SOPON’S BLOG
“สุขมากขึ้น ร่ำรวยขึ้น และสงบมากขึ้น” : เปิดประสบการณ์ ‘No Spend Year’ ของนักข่าวฟรีแลนซ์ที่เคยใช้เงินฟุ่มเฟือยกับปี 2024 ที่ตัดค่าใช้จ่ายเหลือแค่ที่จำเป็น
November 28, 2024
ด้านมืดของ ‘บริโภคนิยม’ จากสารคดี ‘Buy Now! The Shopping Conspiracy’ มนุษย์โหมบริโภค โลกจึงกลายเป็นกองขยะ
November 27, 2024
อย่าให้สังคมกำหนดว่าเรา ‘ต้องมีอะไร’ ถึงจะมีความสุข
November 27, 2024
แม้ไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายมีทุกวัน : 5 อย่างที่ต้องเตรียมพร้อมด้านการเงิน เมื่อตลาดแรงงานไม่มั่นคง
November 27, 2024
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว แต่วางหินวันละก้อน
November 26, 2024
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
Inspiration

Jonny Sun : คุณไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างเดียวดาย

sopons
December 21, 2021 2 Mins Read
331 Views
0 Comments

Jonny Sun นักเขียนและศิลปินผู้เปิดเผยเรื่องราวของอีกด้านของความเปราะบาง ความเหงา ความเศร้า และความกลัว เขาเล่าว่าการเปิดเผยความรู้สึกแบบนี้สามารถช่วยให้รู้สึกสบายใจ และโดดเดี่ยวน้อยลง เขาบรรยายอย่างตรงไปตรงมาซึ่งเต็มไปด้วยภาพประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา เขาเล่าให้ฟังว่าการเล่าเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกช่วยให้เขาเข้าถึงชุมชนที่ไม่คาดคิดและพบแสงสว่างเล็กๆ ในความมืด

บนเวที TED Talk เขาได้นำเสนอตัวการ์ตูนตัวหนึ่งชื่อ “Jomny” เขาบอกว่าจริง ๆ แล้วเจ้าตัวนี้ชื่อ “jonny” นี่แหละ แต่พลาดเขียนชื่อผิด เพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบ 

Jomny เป็นเอเลี่ยนที่ถูกส่งมาให้ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ เขารู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยวที่ต้องอยู่ห่างจากบ้าน และซันเอง ก็คิดว่าพวกเราก็รู้สึกแบบนี้ก็สุด หรืออย่างน้อยก็เคยมี ซันเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเอเลี่ยนตัวนี้ในช่วงเวลาหนึ่งในชีวิต เขารู้สึกว่าเขาเป็นมนุษย์ต่างดาว ในตอนที่เขาเพิ่งย้ายไปเคมบริดจ์และเริ่มเรียนปริญญาเอกที่ MIT เขารู้สึกหวาดกลัวและโดดเดี่ยวและรู้สึกแปลกแยกไม่เข้ากับคนอื่น

ตอนนี้พวกเราหลาย ๆ คนในโลกอินเทอร์เน็ตก็รู้สึกว่าโดดเดี่ยว มันรู้สึกเหมือนกับว่านี่เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และไม่สิ้นสุด กว้างใหญ่ที่ ๆ คุณสามารถเปล่งเสียงออกมาได้ตลอดเวลา แต่ไม่มีใครฟัง ที่ตรงนั้นเขาพบความสบายใจในการพูดกับความว่างเปล่า

ในการแบ่งปันความรู้สึกของตัวเองกับความว่างเปล่า ในที่สุดความว่างเปล่าก็เริ่มพูดกลับมา และปรากฎว่าความว่างเปล่านั้นไม่ใช่ความเหงาอันกว้างใหญ่ แต่กลับเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เดี๋ยวนี้มีสิ่งเลวร้ายมากมายที่มาจากโซเชียลมีเดีย ซันเล่าว่าเขาไม่ได้พยายามที่จะหักล้าง การที่มนุษย์เราออนไลน์ในช่วงเวลาใดก็ตามได้ คือความรู้สึกเศร้า ความโกรธ และความท้วมท้นอย่างมากมาย ราวกับว่ามันคือจุดจบของโลก

แต่ในขณะเดียวกัน เพื่อนสนิทของซันหลายคนคือคนที่เขาเคยพบเจอทางออนไลน์มาก่อน และเขาคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะสื่อสังคมออนไลน์มีลักษณะเหมือนกับพื้นที่ให้เราได้สารภาพบางอย่างออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

มันสามารถเขียนอะไรที่เป็นส่วนตัวได้ เป็นบันทึกประจำวันที่ส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกันทุกคนก็อ่านมันได้ และส่วนหนึ่ง ความสุขของมันคือการที่เราได้สัมผัสสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองจากคนที่แตกต่างจากตัวเราอย่างสิ้นเชิง และบางครั้งก็เป็นสิ่งที่ดี

ตัวอย่างเช่น เมื่อเขาเข้าร่วม Twitter ครั้งแรก เขาพบว่าผู้คนจำนวนมากที่ติดตามกำลังพูดถึงสุขภาพจิตและเข้ารับการบำบัดด้วยวิธีที่ไม่ทิ้งหลักฐานการรักษา พวกเขามักจะทำพูดถึงปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเอง และการสนทนาเกี่ยวกับสุขภาพจิตเป็นเรื่องปกติ และชาวทวิตเตอร์ช่วยให้เขารู้ว่าการไปบำบัดเป็นสิ่งที่จะช่วยเขาได้เช่นกัน

สำหรับคนจำนวนมาก ดูเหมือนเป็นความคิดที่น่ากลัวที่จะพูดถึงหัวข้อเหล่านี้อย่างเปิดเผยบนอินเทอร์เน็ต หลายคนคิดว่าโลกออนไลน์เป็นเรื่องใหญ่และน่ากลัว หากคุณไม่ได้มีรูปร่างที่สมบูรณ์ แต่อินเทอร์เน็ตเป็นสถานที่ที่ดีจริง ๆ เราสามารถจัดการกับมันด้วยความตื่นเต้น เพราะมัน มีบางสิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับการแบ่งปันความไม่สมบูรณ์แบบของทุกคน ทั้งความไม่มั่นคง และความเปราะบางของกับผู้อื่น

เวลามีใครมาบอกว่ารู้สึกเศร้า กลัว หรืออยู่คนเดียว มันทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง มันอาจจะไม่ใช่การกำจัดความเหงา แต่มันแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ได้รู้สึกเหงาอยู่คนเดียว

มันน่าตื่นเต้นที่จะนำพาความรู้สึกส่วนตัวที่มองไม่เห็น สิ่งที่เราพูดไม่ถูกเกี่ยวกับมัน มาทำให้มันสว่าง พูดคำเหล่านั้น แล้วแบ่งปันกับคนอื่น ๆ ด้วยความหวังว่าจะสามารถช่วยพวกเขาหาคำมาบรรยายความรู้สึกนี้ได้เช่นเดียวกัน

ตอนนี้ ฉันรู้ว่ามันฟังดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่สุดท้ายแล้ว เราสนใจที่จะใส่สิ่งเหล่านี้ลงในแพ็คเกจเล็กๆ ที่เข้าถึงได้ เพราะเมื่อเราซ่อนมันไว้ในชิ้นเล็กๆ เหล่านี้ พวกมันจะเข้าใกล้ได้ง่ายขึ้น พวกมันสนุกมากขึ้น และช่วยให้เราสามารถเห็นความเป็นมนุษย์ร่วมกันของเราได้ง่ายขึ้น

บางครั้งมันก็อยู่ในรูปแบบของเรื่องสั้น บางครั้งก็อยู่ในรูปแบบของหนังสือภาพประกอบน่ารักๆ และบางครั้งมันก็อยู่ในรูปแบบของเรื่องตลกโง่ ๆ ที่ฉันจะโยนลงอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น เราโพสต์แนวคิดแอปสำหรับบริการพาสุนัขเดินเล่น โดยมีสุนัขปรากฏตัวที่ประตูบ้านคุณ และคุณต้องออกจากบ้านไปเดินเล่น

หรือทุกครั้งที่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการส่งอีเมล เมื่อเขียนลงท้ายในอีเมลว่า “Best” คำนี้ย่อมาจาก “I am trying my best,” ซึ่งย่อมาจาก “ได้โปรดอย่าเกลียดผมเลย ผมสัญญาว่าผมพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว!”

บางครั้งเราก็โพสต์คำถามเพื่อทำให้เกิดการสนทนา อย่างถามว่า “ถ้าเราเลือกใครก็ได้มากินข้าวเย็นกับเรา เราจะกินข้าวเย็นกับใคร?” เขาพบว่าเมื่อโพสต์สิ่งเหล่านี้ทางออนไลน์ ปฏิกิริยาจะคล้ายกับการพูดคุยกันมาก ผู้คนมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันเสียงหัวเราะ แบ่งปันความรู้สึก และหลังจากนั้นก็เพื่อระบายความในใจอย่างรวดเร็ว บางครั้งการรวมตัวกันในเรื่องเล็ก ๆ ก็กลายเป็นบางสิ่งที่มีความหมาย

ซันเล่าว่าตอนเรียนจบจากโรงเรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์และย้ายไปที่เคมบริดจ์ เขาโพสต์คำถามว่า “ใครบ้างที่คุณมีบทสนทนาครั้งสุดท้ายด้วยในชีวิตของคุณ” และเขาก็คิดถึงเพื่อนๆ ของตัวเองที่ย้ายออกไปอยู่เมืองต่าง ๆ และประเทศต่าง ๆ แม้กระทั่ง คิดถึงว่ามันยากแค่ไหนสำหรับการที่จะติดต่อกับพวกเขาอีกครั้ง

จากนั้นก็มีเพื่อน ๆ ในโซเชียลเริ่มตอบและแบ่งปันประสบการณ์ของตนเอง มีคนพูดถึงสมาชิกในครอบครัว มีคนพูดถึงคนที่รักที่จากไป มีคนพูดถึงเพื่อนที่ย้ายจากโรงเรียนไป แต่แล้วสิ่งที่ดีจริง ๆ ก็เกิดขึ้น แทนที่จะตอบกลับแค่กับเขา ผู้คนก็เริ่มตอบกลับซึ่งกันและกัน และพวกเขาก็เริ่มพูดคุยกันและแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองและปลอบโยนกันและกัน และสนับสนุนให้ทักหาเพื่อนที่พวกเขาไม่ได้เจอกัน และในที่สุด เราก็ได้ชุมชนเล็กๆ เล็กๆ แห่งนี้

มันรู้สึกว่ากลุ่มสนับสนุนนี้ประกอบด้วยคนทุกประเภทที่มารวมกัน และทุกครั้งที่เราโพสต์อะไรออนไลน์ มันมีโอกาสที่ชุมชนเล็กๆ เหล่านี้จะก่อตัวขึ้นได้ คนทุกประเภทสามารถมารวมกัน และดึงเข้าด้วยกันได้ และบางครั้ง ผ่านอินเทอร์เน็ต คุณจะพบจิตวิญญาณที่เป็นเสมือนเครือญาติ บางครั้งนั่นก็อยู่ในการอ่านคำตอบและความคิดเห็น 

บางครั้งก็เป็นการไป follow ใครสักคนและเห็นว่าเขา follow คุณกลับมา และบางครั้งก็เป็นการมองคนที่คุณรู้จักในชีวิตจริง และเห็นสิ่งที่คุณเขียนและสิ่งที่พวกเขาเขียนและตระหนักว่าคุณมีความสนใจเหมือนกันมากมายเช่นเดียวกับที่พวกเขาทำ และนั่นทำให้พวกเขาใกล้ชิดกับคุณมากขึ้น บางครั้งถ้าคุณโชคดี คุณจะได้เจอเอเลี่ยนตัวอื่น

แต่เขาก็กังวลเหมือนกัน เพราะอย่างที่เราทุกคนรู้ อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกแบบนี้ เราทุกคนรู้ดีว่าโดยส่วนใหญ่ อินเทอร์เน็ตทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นสถานที่ที่เราเข้าใจกันผิด เกิดความขัดแย้งกัน เกิดความสับสน กรีดร้อง โวยวาย และรู้สึกเหมือนมีอะไรมากเกินไป ในทุกสิ่ง มันให้ความรู้สึกโกลาหล และแยกส่วนที่ไม่ดีออกไปจากส่วนดีไม่ออก และอย่างที่เราเคยเห็นมา ส่วนที่ไม่ดีสามารถทำร้ายเราได้จริงๆ

แพลตฟอร์มที่เราใช้อยู่ในพื้นที่ออนไลน์เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือทั้งจงใจให้เกิดการล่วงละเมิดและเผยแพร่ข้อมูลที่ผิด ทำให้เกิดคำพูดแสดงความเกลียดชังและความรุนแรงที่มาจากพื้นที่ดังกล่าว และดูเหมือนกับว่าไม่มีแพลตฟอร์มไหน ในปัจจุบันของเราที่จะแก้ไขปัญหานั้นได้

แต่ถึงกระนั้น และอาจน่าเสียดาย ที่เรายังคงสนใจพื้นที่ออนไลน์เหล่านี้ อย่างที่หลายๆ คนเป็น เพราะบางครั้งมันก็รู้สึกเหมือนเป็นที่ที่ทุกคนอยู่ และบางครั้งเราก็รู้สึกงี่เง่าที่ประเมินค่าช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ ของความสัมพันธ์ของมนุษย์ในช่วงเวลาเช่นนี้ เราไม่ได้หนีจากโลกเลย แต่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงมาที่พื้นที่เหล่านี้ เพราะเรามีความสำคัญและอินเทอร์เน็ตเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชั่วคราวเล็กๆ ที่แสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างที่เราคิด 

ดังนั้นในคืนหนึ่ง เมื่อเรารู้สึกเศร้าและสิ้นหวังกับโลกใบนี้เป็นพิเศษ เราก็ตะโกนออกไปสู่ความว่างเปล่า สู่ความมืดมิดที่อ้างว้าง พูดว่า “ณ จุดนี้ การเข้าสู่โซเชียลมีเดียรู้สึกเหมือนการจับมือใครซักคนในวันสิ้นโลก” และคราวนี้ แทนที่จะเป็นช่องว่างที่ต้องตอบสนอง กลับเป็นคนที่ปรากฏตัวขึ้น เราเริ่มตอบกลับ แล้วเริ่มพูดคุยกัน และชุมชนเล็กๆ เล็กๆ แห่งนี้ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อจับมือกัน

และในช่วงเวลาที่อันตรายและไม่แน่นอนเหล่านี้ ท่ามกลางเรื่องทั้งหมด สิ่งที่เราต้องยึดมั่นคือ คนอื่น และนั่นเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ประกอบขึ้นจากช่วงเวลาเล็ก ๆ แต่มันอาจเป็นแสงเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในความมืดมิดทั้งหมด

ที่มา : https://www.ted.com/talks/jonny_sun_you_are_not_alone_in_your_loneliness/transcript?rid=KQg25qPv6qnu&utm_source=recommendation&utm_medium=email&utm_campaign=explore&utm_term=watchNow

Tags:

inspirationJohny SunTEDแรงบันดาลใจ

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

Sky Brown : Sky’s the Limit

Next

“Man in the Car Paradox” : ไม่มีใครประทับใจสิ่งของของคุณมากไปกว่าคุณ

Next
December 22, 2021

“Man in the Car Paradox” : ไม่มีใครประทับใจสิ่งของของคุณมากไปกว่าคุณ

Previews
December 21, 2021

Sky Brown : Sky’s the Limit

Related Posts

Sky Brown : Sky’s the Limit

by sopons
December 21, 2021

Picasso Principle : สร้างนิสัยให้เป็นคนที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์

by sopons
August 3, 2021

วัฒนธรรมไม่รับเงินเดือนและความหมายเบื้องหลังของการกระทำ

by sopons
July 12, 2021

ชายคนหนึ่งและการใช้ความเจ็บปวดทางอารมณ์เพื่อประสบความสำเร็จ

by sopons
December 23, 2021
SOPON’S BLOG

STUFF WORTH READING

© 2022, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Psychology

Follow

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact