SOPON’S BLOG
2 เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จด้านการเงิน
November 28, 2022
สูตรลดน้ำหนัก 4 กิโล ใน 4 สัปดาห์ : ไม่ต้องพึ่งยา แถมยังไปกินชาบูอีกต่างหาก
November 26, 2022
ฟีดแบคที่ดี ไม่ได้ดีเสมอไป : รับมือยังไงเมื่อเจอฟีดแบคหนัก ๆ ตรง ๆ และต้องปรับตัว
November 24, 2022
ปีใหม่ คนเก่า : จะเปลี่ยนตัวเองได้ ต้องรับตัวเองที่ไม่สมบูรณ์ให้ได้ก่อน
November 21, 2022
20 บทเรียนจากนักจิตบำบัดที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น
November 20, 2022
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
FeaturedPeopleStartups

จากร้านหนังสือออนไลน์สู่การเดินทางในอวกาศ – Jeff Bezos นำ Amazon มาถึงจุดนี้ได้ยังไง?

sopons
October 25, 2020 2 Mins Read
105 Views
0 Comments

คำตอบแรกที่คนมักพูดทีเล่นทีจริงก็คือ “เขามีไทม์แมชชีน” และรู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บางคนก็บอกว่าเขาเป็นหมอดูที่มีลูกแก้วทำนายอนาคต บ้างก็บอกเป็นพ่อมดที่มีเวทมนต์คาถา ฯลฯ

อาจจะจริงอย่างที่เขาบอก เพราะ 2 ทศวรรษก่อนเขามองเห็นบางอย่างที่ไม่มีใครเห็น ใครจะรู้ว่าแค่ “คลิ๊ก” เดียวก็สามารถทำให้สิ่งของทุกอย่างตั้งแต่อาหารหมายันไข่ปลาคาเวียร์ ช้อปปิ้งมอลล์จะไม่ได้เป็นสถานที่ที่คนเลือกไปช้อปปิ้งอีกต่อไป และร้านค้าทั้งหลายต้องพยายามหาอะไรมาดึงดูดลูกค้ามากกว่าแค่การขายของเพื่อเอาชีวิตรอดในตลาด

เขาเริ่มต้นวางอิฐก้อนแรกของอาณาจักร Amazon ด้วยวิสัยทัศน์นั้นในปี 1994

Amazon กำลังเจริญรอยตาม Apple ที่จะกลายเป็นบริษัทหมื่นล้านเหรียญ เพราะยอดขายในแทบทุกด้านกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจใหม่ด้านสุขภาพก็น่าจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงร้านขายหนังสือออนไลน์ตอนนี้พวกเขากลายเป็น “everything store” ไปเรียบร้อยแล้ว

Bezos (ตอนนี้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก) บอกว่าเป้าหมายของเขาไม่ใช่เพียงแค่ปฏิวัติธุรกิจค้าขายของโลกเท่านั้น ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เขาอยากทำและกำลังลงมือทำในเวลานี้

เขาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์หัวใหญ่อย่าง Washington Post บริษัทเดินทางท่องเที่ยวในอวกาศของเขาชื่อว่า Blue Origin วางแผนว่าจะขายตั๋วให้นักเดินทางได้หลุดแรงโน้มถ่วงของโลกไปสู่อวกาศที่เวิ้งว้างในปีหน้า และอนาคตอันใกล้เขายังประกาศอีกว่ามีแผนการเกี่ยวกับการกุศลภายในปีนี้อีกด้วย (ทำให้นึกถึง Bill and Mary gates foundation)

หลายปีก่อน แฟนเก่าของ Bezos ช่วงมัธยมปลายบอกว่ากับนิตยสาร Wired ว่าเธอคิดอยู่เสมอว่าเขาจะต้องเป็นบุคคลที่ร่ำรวย ไล่ตั้งแต่ความมุ่งมั่นของเขาที่ใฝ่ฝันอย่างเดินทางในอวกาศตั้งแต่ตอนหลายสิบปีก่อน เธอบอกว่า

“เงินไม่ใช่ปัจจัยหลักเท่านั้น แต่มันคือสิ่งที่เขาสามารถทำได้ถ้าหากมีเงิน มันคือการเปลี่ยนแปลงอนาคต”

พ่อแม่ของเขามีเขาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น และหลังจากที่เขาเกิดได้ไม่นานก็หย่าร้างกันไป เขาเติบโตมากับแม่และพ่อเลี้ยงในรัฐ Taxas และ Florida พ่อเลี้ยงของเขาเป็นผู้บริหารของบริษัทน้ำมัน Exxon ที่หลบหนีออกจากคิวบามาตั้งรกรากอยู่ที่อเมริกาตอนเป็นหนุ่ม


Jeff Bezos แสดงออกถึงความสนใจเกี่ยวกับวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่การถอดชิ้นส่วนของเปลนอนตัวเองด้วยไขควงตั้งแต่อายุเพียงสามขวบ และตอนที่เขากล่าวสุนทรพจน์ตอนจบมัธยมปลายเขาพูดถึงแนวคิดในการออกไปสำรวจดวงดาวอื่นๆและเดินทางในอวกาศในอนาคตข้างหน้าด้วย

ที่มหาวิทยาลัย Princeton, Bezos เรียนในสายวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ หลังจากจบมาก็ทำงานให้กับบริษัทการเงินในนิวยอร์ก ที่นั้นเองที่เขาพบกับภรรยา (MacKenzie) เขาทำงานอยู่ที่นั้นจนกระทั่งอายุ 30 ตอนนั้นเขาบังเอิญไปเจอตัวเลขการเติบโตของ Internet แล้วคิดว่า “นี่ไม่ใช่การเติบโตแบบธรรมดา” ซึ่งทำให้เขาเริ่มสนใจว่านี่แหละคืออนาคตและตัดสินใจลาออกจากงานหลังจากนั้นไม่นาน

ในการพูดที่ Princeton ปี 2010 เขาบอกว่าการก่อตั้งบริษัท Amazon นั้นเป็นการเลือกเดินบนเส้นทางที่ปลอดภัยน้อยกว่า

“ผมตัดสินใจที่จะลองทำดูสักตั้ง ไม่เคยคิดเลยว่าจะเสียใจถ้าเกิดว่ามันไม่สำเร็จ และผมคิดเสมอว่ามันจะตามมาหลอกหลอนผมไปตลอดถ้าไม่ลองลงมือทำเลย”

มันเป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่า เงินจำนวน 1 แสนเหรียญที่เขาและครอบครัวได้รวบรวมเพื่อการเริ่มต้นบริษัทได้กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ภายในเดือนแรกของการเปิดตัวในปี 1995 Amazon ได้ออเดอร์จากทุกรัฐภายในประเทศและจาก 45 ประเทศรอบนอก และภายใน 5 ปี จำนวนสมาชิกกระโดดจาก 180,000 คนไปเป็น 17 ล้านคน ยอดขายจาก 5 แสนเหรียญไปเป็น 1.6 พันล้านเหรียญในเวลาเดียวกัน

นักลงทุนมากมายเริ่มหันมาให้ความสนใจบริษัทของเขา ทั้งอานิสงส์ของฟองสบู่ .com ที่ทำให้เงินลงทุนหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว Amazon เข้าสู่ตลาดหุ้นในปี 1997 นั้นทำให้ Bezos กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกก่อนอายุ 35 ปีในทันที และในปี 1999 นิตยสาร Time เรียกเขาว่าเป็นบุคคลแห่งปีที่อายุน้อยที่สุดและเป็น “king of cybercommerce”

เขาเป็นหัวหน้าที่ละเอียดถี่ถ้วนและมีแผนการดำเนินการแบบระยะยาวให้กับ Amazon ตั้งแต่เริ่มแรกโดยการโฟกัสไปที่ลูกค้าเป็นอันดับแรก นั้นหมายความว่าในช่วงแรกนั้นเขาต้องใช้เงินเพื่อสร้างเงิน โดยการลดแลกแจกแถม ทั้งการส่งฟรี ตัดราคา และทดลองสร้างสิ่งใหม่ๆอย่างอุปกรณ์อ่านหนังสืออิเลคทรอนิคอย่าง Kindle

แต่ในส่วนอื่นๆ Amazon ก็พยายามลดต้นทุนโดยการให้พนักงานที่สำนักงานใหญ่จ่ายค่าที่จอดรถ (ซึ่งก็เป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมโดยให้พนักงานโดยสารรถประจำทางและเดินทางด้วยกันมากขึ้น) ต่อสู้กับผู้จัดจำหน่าย คอยจัดการดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายของพนักงานในโกดัง และหาทางหลีกเลี่ยงภาษีในส่วนที่ทำได้อยู่ตลอดเวลา

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างที่ Bezos จับจะกลายเป็นเหมืองทองไปซะหมด เช่นการลงทุนใน pets.com ที่ขาดทุนในตอนท้าย แต่นั้นก็เป็นตัวอย่างที่ดีถึงความกล้าหาญที่จะเดินออกจากจุดที่ตัวเองอยู่และทดลองอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ

จากรายงานของบริษัท Amazon จะมีรายได้มากถึง 5.3 หมื่นล้านเหรียญ (1.7 ล้านล้านบาท) ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ และทำสถิติกำไรมากที่สุดในรอบสามเดือนที่ 2.5 พันล้านเหรียญ (8 หมื่นล้านบาท) รายได้ของพวกเขาเทียบแล้วเกือบเป็นครึ่งหนึ่งของยอดขายสินค้าออนไลน์ทั้งหมดของประเทศในปีนี้ และ 5% ของตลาดซื้อขายทั้งหมดในอเมริกา มีพนักงานประมาณ 575,000 คน เทียบเท่าจำนวนประชากรในประเทศ Luxembourg ทั้งประเทศเลยทีเดียว

พวกเขาเป็นทั้งบริษัทขนส่ง ร้านขายของ แพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายสินค้าให้กับพ่อค้าแม่ค้าหลายแสนคน เป็นผู้ให้บริการด้าน cloud computing ให้กับบริษัทใหญ่ๆอีกหลายแห่ง แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เมื่อปีก่อนเพิ่งซื้อธุรกิจซุปเปอร์มาเก็ตระดับพรีเมี่ยมชื่อ Whole Foods และปีนี้ก็ขยับขยายเข้าสู่ธุรกิจยารักษาโรคอีกด้วย ทางผู้บริหารก็บอกว่ายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่พวกเขากำลังดูๆกันอยู่

มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดเป็นของคู่กัน การทรุดทรงและล่มสลายของร้านค้าต่างๆอย่าง Sears, Toys ‘R’ Us และ Barnes & Noble ทำให้หลายคนพูดถึงอำนาจแบบเด็ดขาดที่ Amazon มีอยู่ในเวลานี้ (monopoly) ทั้งเรื่องของภาษีและแรงงาน แม้กระทั่งโดนกล่าวหาว่าเป็นคนที่ทำให้ราคาบ้านในเมือง Seattle นั้นพุ่งสูงเกินความเป็นจริงด้วย (สำนักงานใหญ่ของ Amazon อยู่ที่เมืองนี้)

เมื่อบริษัทได้ประกาศว่าจะสร้างสำนักงานใหญ่อีกแห่งหนึ่งในอเมริกาเหนือ นักการเมืองหลายฝ่ายพยายามดึงดูดให้พวกเขามาอยู่ในเมืองของตนเอง แต่คนที่ต่อต้านก็พยายามนำเอาเรื่องภาษีและภาพลักษณ์ทางด้านลบต่างๆออกมาโจมตีบริษัทอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป็นแคมเปญเรียกว่า “anti-Amazon” กันเลยทีเดียว

Bezos บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดบนพื้นผิวโลก ตอนนี้อายุได้ 54 ปี มีคนเริ่มตั้งคำถามบ่อยขึ้นเรื่อยๆถึงการช่วยเหลือสังคมของเขาว่ามีเงินมากขนาดนี้แล้วจะช่วยเหลือโลกใบนี้ได้ยังไงบ้าง เขาทวีตเมื่อไม่นานมานี้ว่าอีกไม่นานจะมีการลงทุนอีกครั้งของเขาในงานการกุศลและเป็นสิ่งที่เขาค่อนข้างตื่นเต้นกับมันมากเลยทีเดียว มันจะเป็นสิ่งที่สร้างผลกระทบได้ทันทีไม่ใช่แผนการระยะยาวอย่างการลงทุนในธุรกิจทั่วไป


ถึงตอนนี้เรายังไม่รู้หรอกว่าแผนการข้างหน้าของเขาจะเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆ ดูจากสิ่งที่เขาทำมาตลอดช่วง 2 ทศวรรษ เหมือนว่าเขาจะก้าวนำทุกคนอยู่อย่างน้อย 10 ก้าวเสมอ จึงไม่แปลกใจที่เคยมีคนพูดเล่นๆว่าที่จริงแล้วเขามาจากโลกอนาคตต่างหาก

Tags:

amazonfeaturedhistoryinspirationJeff Bezosstoryความเป็นมาประวัเรื่องราว

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

ความสำคัญของเทคโนโลยีและผู้ให้บริการ Cloud Computing กับบริษัทยุคใหม่

Next

เมื่อ AI ถูกใช้เพื่อต่อกรกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า

Next
October 25, 2020

เมื่อ AI ถูกใช้เพื่อต่อกรกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า

Previews
October 25, 2020

ความสำคัญของเทคโนโลยีและผู้ให้บริการ Cloud Computing กับบริษัทยุคใหม่

No Comment! Be the first one.

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Posts

When the giant awakes – เมื่อยักษ์ Microsoft ฟื้นคืนชีพภายใต้การนำของ Satya Nadella

by sopons
October 22, 2020

5 นิสัยเศรษฐีพันล้านที่ “อย่าหาทำ”

by sopons
October 17, 2020

Make Your Own Ripple Effect

by sopons
October 17, 2020

ถ้า Facebook จะตายหายไปจากโลกนี้?

by sopons
October 23, 2020

Subscribe to our newsletter and stay updated.

SOPON’S BLOG

© 2021, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About
  • Billion Brands
  • Blockdit

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Travel

Follow Us

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact