6 ประโยชน์ของการเป็นคนรวยและอีก 2 ประโยชน์ที่คนรวยต้องผิดหวัง
ปัญหาของการอยากรวยก็คือเราไม่รู้ว่าการรวยน่ะ แค่ไหนถึงจะรวย หากคุณอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ คุณอาจคิดว่าคนมีบ้านรวย พวกเราเจ้าของบ้านก็จะคิดว่าคนที่อยู่ในคฤหาสน์ร่ำรวย ชาวคฤหาสน์ก็อาจคิดว่าโอปราห์ วินฟรีย์ (Oprah Winfrey) สิที่รวยจริง ๆ
แต่คำถามที่แท้จริงที่บทความนี้พยายามจะค้นหาก็คือคืออะไรทำให้ ทำไมคุณถึงแน่ใจนักว่าตอนนี้คุณยังไม่รวย? ท้ายที่สุด หากคุณกำลังอ่านข้อความนี้ คุณกำลังอ่านข้อความนี้บนอุปกรณ์ที่มีราคาและดูเหมือนจะมีเวลาว่างอยู่บ้าง
คุณน่าจะมีทรัพย์สินมากกว่าคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ
มันสมเหตุสมผลกว่าที่จะนึกถึงสิ่งที่เป็นรูปธรรมสำหรับความมั่งคั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่มีความหมายมากกว่าเหตุการณ์สำคัญตามอำเภอใจ ต่อไปนี้คือส่วนที่สมเหตุสมผลของการรวย
- ไม่มีหนี้สิน มีสถานะภาพทางการเงินเป็นบวก
- ใช้เงินน้อยกว่าที่หาได้
- เป็นอิสระทางการเงินอยู่เฉย ๆ ก็มีเงินพอเหลือพอใช้
การแสวงหาความมั่งคั่งใน 3 ระดับนี้เป็นการเดินทางที่คุ้มค่า และความมั่งคั่งก็มาพร้อมกับผลประโยชน์ที่สำคัญ
ต่อไปนี้คือหกข้อที่ Matthew Kent (ผู้เขียนจาก medium) คิดว่าสำคัญ และบางส่วนคุณอาจเคยเห็นผ่านมาแล้ว
1. ความสามารถในการให้คืน
เราอาจไม่ใช่คนที่ก่อร่างสร้างตัวขึ้นด้วยตัวเองขึ้น แต่เราทุกคนสามารถพัฒนาได้ด้วยความอดทน และบทเรียนของเหตุการณ์และผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
คุณอาจทำงานหนักมากเพื่อไปยังที่ที่คุณอยู่ แต่เบื้องหลังแล้วคุณอาจต้องได้รับความช่วยเหลือมากมายเช่นกัน
ถึงเวลามอบให้คนอื่นบ้าง
ซึ่งนี่คือข้อดีของการเป็นคนรวย คุณสามารส่งต่อได้เลยทันที แม้ว่าภาระหนี้ของคุณอาจจะมากขึ้น แต่ก็คุณยังสามารถเริ่มได้ในขณะที่คุณก็ยังเป็นหนี้อยู่ได้
คุณอาจไม่สามารถตอบแทนอะไรได้มากมายนัก แต่การให้เพียงเล็กน้อยก็สามารถพาเราไปได้ไกล เช่นการอุปการะเด็กจากมูลนิธิสักที่หนึ่ง
2. เสรีภาพในการไล่ตามสิ่งที่สำคัญ
เงินมีความสำคัญมาก เพราะเป็นสกุลเงินที่สังคมมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่สำคัญกว่านั้น เช่น ครอบครัวและชุมชน
การมีอิสระทางการเงินจะช่วยให้คุณสามารถมีทรัพยากรอันมีค่าที่สุด (เวลา) มากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่สำคัญที่สุด
อย่างเรื่องราวของบล็อกเกอร์การเงินส่วนบุคคล Mr. Money Mustache ที่ทุกคนให้ความสนใจ คือความจริงที่ว่าเขาเกษียณอายุในวัย 30 ต้นๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ แต่ส่วนที่ติดอยู่กับฉันเสมอคือความจริงที่ว่าเขาเกษียณก่อนที่จะมีลูกเสียอีก
หลายคนเชื่อว่าคุณควรแต่งงานและมีลูกได้ก่อนที่คนทั่วไปจะทำ และเรารู้กันว่าการเกษียณอายุก่อนมีลูกไม่ได้เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ แต่มันเป็นแนวคิดที่น่าทึ่ง
ในทางกลับกัน คุณต้องระวังว่าการแสวงหาเงินที่จะไม่ทำให้คุณเสียสมาธิจากสิ่งที่สำคัญ มันจะเป็นโศกนาฏกรรมที่แท้จริงหากคุณหมกมุ่นอยู่กับการสร้างความมั่งคั่ง เพื่อให้ได้เวลาอยู่กับครอบครัวจนคุณละเลยครอบครัวเหมือนพ่อจากเพลง “Cat’s in the Cradle” ของ Harry Chapin
3. สามารถควบคุมเวลาของคุณได้
ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของคุณคือเวลา ดังที่ Tyler Durden ตัวละครใน Fight Club กล่าวว่า “นี่คือชีวิตของคุณและมันจะจบลงทีละนาที”
หลังจากการระบาดของโควิด ทำให้เราได้เห็นข้อดีของการได้ทำงานในออฟฟิศ จริง ๆ แล้วมันมีข้อดีอยู่สองสามอย่าง เช่น การได้เจอผู้คน แต่การใช้เวลาแปดชั่วโมงให้กับงานของโดยสมบูรณ์ มันไม่ต่างอะไรกับอยู่ในคุก อาจไม่เหมือนคุก แค่อีกนิดหน่อยก็คุก
เมื่อคุณได้รับอิสรภาพจากการจ้างงาน คุณจะควบคุมได้ว่าจะใช้เวลาอย่างไร
ถ้าคุณปาดเปรียว คุณจะยังทำงาน แต่คุณจะต้องเลือกงานที่ดูมีความหมายสำหรับคุณ คุณจะได้เลือกวิธีการทำงานที่เหมาะสมกับคุณ และไม่ต้องรู้สึกถูกล่ามโซ่กับโต๊ะทำงานของคุณ หรือในกรณีที่เจ้านายกำลังดูอยู่ หากคุณรู้สึกว่าอยากเดินไกล ๆ เพื่อทำให้สมองปลอดโปร่ง คุณก็จะสามารถทำได้โดยไม่ต้องหาเหตุผลให้ตัวเอง
4. อิสระจากความกังวล
อันนี้เป็นเงินส่วนหนึ่งและจิตวิทยาส่วนหนึ่ง
ยิ่งสถานการณ์ทางการเงินของคุณแข็งแกร่งขึ้นเท่าใด คุณก็ยิ่งต้องกังวลน้อยลงเท่านั้น แต่จากประสบการณ์แล้วคุณสามารถกังวลได้เมื่อมีอันตราย และคุณก็สามารถกังวลได้เมื่อปลอดภัย
เมื่อคุณไม่มีหนี้ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เช่น การสูญเสียบ้าน
เมื่อคุณใช้จ่ายน้อยกว่าที่หามาได้ คุณก็จะสามารถเริ่มลงทุนและสร้างกองทุนฉุกเฉินได้ กองทุนฉุกเฉินไม่เพียงแต่เป็นเกราะป้องกันภัยพิบัติในชีวิตเท่านั้น แต่ยังมีช่องว่างระหว่างสิ่งที่คุณใช้จ่ายกับสิ่งที่คุณได้รับคือส่วนต่างของความปลอดภัย(margin of safety)
เมื่อคุณมีอิสระทางการเงิน คุณก็ไม่ต้องกังวลกับการสูญเสียงานหรือรายได้ที่คุณหามาได้ในปีนี้อีกต่อไป รายได้ที่เคลื่อนไหวอยู่ทั้งหมดเป็นเพียงน้ำเกรวี่เมื่อคุณมีมากพอที่จะไม่ต้องทำงานอีก
5. ความสามารถในการเดินทางไปแตะขอบฟ้า
สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถทำได้ด้วยเวลาและเงินที่เพิ่มขึ้นคือการได้เห็นดาวเคราะห์ยักษ์ดวงนี้ที่คุณอาศัยอยู่มากขึ้น
การท่องเที่ยวไม่ใช่เคล็ดลับในการมีชีวิตที่มีความหมาย แต่มันมีประโยชน์บางประการ
จากหนังสือชื่อ Off the Clock โดยลอร่า แวนเดอร์คัม กล่าวไว้ว่าหนึ่งในอันตรายของการทำงานปีแล้วปีเล่าคือเวลานั้นหายไปใน “หลุมลึกแห่งความทรงจำ” การเดินทางทั้งหมด กลายเป็นการเดินทางเดียวในใจคุณ การประชุมทั้งหมดนั้นผสมผสานกันราวกับสีบนพรมสกปรก
ประสบการณ์ใหม่ ๆ จะบังคับให้คุณใส่ใจกับที่ที่คุณอยู่ คุณไม่สามารถขับผ่านระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติได้ในขณะที่แอบกังวลเกี่ยวกับอย่างอื่นเพราะคุณไม่มีสคริปต์ เพื่อช่วยคุณสำรวจสภาพแวดล้อมปัจจุบันของคุณ โฟกัสนี้ช่วยให้คุณสร้างความทรงจำที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและช่วยให้เวลาช้าลง (ในทางที่ดี)
สิ่งสำคัญคือคุณต้องจำไว้ว่าคุณเป็นคนสามคนนี้
- คนที่จดจำตัวเองได้ (The remembering self)
- คนที่มีประสบการณ์ (The experiencing self)
- คนที่คาดเดาได้ (The anticipating self)
ถ้าคุณรวยพอที่จะท่องเที่ยวอยู่แล้ว คุณก็รวยพอที่จะวางแผนการเดินทางขนาดเล็กหรือแม้แต่ “micro adventures” อย่างการที่เราเพิ่งไปร้านอาหารใหม่ต่างเมืองกับเพื่อนในสุดสัปดาห์
6. ไม่ต้องทนกับราคา
ยิ่งคุณร่ำรวยมากเท่าไหร่ ของที่คุณซื้อก็ยิ่งมีราคาถูกลงเท่านั้น และอย่างที่ MJ DeMarco พูดไว้ว่า
“ความสามารถในการจ่ายได้คือเมื่อคุณจ่ายโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้”
Ramit Sethi ผู้เขียน I Will Teach You to Be Rich กล่าวว่า ชีวิตที่ร่ำรวยหมายความว่าเขาไม่ต้องกังวลกับการซื้ออาหารเรียกน้ำย่อย เขายังบอกได้ด้วยว่าเขาต้องการซื้อบ้าน และไม่มีราคาเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด หรือแม้แต่ปัจจัยหลัก
เห็นได้ชัดว่าระดับของความมั่งคั่งที่ให้คุณซื้ออาหารเรียกน้ำย่อยโดยไม่ต้องตัดสินใจนานนั้นทำได้มากกว่าความมั่งคั่งแบบที่ให้คุณซื้อบ้านโดยไม่ต้องคิดราคา แต่ทั้งคู่ก็คุ้มค่าที่จะใฝ่ฝัน
ผลประโยชน์ที่เป็นภาพลวงตา
น่าเสียดายที่ผลประโยชน์บางอย่างที่รับรู้ได้จากความมั่งคั่งนั้นไม่ได้มีประโยชน์เลย ผู้คนคิดว่าพวกเขารู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการกลับทำให้พวกเขาผิดหวังเสมอ
นี่คือ “ประโยชน์” สองประการของการเป็นคนรวยที่รับประกันว่าจะต้องผิดหวัง
1. ความสามารถในการซื้อสถานะ
คุณจะมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะถูกรัก เคารพ และชื่นชม ไม่มีอะไรน่าละอาย คนอื่นก็ทำเช่นกัน
ภาพที่ชัดที่ดีที่สุดอาจเป็น “man in the car paradox” จาก Morgan Housel ผู้เขียน The Psychology of Money แนวคิดก็คือเมื่อคุณเห็นรถราคาแพง คุณจะรู้สึกอิจฉาและคิดว่าถ้าคุณเป็นเจ้าของรถนั้น ทุกคนจะชื่นชมคุณ เมื่อคิดอย่างนี้ คุณไม่เคยหยุดชื่นชมคนขับ ทั้งที่คุณสังเกตเห็นแค่รถเท่านั้น
คุณอาจคิดว่ามีคนชื่นชมของเล่นแวววาวของคุณ แต่ความจริงแล้วพวกเขาแค่นึกภาพตัวเองกับสิ่งของของคุณ
มันไม่มีทางลัดไปสู่การได้รับความชื่นชมและได้รับความเคารพ วิธีเดียวที่จะได้รับสิ่งนั้นจากพวกเขาคือการได้รับพวกเขา
2. สะสมสิ่งของมากมาย
“คุณซื้อเฟอร์นิเจอร์ คุณบอกตัวเองว่านี่คือโซฟาตัวสุดท้ายที่ต้องการในชีวิต พอซื้อโซฟาแล้วคุณจะพอใจกับมันสักสองสามปี พอคุณได้แล้ว มันก็จะต้องมีชุดจานที่เหมาะสม เตียงนอนที่สมบูรณ์แบบ ผ้าม่าน พรม จากนั้นคุณก็ติดอยู่ในรังที่น่ารักของคุณ และสิ่งที่คุณเคยเป็นเจ้าของ ตอนนี้พวกมันเป็นเจ้าของคุณแล้ว”
Chuck Palahniuk, Fight Club
สิ่งที่คุณเคยเป็นเจ้าของจะจบลงด้วยการเป็นเจ้าของคุณ
จงระวังเรื่องการซื้อของ แม้กระทั่งของดีๆ ที่มีความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่าง “สิ่งที่ดี” และ “ขยะ”
Final Thoughts
คุณต้องการที่จะเป็นคนรวยไหม? ในบางแง่ คุณอาจเป็นอยู่แล้วและสามารถเริ่มทำตัวเหมือนวันนี้ได้ แต่มันก็คุ้มค่าที่จะใฝ่หาความมั่งคั่งในระดับต่อไปเพราะจะมีประโยชน์มากมายที่รออยู่ เพียงต้องแน่ใจว่าคุณไม่ได้ไล่ตามสิ่งที่ผิดหรือพลาดสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคุณ
ที่มา : https://medium.com/money-the-simple-way/six-real-benefits-of-being-rich-7c3cb11c2953