปกติรถที่ซื้อมาเราจะซ่อมตามอาการที่เห็นจากนั้นเราก็เอามาจอดไว้ รถมือสองเวลาเสียจะรู้ก็ต่อเมื่อเราใช้มันทุกวัน”

แล้วแบบนี้คุณพ่อเริ่มเห็นไหมครับว่ามันเริ่มขายได้จริงๆ ตอนแรกเขาดูเหมือนจะไม่เชื่อ แต่คุณมิ้นท์ก็มีวิธีแก้ไขที่ดีมากๆ โดยการ “เอาเบอร์โทรศัพท์พ่อใส่ไปวีดีโอเลย เวลาลูกค้าโทรมาหาเขาก็จะโทรหาพ่อเลยแล้วเขาก็จะพูดเอง ให้ยืมเสียงคนอื่นไปพูดดีกว่าให้พูดเอง”

ลูกค้าที่เดินทางมาหาก็ว่าสุดยอดแล้ว แต่ดูเหมือนว่ายังมีเคสที่ไม่เคยเห็นรถเลยแล้วตัดสินใจซื้อเพราะเชื่อใจคุณมิ้นท์ขนาดที่ว่า “คุยกันผ่านไลน์ แล้วก็เซ็นเอกสารทำเอกสารทุกอย่างผ่านหมดเลย เขาก็บอกว่าพี่เชื่อน้อง ตอนนั้นหนูก็ถ่ายรถรอบคันเลย ถ่ายแบบชัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ อธิบายการใช้งาน พูดชื่อลูกค้าและส่งคลิปให้เลย หนูก็ส่งรถไปกรุงเทพลูกค้าก็รับที่กรุงเทพเพราะติดโควิดมารับไม่ได้” 

นี่คือการเปลี่ยนไปของพฤติกรรมของลูกค้าอย่างแท้จริง “คนที่ใช้รถมือสองไม่ใช่ว่ารถไม่ดีนะคะ อย่างรถที่อยู่ข้างหลังนี้เป็นรถที่ถูกยึดมาจากโควิดหมดเลย ไมล์ต่ำที่สุดที่หนูเคยได้มาคือ 2,000 km. เพราะเศรษฐกิจมันไม่ดี และเวลาคนซื้อผ่อนไม่ไหวธนาคารก็ยึด และส่งให้เต๊นท์รถมือสองซื้อไว้ ร้านก็จะเลือกซื้อ เกรดที่ดีที่สุดมาเป็นล๊อตใหญ่ๆ”

เรียกได้ว่า ยุคCovid รถประมูลจึงเป็นรถที่ออกมาได้เพียงไม่กี่เดือนแล้วผ่อนไม่ไหว เจ้าของโดนยึดรถ เพราะ พิษเศรษฐกิจ ไม่เหมือนรถประมูลในยุคก่อนๆ

“เวลาลูกค้าเข้ามาแล้วงง ข้อมูลเยอะๆ มิ้นท์จะแนะนำตามที่เขาอยากผ่อน บอกว่ามีราคาเท่านี้ ใช้ชีวิตแบบนี้ก็จะพาเข้าประเภทรถเลย”

อยากให้เขาได้รถที่ดีและไม่เป็นภาระ

นั้นคือแนวคิดที่ไม่เอาเปรียบลูกค้าและทำให้เข้าใจแล้วว่าทำไมแม้ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ ยังมีลูกค้าเข้ามาหา มาติดตาม มาดูรถ ยังขายได้ ต้องถือว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว

ความสำเร็จในการทำธุรกิจไม่ใช่ว่าเราได้เงินเยอะที่สุดแต่เราได้รับความสุขจากมันด้วย

มันมีเคสหนึ่งที่หนูรู้สึกว่าแฮปปี้มาก คือ คุณตาคุณยายคนหนึ่งขับรถมาจากฮอด แล้วมาตามหาหนูที่ร้านแล้วยายอยากได้รถสักคันหนึ่งไว้รับหลาน ยายเห็นมิ้นท์ในช่องยูทูป หนูก็ถามว่ายายเอาแบบไหนดี คุณยายบอกตั้งงบไว้ประมาณ 2 แสน ตอนนั้นมีนิสสันอเมร่ามาใหม่ หนูก็ถามยายเอาแบบนี้ไหม คันนี้ข้างในกว้างคันใหญ่ นั่งสบายประหยัดน้ำมัน หลานสองคนไปกับตายาย นั่งพอดี ยายแกหยิบเงินออกจากย่ามมาให้มิ้นท์เลย หนึ่งแสนบาทบอกว่ายายขอจองไว้ก่อนแล้วเดี๋ยวยายจะกลับมาเอา

“พอวันที่ยายกลับมาเอารถแกก็มีขนมและจดหมายมาให้หนู แกเขียนในจดหมายว่า ของกิ๋นบ้านยายน้องกิ๋นได้ก่อ ในถุงที่ยายเอามาให้มีทั้งข้าวต้มมัดกับมะม่วงแก้วขมิ้นลูกโต เป็นของฝากที่ได้รับแล้วมิ้นท์รู้สึกอิ่มใจมาก เพราะ เหมือนเราได้แบ่งบันให้คุณยายได้สิ่งดีๆ ตายายได้รถดีๆไว้ใช้ ถึงแม้ว่าเคสนี้มิ้นท์จะไม่ได้กำไรเป็นแสนเป็นล้าน แต่ มิ้นท์รู้สึกถึงความอิ่มใจ”

แนวทางการสร้างคอนเทนท์ของคุณมิ้นท์คือ “ถ้ามีรถใหม่หรือคำถามอะไรมิ้นท์ก็จะอัดลงเฟสบุ๊คหรือยูทูป” แม้จะยังไม่มีแผนการขยายสาขาแต่แผนการของคุณมิ้นท์คือ “ทำตรงนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็อยากให้คนที่มาดูคลิปได้ความรู้ที่สุด อยากให้เขารู้จักรถที่ตัวเองต้องการ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาซื้อกับมิ้นท์แต่มิ้นท์อยากให้เขาได้อะไรบางอย่างจากมิ้นท์ เพราะทุกคำพูดที่มิ้นท์ได้สื่อออกไป มิ้นท์ตั้งใจที่จะสื่อไปด้วยความจริงใจ และเป็นข้อมูลที่เป็นความจริง”

อย่างน้อยในวันที่เขาคิดว่าอยากได้รถมือสอง ก็นึกถึงอีน้องกำเมืองนั้นนะ

ถึงตอนนี้เรามีคนติดตามเยอะขนาดนี้แล้ว เริ่มชินกับกล้อง ชินกับการพูด แต่ตอนเริ่มแรกการเขินอายผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา คุณมิ้นท์บอกว่า “หนูใช้วิธีก็ขำไปซะ เพราะยังไงคนเราก็ผิดอยู่แล้วไม่มีใครเป๊ะ เพอร์เฟค มาตั้งแต่แรก”

“หนูเคยบอกตัวเองว่าเรามาไกลเนาะ”

“จากวันแรกมิ้นท์พูดผิดพูดถูก พูดไปเรื่อย บางทีเขาด่ามาก็ยังชักสีหน้าใส่หรือทำหน้าไม่พอใจแต่พอหลังๆมา จริงๆมันเป็นแค่วิธีการเรียกร้องความสนใจ เชิงบวกกับเชิงลบ ถ้าเชิงบวกเราก็จะแค่ขอบคุณค่ะไปเฉยๆ แต่ถ้าเป็นเชิงลบเราก็จะติดใจแล้วก็หาเหตุผล ซึ่งตอนนั้นหนูก็แค่ปรับความเข้าใจว่าเขาก็แค่ต้องการความสนใจจากเราเฉยๆ เพราะ จริงๆคนที่ด่าก็คือลูกค้าที่มาดูนั้นแหละ ซึ่งบางทีเขาก็อาจจะงอนที่บางทีเราไม่ได้สนใจ”

“ถ้าหนักๆก็จะไม่อ่าน แต่ถ้าเบาๆเราก็จะทักส่วนตัวคุยกับเขาดีๆแล้วดีลทีหลัง”

ซึ่งนั้นก็คือการเติบโตที่ชัดเจนอย่างมากในช่วงปีหลังๆ แต่โควิดก็ทำให้เรียนรู้เยอะมากเช่นกัน “ง่ายสุดคือ การปรับตัวกับทุกสถานการณ์ เราไม่อาจจะคาดการณ์ได้เลย มันเลยอยู่ที่เราว่าจะปรับตัวกับสถานการณ์ยังไงได้มากกว่า เช่น แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า เป็นทักษะหนึ่งที่หนูคิดว่าจะปรับและแก้ไขสถานการณ์ไม่ให้มันเสียหัวหรือเสียเวลาไปกับมันมาก เหมือนเราสามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีขึ้น จากการทำพวกนี้”

“ก่อนหน้าที่จะมีโควิดหนูจะขายได้เยอะกว่านี้มาก 20-30 คัน แต่พอมาเป็นโควิดมันก็จะช้าลงและการตัดสินใจของลูกค้าจะยากขึ้น หนูดูข้อมูลหลังบ้าน ลูกค้ามุ่งหวังคลิกเข้าๆออกๆมากกว่า 8 ครั้งในหน้าเว็บกว่าจะเข้ามาเลือกซื้อจริงๆ

หนูเป็นคนทำเอง Google Analysis (การวิเคราะห์ข้อมูลหลังบ้าน) มันช่วยทำให้หนูสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นได้ว่าลูกค้าของเรา คือ ใคร เพราะว่าจริงๆไม่ว่าเราจะขายอะไรเราก็ต้องรู้ว่าลูกค้าของเราเป็นใครและอายุเท่าไหร่ จะได้นำเสนอข้อมูลได้ตรงกับความต้องการ เราต้องรู้จักลูกค้าก่อน

วิธีวัดผลของมิ้นท์คือลูกค้ามาหาและมั่นใจในการซื้อขาย มิ้นท์ถือว่าสำเร็จแล้ว

แต่การทำงานช่วงนี้สิ่งที่จำเป็นคือการจัดการกับความเครียดกับสถานการณ์ทั่วไปด้วย “ออกกำลังกายหยุดคิดเรื่องงาน มูฟไปทำอะไรก็ได้ที่ไม่เกี่ยวกับงานก่อนนอนจะขอคิดนิดนึงว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรแล้วก็นอน ตอนเช้ามิ้นท์จะทำ to do list แบบรายวันแล้วก็เขียนๆไว้ว่าอันไหนสำคัญ แล้วก็จะแบ่งช่วงให้ตัวเองได้หายใจบ้าง”

“ตอนนี้มิ้นท์ก็ทำมา 8 ปี แล้วคิดว่ายังประสบความสำเร็จไม่เท่าไหร่ อยากให้มันไปได้มากกว่านี้ คืออยากให้เวลาที่ลูกค้าคิดถึงรถมือสอง หน้ามิ้นท์ต้องลอยออกมาในหัว”

สำหรับตอนนี้สิ่งที่สำคัญในมุมมองของคนทำธุรกิจก็คือความตั้งใจและการวางแผนการทำธุรกิจ เพราะว่า การวางแผนและการปรับตัวสำคัญที่สุด เพราะ แผนการจะทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมาย และรู้ว่าเราต้องทำตรงไหน และ ที่สำคัญอีกอย่างคือ เราต้องเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าเราด้วย


ช่องทางติดต่อ

เฟสบุ๊คแฟนเพจ :  รถมือสองคนเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์  : 0866541142 , 0634646041, 0634646042
เว็บไซต์ : https://khoncm.com
แผนที่ : https://g.page/khoncmusedcars?share

Tags:

คุณมิ้นท์รถมืองสองเชียงใหม่รถมือสองรถมือสองคนเชียงใหม่สัมภาษณ์เชียงใหม่

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

ตัดสินใจที่ตัดไม่พ้นใจ

Next

“แกแม่งเป็นเสือชีต้าร์เลยนะ” – UNTAMED (Review) : Glennon Doyle

Next
June 26, 2021

“แกแม่งเป็นเสือชีต้าร์เลยนะ” – UNTAMED (Review) : Glennon Doyle

Previews
June 22, 2021

ตัดสินใจที่ตัดไม่พ้นใจ

No Comment! Be the first one.

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Posts

Daywork : Freelance Army – กองทัพเด็กฝึกงาน

by sopons
April 30, 2021

มากกว่าเต้าหู้ทอดที่เคยรู้จัก PIM TOFU : คุณพิม – รุ้งพราย กัญญมา

by sopons
July 12, 2021

MOOH Homemade : ร้านโดนัทโฮมเมทที่คิดต่าง กับการเติบโตแบบไม่ต้อง ‘ทะเยอทะยาน’ ตามกระแสโลก

by sopons
August 19, 2021

Bora Korean Mart ร้านมินิมาร์ทเกาหลีแท้ๆที่เชียงใหม่ บทสัมภาษณ์ : ต้น สีหราช ปรางค์ศรีทอง

by sopons
July 6, 2021
SOPON’S BLOG

STUFF WORTH READING

© 2022, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Psychology

Follow

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact