PEGGY GUGGENHEIM : นักสะสมงานศิลปะหญิงที่เฉียบและโมเดิลที่สุดในยุค 40s’
ใครจะไปคาดคิดว่าภาพวาดของ Braque, Picasso, Klee, Dali, Magritte จะถูกปฏิเสธจากพิพิธภัณฑ์ Louvre และบอกว่างานศิลป์เหล่านี้ไม่มีค่าเพียงพอที่จะปกป้องจากระเบิดของฮิตเลอร์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และ นี่คือเรื่องราวของ PEGGY GUGGENHEIM ของนักสะสมงานศิลปะหญิงที่เฉียบและโมเดิลที่สุดในยุค 40s’
เป๊กกี้ กุกเกนไฮป์ (Peggy Guggenheim) หรือชื่อจริงของเธอมาร์กาเร็ต กุกเกนไฮม์(Marguerite Guggenheim) เศรษฐีนีอเมริกันนักสะสม และผู้อุปถัมภ์เหล่าศิลปิน Abstract Expressionist ในยุค 1940s’ พ่อของเธอคือเบนจามิน กุกเกนไฮม์ ลูกชายของเมเยอร์ กุกเกนไฮม์ เจ้าสัวเหมืองแร่ผู้มั่งคั่ง และเป็นหลานของคือโซโลมอน อาร์. กุกเกนไฮม์ ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ Guggenheim ในนิวยอร์ก
แม้จะเกิดในครอบครัวที่มั่งคั่งแต่ชีวิตในวัยเด็กของเธอกลับไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่สำหรับเด็กสาววัย 14 ปีที่ต้องสูญเสียพ่อไปในปี 1912 จากเหตุการณ์การอับปางของเรือ Titanic
ธุรกิจของครอบครัวที่ขาดผู้เป็นเสาหลักสูญเสียรายได้ไปบางส่วน และแม้ว่าความมั่งคั่งของครอบครัวของเธอจะยังเทียบได้กับงบประมาณประเทศในประเทศเล็กๆ แต่เธอก็รู้สึกยากจนเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ในครอบครัวของเธอ ในช่วงวัยรุ่น เธอกบฏต่อบรรพบุรุษชนชั้นนายทุนของเธอด้วยการโกนขนคิ้วออก และในปี 1919 เป๊กกี๊ก็ได้รับมรดกจากพ่อของเธอ
ง
เริ่มทำงานเป็นผู้ช่วยร้านที่ร้าน Sunwise Turn ใน Manhattan ที่นี่ เธอรับเอาความคิดแนวสังคมนิยม และปฏิเสธความมั่งคั่งที่เธอเกิดมา และเริ่มต้นการอุปถัมภ์ศิลปะแนว Experimental Art
เป๊กกี้ชอบท่องเที่ยวและรักในงานศิลปะ เธอพยายามที่จะพบศิลปินให้มากที่สุดที่ทำจได้ และต่อมา เธอย้ายไปปารีสในปี 1930 และในปี 1938 เธอเปิดแกลเลอรี่เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายงานศิลปะสมัยใหม่ เธอเป็นเพื่อนกับนักเขียนที่มีความสามารถมากที่สุดในโลก อย่าง Romaine Brooks, Djuna Barns และ Natalie Barney
เธอแต่งงานครั้งแรกกับนักเขียน Laurence Vail ในปี 1922 และใช้ชีวิตแบบโบฮีเมียน โดยสามีของของเธอเป็นที่รู้จักในนาม “ราชาแห่งโบฮีเมียน” ก่อนที่พวกเขาจะหย่าร่างกันในปี 1928
เป๊กกี้มีภารกิจที่จะสร้างคอลเลกชันผลงานศิลปะสมัยใหม่ที่ดีที่สุดในโลก (finest works of modern art in the world) เธอเลือกสรรงานศิลป์อย่างระมัดระวัง โดยซื้อการที่เธอจะซื้อภาพวาดสักภาพหนึ่ง เธอต้องมีความคิดที่ชัดเจนว่า ใครควรรวมอยู่ในคอลเล็กชันของเธอ
เธอเดินกลับมาที่สหรัฐอเมริกาในปี 1941 และแต่งงานอีกครั้งกับนักวาด Surrealist ที่ชื่อ Max Ernst ในปี 1941 เธอเปิดหอศิลป์อีกแห่งคือ Art of This Century ในนิวยอร์ก และสนับสนุนศิลปินอีกหลายคนให้ได้โชว์ผลงานของตนเอง ในบรรดาจิตรกรคนสำคัญที่เธอให้การสนับสนุน ได้แก่ Jackson Pollock, Mark Rothko, Robert Motherwell และ Hans Hofmann
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เป๊กกี้กังวลว่าภาพของเธอจะถูกทำลายโดยระเบิดที่ตกลงมาในกรุงปารีส เธอขอความช่วยเหลือจากภัณฑารักษ์ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) แต่พวกเขาบอกเธอว่า ‘งานที่เธอเธอไม่มีอะไรควรค่าแก่การปกป้อง’ ซึ่งงานพวกนั้นคืองานของ Braque, Picasso, Klee, Dali, Magritte
นั่นทำให้เป๊กกี้โกรธจัด และตัดสินใจเก็บภาพวาดของเธอไว้ในโรงนาของเพื่อนนอกกรุงปารีสเพื่อปกป้องงานสะสมของเธอ
หลังสงคราม เป๊กกี้ย้ายไปเวนิส ประเทศอิตาลี เธอมักจะล่องเรือไปรอบเมืองด้วยเรือกอนโดลาส่วนตัวพร้อมสุนัขตัวโปรดของเธอบนตัก โดยสวมแว่นกันแดดสไตล์ jazzy sunglasses
ในสมัยนั้นเธอถือเป็นแรงผลักดันในโลกศิลปะที่ครอบงำโดยผู้ชาย จนกระทั่งเมื่อเวลาล่วงเลยมา Peggy Guggenheim Collection ก็เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในอิตาลี ซึ่งตั้งอยู่ในบ้านเก่าของชาวเวนิส ริมฝั่ง Grand Canal
ปัจจุบันเราสามารถชมผลงานสะสมบางส่วนได้ทางออนไลน์ :
https://www.guggenheim-venice.it/en/art/artists/
ที่มา :
https://www.sartle.com/blog/post/art-patrons-peggy-guggenheim
https://www.theartstory.org/influencer/guggenheim-peggy/life-and-legacy/
https://www.guggenheim-venice.it/