“กรุณารอสักครู่…สายของคุณสำคัญกับเรา…ติ้ง ตุ้ง ติ้ง ตุ้ง ติ้ง…” เสียงตอบรับอัตโนมัติดังมาทางสายโทรศัพท์ มันเป็นเรื่องที่คุ้นเคยกันดีสำหรับผู้บริโภคทั่วไปอย่างเราเมื่อโทรเข้าไปสอบถาม ร้องเรียน แนะนำ และขอความช่วยเหลือไม่ทางใดก็ทางหนึ่งกับบริษัททั่วไป การถือสายรอพูดกับเจ้าหน้าที่ถือเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เพราะจำนวนพนักงานฝ่ายบริการลูกค้า (Customer Service) นั้นดูเหมือนไม่เคยเพียงพอต่อจำนวนสายที่เรียกเข้ามา ครั้นจะเพิ่มพนักงานก็เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่มากพอสมควร ในตอนนี้บริษัทน้อยใหญ่จึงหันมาพึ่งพา AI (Artificial Intelligence) เพื่อช่วยเติมเต็มช่องว่างและเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการลูกค้าไม่ให้รู้สึกว่าโดนทอดทิ้งและได้รับการเอาใจใส่อย่างเต็มที่
พวกเขาเกือบเป็นอดีตไปแล้วไมโครซอร์ฟ เกือบหนึ่งทศวรรษที่พวกเขาอยู่เงียบๆและเก็บกินบุญเก่าที่สะสมมา ทำอะไรก็ไม่ดูเหมือนเป็นเรื่องตลกและตามคนอื่นๆก้าวหนึ่งอยู่เสมอ ตั้งแต่ Zune, Bing ไปจนกระทั่ง ระบบ OS บนมือถือสมาร์ทโฟน ทุกอย่างล้วนไม่ได้รับเสียงตอบรับตามที่คาดหวังเอาไว้ทั้งสิ้น (ยังโชคดีที่ Gaming ยังพอเป็นแสงสว่างได้อยู่บ้างเล็กน้อย)
ในเดือนตุลาคม, Google เริ่มทดสอบการให้บริการ cloud-gaming ที่เรียกว่า “Project Stream” โดยใช้เกมส์ที่มีทุนสร้างมหาศาลอย่าง “Assassin’s Creed Odyssey” โดยตัวเกมส์นี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานบนเครื่องที่เฉพาะและ PC ที่ประสิทธิภาพสูง แต่ด้วยความที่การประมวลผลหนักๆถูกโยกไปไว้บนศูนย์ข้อมูลของ Google แลปท็อปที่ทำงานทั่วไปก็สามารถที่จะเล่นเกมส์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้โดยไม่มีปัญหา