Girl in the Picture : ใจไม่แข็งควรผ่าน เพราะความจริงมันโหดร้ายกว่าที่คิด
[บทความนี้มี Spoil และ Trigger Warnings]
บอกก่อนเลยครับว่านี่เป็นสารคดีที่ทำให้ผมสะเทือนใจมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยตั้งแต่ที่เคยดูมา (และดูมาเยอะพอสมควร) อาจจะด้วยเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงด้วย จึงยิ่งทำให้มันบดขยี้หัวใจมาก ๆ สำหรับคนที่ใจไม่แข็งพอผมว่าควรผ่านเรื่องนี้ไปก่อน เพราะความจริงอันโหดร้ายของมนุษย์นั้นจะทำให้จิตใจคุณดำดิ่งได้ง่าย ๆ เลย
[ด้านล่างมีการเปิดเผยเนื้อหา]
สำหรับคนที่ชื่นชอบหนังแนวสารคดีคิดว่าเรื่องนี้ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ มีการตัดต่อและแบ่ง Timeline ของเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ติดตามได้ไม่ยาก ฉากที่ตัดกับสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ก็ถือว่าไม่ติดขัด ไหลลื่นและคนที่พูดก็มีอารมณ์ร่วมกับเรื่องราวที่กำลังเล่าในแต่ละช่วงตอนดีเลยทีเดียว
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นตอนที่หญิงสาวคนหนึ่งถูกชนและหนีในรัฐโอคลาโฮมาในปี 1990 โดยตามหลักฐานระบุตัวตนว่าเธอชื่อ “Tonya Hughes” เธอมาเสียชีวิตหลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลพยายามติดต่อครอบครัวของเธอ แต่คนที่รับสายบอกว่าลูกสาวของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้ว และ Tonya Hughes ที่เสียชีวิตจากการถูกรถชนคือใคร? ตำรวจเริ่มสงสัยแล้วว่ามันต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น
ไม่นานชายที่ชื่อ “Clarence” มาแสดงตัวเป็นสามีพร้อมกับลูกชายวัยสองขวบชื่อ “Michael” เรื่องราวดูจะจบลงตรงนี้ แต่เรื่องราวเริ่มใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อ Michael ถูกส่งให้ไปอยู่กับบ้านของพ่อแม่อุปถัมภ์เพราะ Clarence ไม่สามารถดูแลได้ มารู้ภายหลังอีกว่า Clarence ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของ Michael จึงทำให้เขาไม่มีอำนาจครอบครองบุตรอีกต่อไป
Clarence ตัดสินใจลักพาตัว Michael จากโรงเรียน โดยใช้ปืนจี้ครูใหญ่แล้วอุ้ม Michael ออกจากโรงเรียนไปเลย
ตอนนี้ FBI เริ่มเข้ามาร่วมมือกับตำรวจเพื่อตามหา Clarence ในที่สุดก็จับตัวได้แต่ Michael ไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว เขาบอกว่าเขามอบ Michael ให้กับครอบครัวที่ร่ำรวยเพื่อดูแลต่อ Clarence ถูกตัดสินให้จำคุก 52 ปีในข้อหาลักพาตัว Michael (แต่ความจริงมาเปิดเผยภายหลังว่าเขาได้ฆ่าเด็กน้อยคนนั้นไปแล้วระหว่างที่กำลังหลบหนี)
ต่อจากนั้นก็มีเพื่อนจากมัธยมของ Tonya มาแจ้งความว่าผู้หญิงที่เสียชีวิตนั้นไม่ได้ชื่อ Tonya แต่ชื่อว่า “Sharon Marshall” ต่างหาก และผู้ชายที่เคลมว่าเป็นสามีที่ชื่อ “Clarence” ไม่ใช่สามี แต่เป็นคนพ่อของ Sharon ต่างหากและเขาก็ชื่อว่า “Franklin Floyd” ซึ่งครอบครัวของ Sharon ย้ายเมืองตอนที่เธอตั้งท้อง MIchael และก็ขาดการติดต่อกับเพื่อนไปเลย ระหว่างที่หลบหนี Floyd ก็บังคับให้ Sharon ขายตัวและไปทำงานเป็น Stripper (เต้นโป๊) เพื่อหาเงินด้วย
ทีนี้เรื่องราวเริ่มซับซ้อนเข้าไปอีกเพราะเพื่อนคนนี้เคยเห็นพ่อของ Sharon ข่มขืนเธอด้วย และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ครั้งแรก ประวัติของ Floyd เริ่มถูกเปิดเผยมากขึ้น เขาเคยมีประวัติลักพาตัว ข่มขืน และ ทำร้ายร่างกายคนอื่นมาก่อนแล้ว แต่หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งแต่ช่วงยุค 70’s เปลี่ยนชื่อตัวเองไปเรื่อย ๆ และมารู้ภายหลังว่า Sharon ก็ถูกลักพาตัวมาตั้งแต่เด็กเช่นกัน ซึ่งชื่อจริงของเธอคือ “Suzanne Marie Sevakis” เธอถูก Floyd ทำร้ายร่างกาย ข่มขืน มาโดยตลอด และเขาก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเธอด้วย
อย่างที่บอกครับเรื่องนี้ดาร์คมาก เนื้อหาที่จริงเยอะกว่านี้เยอะ แต่ว่าคงเหลือไว้ให้สำหรับคนที่อยากไปดูต่อว่าปมแต่ละอันมันคลายออกมาได้ยังไง เชื่อเถอะครับว่าหนังทำออกมาได้ดีมาก เพียงแต่ถ้าใจไม่แกร่งพออย่าดูเลย เพราะหลังจากที่ดูเรื่องนี้จบผมแทบนอนไม่หลับเลย คิดถึงว่าโลกมันโหดร้ายจริง ๆ และไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์คนหนึ่งจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้ลงคอ และมันหน่วงหัวใจมากที่รู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งต้องผ่านเรื่องราวที่โหดร้ายมากขนาดไหน ดาร์คสุด ดิ่งสุด แต่ Netflix ก็ทำออกมาได้ดีจริง