Khom Chocolate House – ขม ช็อคโกแลตเฮาส์
บ้านช็อกโกแลตที่สายเครื่องดื่มรสขมไม่ควรพลาด

.
หลังจากช่วงที่ผ่านมานั้นชีวิตวุ่นวายพอสมควร ทั้งลูกน้อยเริ่มไปโรงเรียน ทั้งเปิดบริษัทใหม่ ทั้งเดินสายดำหัวผู้ใหญ่ ทั้งงานเขียนที่เพิ่มขึ้นเพราะดองไว้นานเพราะดันไปติดซีรี่ย์ (อันนี้ความผิดมึงนะต่าย) ฯลฯ แทบไม่ได้มีเวลาออกไปไหนเลย จนเมื่อประมาณสองสามอาทิตย์ก่อน มีเพื่อนคนหนึ่งโพสต์เกี่ยวกับร้าน Khom Chocolate House แล้วบอกว่า “มาอีกครั้งแล้ว ชอบมากกกก”
และนี่ประโยคจากเจ้าของร้านเครื่องดื่มชื่อดังอีกร้านหนึ่งในเชียงใหม่ ซึ่งต่ายคิดเลยว่าแม้เวลาไม่มี แต่ก็ต้องหาเวลาไปให้ได้แล้ว แล้วก็เหมือนร้านรู้ว่าต่ายคิดถึง ประมาณอาทิตย์ต่อมาร้านทักมาในกล่องข้อความขอรายละเอียดเกี่ยวกับค่าบริการขนส่ง ยังไม่ทันได้ส่งรายละเอียดอะไรให้เลยต่ายถามก่อน “ขออนุญาตไปนั่งคุยที่ร้านได้ไหมครับผม? มีหลายคนมากบอกว่าอร่อยมาก” เจ้าของร้านถ่อมตัวมาก “ไม่ขนาดนั้นหรอกเจ้า” ซึ่งยิ่งทำให้ต่ายเชื่อว่ามันต้องอร่อยแน่นอน เพราะคนมีของมักถ่อมตน หลังจากนัดวันเวลากันเรียบร้อย ต่ายก็แทบจะรอให้วันนั้นมาถึงเร็วๆ (นั่งดูรูปในเพจน้ำลายก็ย้อยๆไป)

บรรยากาศช่วงเที่ยงวันศุกร์ปลายเดือนเมษานั้นโหดร้ายเป็นอย่างมาก ต่ายขับรถมาถึงร้านไม่ยาก ตามโลเคชั่นบน Google Maps มาได้เลย แต่ต้องหาที่จอดรถแถวข้างทางกันนะฮะ แว๊บแรกที่ต่ายเห็นร้าน “น่ารักจัง” คือด้วยขนาดที่นั่งสามโต๊ะ กับเก้าอี้ประมาณสิบตัว บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง เดินเข้าไปในร้านที่ตบแต่งด้วยสีขาวตัดแดง มีความโล่งและใช้พื้นที่ได้ดีมากเลย ยังคิดในใจว่าคนออกแบบร้านเก่งจัง เมื่อได้คุยกับน้อง “เจน” เจ้าของร้านจึงถึงบางอ้อว่าทำไม
ที่นี่มีขนมและของที่กินได้หลายอย่างที่ใช้เป็นสื่อความหมายสำคัญ “ช็อกโกแลต” ก็เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและมิตรภาพ และ “Khom Chocolate House” ช็อกโกแลตบาร์เล็กๆตรงแถวๆคูเมือง ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ และมีน้องเจน เป็นคนที่รันทุกกระบวนการภายในร้าน
คุณเจนอดีตสถาปนิกผู้อิ่มตัวกับงานเดิม ตัดสินใจมาเปิดร้านช็อกโกแลตของตัวเองด้วยความรักที่มีต่อช็อกโกแลต ร้านนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นาน (คุณเจนบอกว่าเปิดช่วงปลายธันวาก่อนปีใหม่นี้เอง) แต่คนมาเข้ามาแทบไม่ขาดเลย เมื่อเปิดประตูสีแดงเข้ามาในร้านก็จะเจอคุณเจน ยิ้มแย้มรอรับลูกค้าและแนะนำแต่ละเมนูอย่างฉะฉาน ก่อนจะกลับไปผสมและเสิร์ฟด้วยตัวเอง คุณเจนเล่าให้ฟังว่าร้านช็อกโกแลตร้านนี้คุณเจนเป็นคนลงมือทำทุกอย่างตั้งแต่ออกแบบร้าน ทาสี คิดเมนู ทำและเสิร์ฟ คุณเจนเล่าให้เราฟังว่าที่มาเปิดร้านนี้ก็เพราะ เธอเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ ไปที่ไหนก็จะดื่มเป็นโกโก้ตลอด รวมถึงได้แรงบันดาลใจมาจากร้าน “กาดโกโก้”
“เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่เลยค่ะ ที่จะออกจากงานมาเปิดร้านช็อกโกแลต”
จากการที่ได้คุยกับคุณเจนนะครับ อย่างหนึ่งที่บอกได้เลยก็คือคุณเจน รักช็อกโกแลตมากๆและได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับช็อกโกแลตมามากพอสมควร ถามอะไรเกี่ยวกับช็อกโกแลตและโกโก้คุณเจนสามารถที่จะอธิบายได้หมด เรียกได้ว่าชี้อะไรในร้านคุณเจนอธิบายถึงที่มาที่ไปได้ทุกอย่าง อย่างในร้านนะฮะ บนชั้นจะมีหลอดที่ตั้งโชว์อยู่ เขียนไว้ว่า BEAN, NIBS, POWDER, BUTTER ด้วยความสงสัยต่ายก็ถามว่ามันคืออะไรคุณเจนก็อธิบายไว้อย่างน่าสนใจว่า ตรงนี้คือผลผลิตที่ว่ากว่าจะได้มาเป็นช็อกโกแลต

“ตอนแรกก็จะเป็นเมล็ดโกโก้มันจะคล้ายๆกับเม็ดน้อยหน่าที่มีเยื้อหุ้มอยู่ แล้วเขาก็จะเจ้าเมล็ดนี้ไปตากแห้งก็จะได้จะมาเป็นเม็ดแล้วเขาก็จะเอาไปคั่ว พอคั่วเสร็จก็จะเป็นแบบนี้ (Bean) จากนั้นก็จะเอาเมล็ดด้านในมาบดให้เป็น Nibs จากนั้นเขาก็จะเอาไปโม้ในเครื่อง 3 วัน กับอีก 3 ชั่วโมง ก็จะได้ออกมาเป็นช็อกโกแลตแมส เวลาในการโม้เนี่ยจะเป็นตัวกำหนดความหยาบ ความละเอียดของช็อกโกแลต แล้วเขาก็อาจจะเอาไปรีดเอาน้ำมันโกโก้(Butter) ไม่ก็ทำให้เป็นผง(Powder)ค่ะ”
คุณเจนยังเสริมอีกว่าโกโก้ที่ปลูกแต่ละที่ก็ให้รสชาติของช็อกโกแลตที่ต่างกันไปโดยโกโก้เนี่ย เป็นพืชที่จะซึมซับรสสัมผัสของพืชใกล้เคียงได้ด้วย ในร้านของคุณเจนจะเลือกเอาช็อกโกแลต Origin มาจากที่ต่างๆทั้งประเทศไทยและเบลเยี่ยม วันที่ต่ายไปคุยกับคุณเจน Special this month เป็น ช็อกโกแลตจากประจวบและนคร
“ตัวช็อกโกแลตจากประจวบจะเป็นช็อกโกแลตที่ไม่ค่อยเปรี้ยว จะมีรสชาติติดกล้วยๆคล้ายกับกล้วยตาก แล้วก็ตัวนครจะรสออกเปรี้ยวๆเลยค่ะ”
คุณเจนแนะนำมาอย่างนั้นแล้วต่ายก็สั่งเป็น Single Cold Chocolate ใช้ Dark Chocolate จากนคร เจ้าเมนู Single Cold Chocolate ความพิเศษคือเมนูนี้เป็นช็อกโกแลตเย็นที่ไม่ใส่น้ำแข็ง โดยคุณเจนได้ทำให้ตัวแก้วเป็นแก้วเย็นๆแล้วก็ละลายช็อกโกแลตและใส่ช็อกโกแลตท็อปไว้ด้านบน เมนูนี้จะคงรสชาติความเป็น Single Origin Chocolate ไว้อย่างชัดเจน — สั้นๆสำหรับการชิมช็อกโกแลตนครในครั้งนี้มีความเปรี้ยวและรสชาติต่างไปจากช็อกโกแลตของที่อื่นเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเลยทีเดียว แล้วพอกัดเจ้าตัว nibs ที่โรยด้านบนจะให้รสชาติคล้ายๆเบอรี่ เคี้ยวกรึบๆ เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว

ถัดมาต่ายก็ลองช็อกโกแลตจากประจวบโดยสั่งเป็น Sipping Chocolate ตัวนี้คุณเจนบอกว่าจะไม่ค่อยถูกปากคนไทยเท่าไหร่เพราะเป็นดาร์กช็อกโกแลตเข้มข้น เนื้อหนืด เมนูนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับมาร์ชเมโล่ — และอีกครั้งสั้นๆสำหรับช็อกโกแลตจากชุมพร “เปรี้ยวข้น เข้ม สัมผัสตอนปลายจะคล้ายๆกับดื่มวอดก้า มีบานาน่ามาด้วย” แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นคุณเจนบอกกับเราว่าเมนูนี้ทานแล้วไม่อ้วนแน่นอนเพราะไขมันที่ได้จากโกโก้ที่ไม่ผสมนม(Single Origin) เป็นไขมันดี
“ตัวช็อกโกแลตมีคาเฟอีนนะคะ แต่ไม่เท่ากาแฟ”
ซึ่งวันนั้นต่ายได้ลองกินไป 4 ตัว ซึ่งตอนที่กำลังนั่งเขียนนี่รู้สึกดีดมากๆเลยครับ.ต่ายได้บอกเล่าประสบการณ์การชิมช็อกโกแลตไปแล้ว 2 ตัว ตัวที่ 3 และ 4 เป็นช็อก Double dark chocolate และ Tropical Orange ตัว Double dark chocolate จะใช้ภาชนะในการเสิร์ฟสองชิ้นด้วยกันคือแก้วที่ใส่ Chocolate Ice cube และ Dark cocoa 80% เจ้าตัวนี้กินไปจะรสชาติคล้ายกับกำลังกินไอติมช็อกโกแลต ตอนที่สนุกคือการเทช็อกโกแลตราดไปด้านบนและโรยเกล็ดโกโก้ไปเพิ่ม เมื่อคนแล้วยกดื่ม “โอ้โห…เข้มมากเลยครับ” คือต่ายเป็นคนทานช็อกโกแลตแบบขมอยู่แล้ว อันนี้คือโดนมาก รสชาติของความขม มีนมนิ๊ดดดดหนึ่งแล้วเปรี้ยวเข้ามาเล็กน้อย ขมแบบสะใจ เข้มข้นถูกใจนักดื่มช็อกโกแลตอย่างแน่นอน

ส่วนเจ้า Tropical Orange เหมาะสำหรับการกินตัดเลี่ยนช็อกโกแลต และเป็นเมนูที่คนไม่ค่อยทานช็อกโกแลตก็น่าจะประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เจ้าตัวนี้จะเป็นดาร์กช็อกโกแลตผสมนมและน้ำส้มแมนดาริน ทานแล้วชื่นใจดีครับ ถ้าเทียบกับ 3 ตัวก่อนหน้าที่สั่งมาจะให้อารมณ์เหมือนดื่มช็อกโกแลตเพียวๆ เห็นต่ายพูดถึงแต่ช็อกโกแลต แต่ร้านนี้ไม่ได้มีแค่ช็อกโกแลตนะครับที่ร้านยังมีขนมเค้กต่างๆและคุกกี้ไว้บริการ วันนี้ต่ายก็ได้ไปลอง Japanese Cheese Cake, Black Brown Red Velvet Chesse, Cream Brownie สามตัวสำหรับต่าย ต่ายรู้สึกว่าเป็นเค้กที่เนื้อแน่นและดึงเอารสชาติของวัตถุดิบออกมาได้ดี แต่ที่ต่ายชอบที่สุดเป็น Japanese Cheese Cake คือชิมคำแรกแล้วรู้เลยว่านี่คือ Cheese Cake เนื้อนุ่มละลายในปาก ไม่หวานมาก แต่ตัวเนื้อมีความหอมและกลิ่นของชีสมาเต็ม ทานตัดกับ Double dark chocolate เหมือนเกิดมาคู่กันเลย

และที่สำคัญนะครับ สำหรับร้านนี้คอช็อกโกแลตไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้าน Bird nest Cafe คุณเจนจะอยู่ที่ร้านทุกวัน วันเสาร์อาทิตย์จะมีพนักงานพาร์ทไทม์มาช่วยบ้าง คนจะเยอะตั้งแต่ช่วงบ่ายๆจนถึงร้านปิด ร้านนี้จะปิดทุกวันพุธ แต่ถ้าใครไม่สะดวกมาเองหรือหาที่จอดรถไม่ได้ เรียกหาต่ายได้เลยครับ (บางเมนูก็ส่งไม่ได้นะครับ)
ช่องทางการติดต่อ
Facebook Fanpage : Khom Chocolatier House – ขม ช็อกโกลาเทียร์เฮาส์
เบอร์โทรศัพท์ : 086 924 4131
Line Official : https://lin.ee/4T5Nu5M
โลเคชั่น : https://g.page/khomchocolatierhouse?share