มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก เริ่มต้น Facebook มาตั้งแต่เขาอยู่ในหอพักที่ฮาวาร์ดในปีช่วงต้นปี 2000s’ และในปัจจุบันเฟซบุ๊คกลายเป็นหนังสือพิมพ์สำหรับคนมากกว่าหนึ่งพันล้านล้านคนในทุกวัน สิ่งที่เขาสร้างกลายเป็นปรากฏการณ์แห่งเทคโนโลยีที่สร้างผลกระทบไปทั่วโลก
แต่อย่างไรก็ตามโลกนี้ไม่มี CEO ที่สมบูรณ์แบบ แล้วนี่มันถึงเวลารึยังนะ ที่มาร์กจะดูบิล เกตต์เป็นตัวอย่าง การโต้เถียงและเรื่องอื้อฉาวต่าง ๆ ได้ทำร้าย Facebook รวมถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัท และบริษัทในเครือทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าปัญหาคืออะไร นั่นก็คือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
Cambridge Analytica
ในปี 2018 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ Facebook หลายล้านคนถูกรวบรวมโดย Cambridge Analytica โดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา
อย่างไรก็ตามข้อมูลทั้งหมดถูกเก็บเกี่ยวผ่านแอพที่พัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล Aleksandr Kogan ในปี 2013 ส่วนนี้เป็นผลให้ Facebook ถูกปรับ 5 พันล้านดอลลาร์โดย Federal Trade Commission สำหรับการละเมิดความเป็นส่วนตัว
Mark Zuckerberg CEO ของ Facebook ได้ออกมาขอโทษครั้งแรกสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Cambridge Analytica เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2018
และในเดือนเมษายน Facebook ได้ตัดสินใจที่จะใช้กฎระเบียบให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภคในสหภาพยุโรป (EU’s General Data Protection Regulation) ในทุกด้านของการดำเนินงาน และไม่ใช่แค่ในสหภาพยุโรปเท่านั้น UniCredit บริษัทธนาคารสัญชาติอิตาลี ก็หยุดโฆษณาและทำการตลาดบน Facebook ในเดือนสิงหาคม 2018
อายุของข้อมูลที่ผิด
Zuckerberg ยอมรับปัญหาที่ Facebook ช้า พนักงาน Facebook ทั้งในอดีตและปัจจุบันบอกกับ NPR ว่ามีความสับสนวุ่นวายภายในมากมายเกี่ยวกับการทำงานของแพลตฟอร์ม และการไม่เซ็นเซอร์เนื้อหาที่ผู้ใช้เห็นว่าไม่เหมาะสม
สาธารณชนมักสับสนกับการตัดสินใจของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นโพสต์ที่มีการโต้เถียงและข่าวปลอม Facebook ยังคงไม่สามารถตอบคำถามเรื่องความโปร่งใสในการทำงานของอัลกอริธึมที่พวกเขาใช้ในการประมวลฟีดข่าว รวมถึงอัลกอริทึมที่ใช้ีเป็นจุดอ้างอิงในการคาดการณ์รสนิยมของผู้ใช้เพื่อให้พวกเขามีส่วนร่วม
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้นำไปสู่การก่อตัวของกรอบฟองอากาศ (Information Bubble) ที่เริ่มกีดกันผู้ใช้จากข้อมูลที่หลากหลาย ผู้ใช้ถูกทิ้งให้อยู่กับโลกทัศน์ที่บิดเบี้ยวซึ่งได้มาจากความชอบและอคติของตนเอง
เปราะแสจาก ณอน ปาร์กเกอร์ กล่าวว่า Facebook อันตราย
ณอน ปาร์กเกอร์ หนึ่งในประธานผู้ก่อตั้ง Facebook ซึ่งปัจจุบันเขาเป็นมหาเศรษฐี กล่าวไว้ว่า
‘พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามันกำลังทำอะไรกับสมองของลูกหลานเรา’
เขากล่าวว่าไซต์ดังกล่าวสร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จาก ‘ช่องโหว่’ ของมนุษย์และกำลัง ‘ทำลาย’ สมองของมนุษย์ และเขาไม่ใช่ผู้ประกอบการเพียงรายเดียวใน Silicon Valley ที่แสดงความเสียใจต่อเทคโนโลยีที่เขาช่วยพัฒนา
Tristan Harris อดีต Googler ซึ่งหนึ่งในนักเทคโนโลยีหลายคนที่ Guardian สัมภาษณ์เมื่อเดือนตุลาคม กล่าวไว้ว่า
“ทางเลือกของเราไม่ได้ฟรีอย่างที่เราคิด”
ผู้แจ้งเบาะแสอีกคน
ในเดือนตุลาคม 2021 มีผู้แจ้งเบาะแส Facebook เป็นคนที่สองที่ออกมากล่าวหาว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนี้ทำธุรกิจอย่างไร
บุคคลนี้เคยเป็นสมาชิกของทีมงาน Facebook’s integrity ซึ่งกล่าวไว้ว่าบริษัททำกำไรก่อนที่จะพยายามต่อสู้กับคำพูดที่แสดงความเกลียดชัง และแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องบนแพลตฟอร์ม
พวกเขากล่าวว่าโครงการ Internet.org ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ Facebook เป็น “impenetrable foothold”
เหนือสิ่งอื่นใด ผู้แจ้งเบาะแสยังขอให้ Zuckerberg ลาออกจากตำแหน่ง CEO
การเริ่มต้นใหม่กับ Meta
นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคมปี 2021 ที่ผ่านมา Facebook ได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta บริษัท เดิมชื่อ Facebook จะเริ่มซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์หุ้น MVRS ในวันที่ 1 ธันวาคม Zuckerberg กล่าวว่าถึงเหตุผลในการตัดสินใจไว้ว่า
“วันนี้เราถูกมองว่าเป็นบริษัทโซเชียลมีเดีย แต่ใน DNA ของเรา เราเป็นบริษัทที่สร้างเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงผู้คน และ metaverse เป็นพรมแดนถัดไปเช่นเดียวกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เราเคยเริ่มต้น”
การรีแบรนด์อาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะยกเครื่องชื่อเสียงของ Facebook และเปลี่ยนหน้าตามฝันร้ายของการประชาสัมพันธ์
บทสรุป
ไม่ต้องสงสัยเลยเกี่ยวกับความสามารถของ Mark ในการก้าวไปไกลกว่าในฐานะ CEO ของ Facebook หรือ Meta แต่เพื่อประโยชน์ในทุกสิ่ง เขาต้องลงจากตำแหน่งเพื่อให้บริษัทไปข้างหน้า เหมือนอย่างที่ Jeff Bezos หรือ Bill Gates ทำ
ในตอนนี้ มันเป็นเรื่องของการรับรู้และท่าทางของสาธารณชน ด้วยความสัตย์จริง คงไม่มีเวลาไหนที่ดีไปกว่านี้แล้วที่จะมี CEO คนใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชื่อใหม่และผลิตภัณฑ์ใหม่
เพราะการรักษาบทบาท CEO ของเขาอาจส่งผลเสียระยะยาวต่อบริษัทได้
ที่มา : https://drckangelo.medium.com/should-mark-zuckerberg-step-down-right-now-16e3cf8c4a93
