6 นิสัยอันตรายในชีวิตประจำวันที่จะทำให้คุณกลายเป็นซอมบี้
o
นิสัยประจำวันธรรมดา ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและกิจวัตของเรากำลังจะทำให้เรากลายเป็นซอมบี้และนี่คือทริค และข้อควรระวังเพื่อป้องกันเชื้อซอมบี้
1. กิจกรรมทั่วไปนี้ทำให้คุณหลงลืม
การนั่งเฉย ๆ มันจะทำลายสุขภาพของคุณอย่างช้าๆแต่แน่นอน ปัจจุบันเรานั่งเป็นส่วนใหญ่ มีคนน้อยลงที่ใช้แรงกายแทนแรงงาน พวกเราส่วนใหญ่เป็นพนักงานเสื้อขาวที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์อย่างน้อยแปดชั่วโมงต่อวัน
จากการศึกษาพบว่าการนั่งมากเกินไป ไม่ต่างอะไรกับการสูบบุหรี่ มันจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เบาหวาน และการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
- แล้วเราทำอะไรได้บ้าง?
การพักระยะสั้นมักจะดีกว่าการพักระยะยาว คุณควรหยุดพัก 5 นาทีหลังจากนั่งทุกๆ 30 นาที แทนที่จะพัก 20 นาทีหลังจาก 2-3 ชั่วโมง การเคลื่อนไหวและยืดกล้ามเนื้อในช่วงพักเป็นสิ่งสำคัญ และเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองเป็นโรคนี้ ให้เดินไปมาบ่อยๆ หาโต๊ะยืน ถ้าทำได้
2. ความมหัศจรรย์ของดนตรี
เพิ่มระดับเสียงขณะสวมหูฟัง เพลงบางเพลงสามารถทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ไม่ว่าวันของคุณจะแย่แค่ไหนก็ตาม ดนตรีทำให้เรารู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่บ้าน
แต่ความรักในเสียงเพลงนี้สามารถนำไปสู่การสูญเสียการได้ยิน และแม้กระทั่งความเสียหายของสมอง หูฟังเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยม แต่อาจเป็นสาเหตุของความเสียหายต่อหูและสมองได้
- แล้วเราทำอะไรได้บ้าง?
คุณสามารถปกป้องการได้ยินของคุณโดยการรักษาระดับเสียงไว้ที่ 70 เดซิเบล Mary L. Carson, Au.D, นักโสตสัมผัสวิทยา แนะนำให้รักษาระดับเสียงไว้ที่การตั้งค่า 50% และลดเวลาในการฟัง หรือเราอาจจะใช้ NIOSH แอพพริเคชั่นวัดระดับเสียง
3. คำสาปแห่งอุตสาหกรรม
อาหารของเรามีวิวัฒนาการไปตามกาลเวลา ก่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม อาหารที่มีโปรตีนและไขมันสูงเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งเพราะรวมเฉพาะแหล่งเนื้อสัตว์ แป้ง และน้ำตาลจากธรรมชาติเท่านั้น
หลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม เราทุกคนต้องพึ่งพาซีเรียลชนิดบรรจุกล่องและเครือข่ายร้านอาหารสำหรับมื้ออาหารของเรา ที่มีแต่น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูง
สารให้ความหวาน(Artificial sweeteners) คือคำสาปที่ออกมาจากกล่องของแพนดอร่า มันทำให้เราเป็นมนุษย์ที่ไม่แข็งแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของเวลา
การวิจัยสรุปว่าการบริโภคสารให้ความหวานเทียมทุกวันอาจทำให้ความจำและความรู้ความเข้าใจไม่ดี นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมและโรคหลอดเลือดสมอง
- แล้วเราทำอะไรได้บ้าง?
พยายามค่อยๆ ลดสารให้ความหวานออกจากอาหาร โดยอาจเริ่มดื่มชาหรือกาแฟของคุณด้วยน้ำตาลเพียงครึ่งเดียว หรือใช้สารให้ความหวานตามธรรมชาติอย่างหญ้าหวาน
4. คนรุ่นมิลเลนเนียลทำผิดพลาดโง่ๆ แบบนี้ทุกคืน
การนอนหลับ สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ชัดเจนและดีขึ้น ในขณะเดียวกันการอดนอนก็สามารถบิดเบือนการคิดอย่างมีวิจารณญาณของเราได้
ผลการศึกษาหลายชิ้นได้พิสูจน์แล้วว่าการอดนอนในคืนเดียวก็อาจทำให้สมองถูกทำลายอย่างถาวรได้
- เราทำอะไรได้บ้าง
สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ไขวงจรการนอนหลับของคุณตามธรรมชาติได้ก็คือการตื่นนอนในเวลาเดียวกันให้สม่ำเสมอ ทุกวัน แม้กระทั่งวันหยุดสุดสัปดาห์ การเข้านอนตรงเวลา การตื่นนอนตรงเวลา ช่วยให้เราทำตามตารางการนอนได้ง่ายขึ้น
5. บริโภคสื่อไร้สาระ
เราไม่เคยมีคอนเทนน์อะไรให้ติดตามมากนักในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ มีสื่อที่เป็นวิดีโอ ภาพยนตร์ พอดคาสต์ หรือโพสต์ต่าง ๆ เรามีตัวเลือกมากมายให้เลือก มีมากมายให้เราดู อ่าน และฟัง ซึ่งเราไม่สามารถอุทิศทั้งชีวิตเพื่อมันได้หรอก
- แล้วเราทำอะไรได้บ้าง
สื่อและศิลปะเป็นสองสิ่งที่จะช่วยให้เราก้าวผ่านวันที่ยากลำบาก
คุณต้องระบุรายการ หนังสือ และพอดแคสต์ที่ส่งผลดีต่อคุณอย่างแท้จริง จากนั้นให้สัญญาว่าจะปล่อยวางทุกสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในรายการนี้ กำหนดเวลาการเสพสื่อซะ
6. อากาศคือนักฆ่าเงียบ
คุณภาพอากาศที่แย่ เป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด คอแห้ง หลอดลมอักเสบ ล้วนเป็นผลกระทบจากมลพิษทางอากาศที่เราต้องตื่นขึ้นมาเจอจนถึงทุกวันนี้ ทั้งยังอาจทำให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาท (neurological disorders)
อาจเป็นการสูญเสียความจำระยะสั้น, ความฉลาดทางสติปัญญา (IQ), ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน, การอักเสบของระบบประสาท
- แล้วเราทำอะไรได้บ้าง
ซื้อเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดีวันนี้ พยายามอยู่ในที่ร่ม เมื่อออกไปข้างนอกควรสวมหน้ากากกรองอากาศ
บทสรุป
สุขภาพที่ดีเท่ากับสมองที่ดี