แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก! ชิ้นหนึ่งก็ได้แหละ อาทิตย์นี้ออกกำลังกายตลอดเลย : หลุมพราง #Licensing Effect ปรากฎการณ์ให้สิทธิกับตัวเองจนออกนอกลู่นอกทาง
“เอาหน่า เมื่อเช้าวิ่งมาแล้ว วันนี้ขอกินเลย์สักถุงหนึ่งก็แล้วกัน”
“เอาเบอร์เกอร์กับเฟรนช์ฟราย…ขอโค้กซีโร่นะครับ”
“วันนี้กินวิตามินเม็ดไปแล้ว ขอสูบบุหรี่สักมวนละกัน”
มีครั้งหนึ่งที่นั่งจับไข่คุยกัน…เฮ้ย! จับเข่าคุยกันกับเพื่อนๆเรื่องออกกำลังกาย (แหมเปิดประโยคมาก็มีเสียวซะละ) ถึงเหตุผลว่าทำไมหลายคน รวมถึงพวกเรากันด้วย หลังจากที่ตั้งปฏิญาณซะดิบดีว่าจะกลับมาดูแลสุขภาพตัวเองแบบเป็นจริงเป็นจัง หลายคนก็ทำได้ต่อเนื่องสักพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เริ่มเถลไถลออกนอกลู่นอกทางในที่สุด (มีส่วนน้อยที่ทำจนกลายเป็นนิสัยแล้วก็ดูแลสุขภาพตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง….อะ ปรบมือสิครับ)
ที่จริงแล้วมันก็มีหลายๆเหตุผลแหละที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ อาจจะด้วยการเริ่มต้นที่หนักเกินไปจนเกิดอาการบาดเจ็บ บางคนสภาพแวดล้อมเปลี่ยน เปลี่ยนงาน มีลูก แมวกัดกัน ฯลฯ ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่าการ “backslide” หรือเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นหลังพยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิมนั้นแหละครับ คือถ้ากลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ยังพอว่าแต่บางคนกลับไปมากกว่าเดิมนี่ก็เหนื่อยหน่อย (หนัก 80 กิโล ออกกำลังลดลงมา 2 กิโล เพิ่มกลับเข้าไป 5 กิโล ก็ไม่ไหวเน้อ)
แต่พอขุดคุ้ยกันไปเรื่อยๆก็พบว่าที่จริงแล้วสิ่งที่หลายๆคนประสบก็คือการเริ่มไปได้สักพัก ทำได้ดี แต่สุดท้ายก็ไม่นานพอ เพราะอะไรกัน? ทำมาได้สักพัก อยู่ๆก็หายไปแล้วก็กลับมาใหม่แล้วก็หายไปอีก…จนสุดท้ายก็หยุดทำ จนมาพบว่าปัญหาที่แท้จริงที่ทำให้เราออกนอกลู่นอกทางนั้นมาจากการปล่อยให้ตัวเองรู้สึกดีกับความสำเร็จของตัวเองมากเกินไปต่างหาก
หือ?
ใช่ครับ, เราปล่อยให้ตัวเองรู้สึกดีว่าอาทิตย์นี้ไปวิ่งมาสามวันละ พรุ่งนี้หยุดละกัน เดี๋ยวอาทิตย์หน้าว่ากันใหม่ พออาทิตย์ต่อไปก็อาจจะวิ่งน้อยลงแต่ก็ยังวิ่งอยู่ ก็บอกว่าฉันยังออกกำลังนะ เดี๋ยวขอนอนดึกสักคืนดูซีรี่ย์สักหน่อยดีกว่า แล้วลูปแห่งความล้มเหลวก็วนกลับมาอีกครั้ง
ปรากฎการณ์นี้เรียกว่า “Licensing Effect” หรือ “Self Licensing” หรือ “Moral Licensing” ซึ่งมันเป็นภาวะที่นักวิจัยอธิบายว่ามันเกิดขึ้นเวลาที่การทำตัวดีส่งผลให้เราคิดทึกทักเอาเองว่ามีสิทธิที่จะออกนอกลู่นอกทางเล็กๆน้อยๆได้เมื่อเราทำได้ตามเป้าหมายและค่านิยมที่วางเอาไว้
เรื่องนี้ที่จริงเกิดขึ้นกับทั้งเรื่องใหญ่ๆในชีวิตของเราอย่างการดูแลสุขภาพออกกำลังกายไปจนถึงการไม่รับถุงพลาสติกเวลาไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อเลย มันทำให้เรารู้สึกว่า “ที่ผ่านมาทำดีแล้วนะ ขอนอนต่อหน่อยละกัน (ขอ….หน่อยละกัน)” ซึ่งไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามเรามีแนวโน้มที่จะรู้สึกว่าการทำกิจกรรมที่ดีหรือมีประโยชน์ต่อสุขภาพทำให้เรามีสิทธิที่จะทำกิจกรรมที่ไม่ค่อยดีในภายหลังมากขึ้นด้วย ยกตัวอย่างงานวิจัยในประเทศไต้หวันที่พบว่าคนมีแนวโน้มสูบบุหรี่มากขึ้นหลังจากที่กินวิตามินซีไป โดยสรุปออกมาว่า
“ผู้สูบบุหรี่ที่กินอาหารเสริมมักจะหลอกตัวเองว่าพวกเขาปลอดภัยจากมะเร็งและโรคร้ายต่างๆ การย้ำเตือนคนเหล่านี้ว่าอาหารเสริมไม่ได้ช่วยป้องกันมะเร็งได้ก็พอที่จะช่วยให้พวกเขาหยุดสูบบุหรี่ได้อยู่บ้าง”
การเชื่อแบบผิดว่าการที่เราได้ทำบางอย่างที่ถูกต้อง (การออกกำลังกาย) จะเพิ่มอิสระหรือช่องว่างให้กับเราได้ทำบางอย่างที่เสี่ยงมากขึ้น หรือเป็นผลเสียกับเรา (การนอนดึก ติดซีรี่ย์ กินอาหารขยะ) นั้นเป็นเรื่องที่อันตรายมาก มีอีกรายงานหนึ่งที่บอกว่าคนที่บริจาคเงินช่วยเหลือการกุศลมักจะบริจาคเงินน้อยลงเมื่อมีคนชมว่าเขาเป็นคนดี หรืออีกกลุ่มหนึ่งที่พบว่าผู้คนที่ซื้อสินค้ารักษ์โลกมีโอกาสที่จะขโมยหรือโกงมากขึ้นด้วย!
มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลายๆคนและเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเถลไถลออกนอกลู่นอกทางได้บ่อยกว่าที่คิดเอาไว้ (อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งหล่ะที่ต้องเตือนตัวเองเสมอ)
สิ่งหนึ่งที่ช่วยทำป้องกันไม่ให้เกิดปรากฎการณ์นี้คือการกลับไปมองภาพใหญ่อีกครั้งว่าทำไมเราถึงเริ่มทำสิ่งนี้ตั้งแต่แรก ออกกำลังเพราะอะไร ทานอาหารเสริมเพราะอะไร แต่ผลประโยชน์และสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่ปลายทาง หรืออีกวิธีหนึ่งก็คืออย่าไปวัดค่าสิ่งที่เราทำว่ามันเป็นเรื่องที่ดีเรื่องที่ไปโอ้อวดให้คนอื่น แต่ดูว่าวันนี้เราวิ่งได้ไกลกว่าเดิมไหม เหนื่อยน้อยลงรึเปล่า ไม่ตัดสินด้วยความดีก็จะลดความรู้สึกตรงนี้ลงไปได้นิดหน่อย และวิธีสุดท้ายก็คือการรู้ว่าการกระทำของเราต่อไปนี้เข้าข่ายการในการให้สิทธิกับตัวเองอยู่และควรหยุดทำ
การเถลไถลเกิดขึ้นได้ครับ ความตั้งใจที่ล้มเหลวก็มีแหละ ไม่มีใครที่แกร่งกล้าสามารถทำทุกความตั้งใจสำเร็จทุกครั้ง แต่อย่างน้อยๆการไปทึกทักว่า “เอาหน่า…ช่วงนี้เราทำตัวดี” แล้วไปตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่เราก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะทำให้เราถอยหลังก็…อย่าไปทำครับ
พูดง่ายแหละ, ทำยาก
ว่าแล้วเมื่อวานก็ไปวิ่งมา เห็นมีโปรพิซซ่า 1 แถม 1 อยู่ ไปซัดสักถาดดีกว่า (อย่าหาทำ!)
=========
อ้างอิง