ผิดทุกคน ยกเว้นตัวเอง : ‘โรคคลั่งไคล้ตัวเอง’ โทษคนรอบข้างแต่ไม่เคยมองสิ่งที่ตัวเองทำ
วอน ฟิชเชอร์ (Von Fisher) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความสัมพันธ์และการหย่าร้างที่บริษัทให้คำปรึกษา Phoenix Rising Coaching เล่าถึงช่วงหนึ่งของชีวิตกับคนรักเก่าของเธอ
ฟิชเชอร์อายุประมาณยี่สิบต้น ๆ ในตอนนั้น ในช่วงแรก ๆ ของความสัมพันธ์เขาจะใส่ใจดูแลและแสดงความสนใจในระดับที่ ‘สูง’ เป็นพิเศษเพื่อสร้างรากฐานของความไว้วางใจ บทสนทนาส่วนใหญ่ก็เป็นการถกประเด็นที่น่าสนใจ มุมมองของชีวิตก็ถือว่าคล้ายกัน เวลาที่ใช้ด้วยกันก็สนุกดี และทั้งคู่ก็ตัดสินใจคบหากันอย่างจริงจัง
แต่หลังจากคบหาดูใจกันมาได้สักพักเธอก็เริ่มสังเกตเห็นบางอย่าง โดยเฉพาะทุกครั้งที่มีการถกเถียงทะเลาะกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติในทุกความสัมพันธ์ แต่สำหรับเขาทุกการทะเลาะจะพลิกสถานการณ์เพื่อให้ตัวเองเป็น ‘เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย’ และเธอคือ ‘คนร้ายที่ทำผิด’ แทบจะทันที ไม่แค่นั้นเขายังทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของตัวเองทั้งหมดเลย
ตอนแรกเธอก็คิดว่าหรือว่าเธอเองที่ควรจะเข้าใจเขามากกว่านี้รึเปล่า แต่หลังจากพยายามปรับตัว กลายเป็นว่าเธอต้องคอยพูดอย่างระมัดระวัง ไม่ทำร้ายจิตใจ ไม่แสดงความคิดเห็นหรือชูประเด็นที่ขัดกับความคิดของเขาได้เลย ไม่เพียงแค่เขาจะทำเหมือนทุกอย่างเป็นการจู่โจมตัวเขา แต่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอเชื่อว่าความคิดของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ผิด และจะต้องเอาชนะอยู่ตลอดเวลาด้วย
ทุกครั้งที่พูดเกี่ยวกับอดีตที่ผ่านมาก็จะบอกว่าตัวเองไม่เคยได้ในสิ่งที่อยากได้ เป็น ‘เหยื่อ’ ผู้เคราะห์ร้าย โทษอาจารย์มหาวิทยาลัยว่าแกล้งเขา คิดเกรดผิด ทำให้ไม่ได้เกียรตินิยม (ซึ่งภายหลังเธอก็มาเจอข้อมูลว่าเขาไม่มีทางได้เกียรตินิยมอยู่แล้ว ไม่ว่าอาจารย์คนนั้นจะให้เกรดอะไรก็ตาม)
เขายังโทษพ่อแม่ตัวเองที่ไม่ได้ตามความฝันในการเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล NBA บอกว่าพ่อแม่บังคับให้เขาโฟกัสที่การเรียนสาขาธุรกิจแทน (ซึ่งเขาสูงราว ๆ 178 เซนติเมตรและจากที่เธอดูก็ไม่ได้เก่งอะไร เพราะฉะนั้น…ไม่น่าจะเป็นไปได้)
ยิ่งนานวันยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งฟางเส้นสุดท้ายก็ขาด ตอนที่เขาโทษเธอว่าที่นำเสนองานไม่ดีก็เพราะมีเธอเป็นต้นเหตุ หลังจากนั้นก็ใส่เป็นชุด ๆ ว่าเธอทำให้เขาไม่สามารถโฟกัสกับงานและเสียโอกาสได้รับการเลื่อนขั้นและขึ้นเงินเดือน ฯลฯ และนั่นก็คือสัญญาณบ่งบอกเธอว่าคงต้องจากกันแล้ว
การเลิกรากันครั้งนั้นทำให้เธอตัดสินใจมาทำอาชีพที่ทำอยู่ในตอนนี้คือการช่วยเหลือและแนะนำผู้หญิงหลังจากหย่าร้างและเลิกรากับคู่ครอง ซึ่งเธอก็เชื่อว่าชีวิตมีที่ควรอยู่ห่างแบบนี้เยอะมาก บางสถานการณ์ก็เลวร้ายกว่านี้ และการที่ออกมาได้ถือเป็นโชคดีมาก ๆ
ตามหลักจิตวิทยาแล้ว สิ่งที่อดีตคนรักของฟิชเชอร์เป็นมีเรียกว่าเป็นภาวะ ‘โรคคลั่งไคล้ตัวเอง’ (Narcissistic Personality Disorder – NPD) คืออาการผิดปกติทางจิตสะท้อนถึงภาวะความบกพร่องทางบุคลิกภาพ บุคคลจะมีความลุ่มหลงตัวเองมากจนเกินไป เชื่อว่าตนเองสำคัญที่สุด สมควรได้รับการปฏิบัติพิเศษ สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มักจะใช้ผู้อื่นเป็นเครื่องมือทำประโยชน์ให้กับตัวเอง
สาเหตุของโรค NPD มีที่มาจากทั้งกรรมพันธุ์และการเลี้ยงดู บุคคลที่เติบโตมาในครอบครัวที่ได้รับการเลี้ยงดูแบบเชิดชูและตามใจมากเกินไป
ถ้าไม่แน่ใจว่าคนที่เรารู้จักเป็นแบบนี้รึเปล่า ลองสังเกตความรู้สึกของตัวเองตอนอยู่ใกล้ ๆ ก็ได้ครับ เราจะรู้สึกไร้ค่า เหมือนถูกทอดทิ้งให้เผชิญความยากลำบากคนเดียว ไม่มั่นใจ เครียด กังวล ท้อแท้ เรียกร้องอะไรไม่ได้ ไม่สามารถพูดความจริงได้ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คุณต้องโกหกบ่อย ๆ ไม่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง ที่สำคัญคือรู้สึกแย่มาก ๆ เพราะคนที่ควรจะรักคุณกลับทำร้ายคุณแบบนี้
คนแบบนี้ไม่มียารักษานะครับ แต่เยียวยาได้ด้วยการไปเจอกับจิตแพทย์ ซึ่งเขาก็ต้องเห็นก่อนด้วยว่าตัวเองมีปัญหา ถ้าเจอคนแบบนี้ในความสัมพันธ์ก็หนีออกมาเถอะครับ อย่าไปส่งเสริมแบบผิด ๆ ด้วย
แต่ถ้าต้องทำงานกับคนแบบนี้ (อย่างหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน) ขอให้จดบันทึกทุกอย่าง การประชุม หลักฐานการทำงาน และเมื่อเกิดปัญหาให้โฟกัสไปที่ปัญหาครับ เพราะคนแบบนี้จะโทษทุกคนและทุกอย่างรอบตัว ยกเว้นตัวเอง
ที่สำคัญคุณต้องดูแลตัวเองด้วย อย่าไปตกเป็นเหยื่อทางอารมณ์ของคนที่เป็นโรคคลั่งไคล้ตัวเอง บาดแผลทางจิตใจของคุณอาจไม่ได้แสดงออกมา แต่มันลึกอยู่ข้างใน ถ้าไม่จำเป็นต้องทนอยู่ก็หนีให้ห่าง ๆ พวกเขาไม่สามารถสัมผัสความรักและความห่วงใยจากคนรอบข้างได้ คุณมีแต่เสียกับเสียครับ
===========
https://www.verywellmind.com/understanding-the-covert-narcissist-4584587