Google และ Facebook มักที่จะชอบคุยถึงสิ่งล้ำสมัยต่าง ๆ ที่พวกเขากำลังทำอยู่เสมอ – Metaverse! รถไร้คนขับ! Cloud! ปัญญาประดิษฐ์!
“กรุณารอสักครู่…สายของคุณสำคัญกับเรา…ติ้ง ตุ้ง ติ้ง ตุ้ง ติ้ง…” เสียงตอบรับอัตโนมัติดังมาทางสายโทรศัพท์ มันเป็นเรื่องที่คุ้นเคยกันดีสำหรับผู้บริโภคทั่วไปอย่างเราเมื่อโทรเข้าไปสอบถาม ร้องเรียน แนะนำ และขอความช่วยเหลือไม่ทางใดก็ทางหนึ่งกับบริษัททั่วไป การถือสายรอพูดกับเจ้าหน้าที่ถือเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เพราะจำนวนพนักงานฝ่ายบริการลูกค้า (Customer Service) นั้นดูเหมือนไม่เคยเพียงพอต่อจำนวนสายที่เรียกเข้ามา ครั้นจะเพิ่มพนักงานก็เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่มากพอสมควร ในตอนนี้บริษัทน้อยใหญ่จึงหันมาพึ่งพา AI (Artificial Intelligence) เพื่อช่วยเติมเต็มช่องว่างและเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการลูกค้าไม่ให้รู้สึกว่าโดนทอดทิ้งและได้รับการเอาใจใส่อย่างเต็มที่
ในเดือนตุลาคม, Google เริ่มทดสอบการให้บริการ cloud-gaming ที่เรียกว่า “Project Stream” โดยใช้เกมส์ที่มีทุนสร้างมหาศาลอย่าง “Assassin’s Creed Odyssey” โดยตัวเกมส์นี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานบนเครื่องที่เฉพาะและ PC ที่ประสิทธิภาพสูง แต่ด้วยความที่การประมวลผลหนักๆถูกโยกไปไว้บนศูนย์ข้อมูลของ Google แลปท็อปที่ทำงานทั่วไปก็สามารถที่จะเล่นเกมส์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้โดยไม่มีปัญหา
Google และ Facebook, สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยี, ประกาศอนุญาตให้พนักงานของพวกเขาทำงานจากบ้านได้จนถึงสิ้นปี Twitter เองก็แจ้งในอีเมลถึงพนักงานของบริษัทว่าสามารถทำงานจากบ้านได้ “ตลอดไป” หรือ “ตราบเท่าที่เห็นควร” ออฟฟิศก็ยังพร้อมจะเปิดรับ หรือจะทำงานที่บ้านต่อไปก็แล้วแต่การตัดสินใจของตัวพนักงานเองเพราะที่ผ่านมาประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานก็ไม่ได้ลดลง จึงไม่เห็นว่าการเข้าออฟฟิศเป็นเรื่องที่สำคัญเท่าไหร่อีกต่อไป