หลายคนคงให้ความสนใจกับ “Gastronomy Tourism – การท่องเที่ยวเชิงอาหาร” ที่กำลังเป็นเทรนด์สำหรับการท่องเที่ยวในปี 2022 นี้ แต่วันนี้เราลองมาคุยกันเรื่อง ความเป็นไปได้ใน “การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ และ กัญชา”
เพราะปัจจุบัน ชากัญชามีจำหน่ายในร้านกาแฟในไทยแล้ว!
คาเฟ่กัญชาสามารถหาได้ง่ายขึ้น แม้ตัวกัญชาเองจะยังไม่ถูกกฏหมายและใช้ได้อย่างเสรี แต่ผู้คนในประเทศไทยสามารถขายกัญชาในร้านกาแฟหรือแปะใบมันลงบนพิซซ่าได้ หากเพียงจัดหาส่วนผสม “ที่สด” สำหรับประกอบมัน แต่ถ้าไปที่โรงงาน สั่งทำชากัญชาสกัดลงในขวดหรือถุงชาที่ปิดสนิท นั่นไม่ถูกกฎหมายเพราะไม่มีใบอนุญาตหรือได้รับการรับรอง แต่เมื่อคุณขายผ่านร้านกาแฟ มันก็แค่สมุนไพร คล้าย ใบโหระพา ในประเทศไทย CBD นั้นถูกกฎหมายตราบใดที่ใช้แค่เฉพาะใบ ราก และลำต้น เป็นส่วนผสม
กฏหมายกัญชาในไทยนี่ มันยังไงนะ?
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชามีความแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละประเทศทั่วโลก เจ้าใบสีเขียวดูแลยากนี้ในอดีต จัดเป็นยาสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาหลายด้าน ในบางงานวิจัยอ้างว่ากัญชาสามารถป้องกัดและลดการอักเสบที่ปอดที่เกิดจากเชื้อไวรัสแห่งยุคอย่างโควิดได้ด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ในประเทศไทยออกกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาและกัญชง มีเงื่อนไขสำหรับเปิดให้ใช้กัญชาเพื่อเป็นยาหรือเพื่อการรักษา โดยถือว่าเป็นยาแผนโบราณที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งมหัศจรรย์ด้านสุขภาพ
Pañpuri Wellness สปาที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ เริ่มนำเสนอแพ็คเกจ ‘Special Onsen’ ที่มีความพิเศษจากการใช้สารพิเศษจาก “กัญชา” โดยมีการนำเสนอว่าเป็นแพ็คเกจเพื่อสุขภาพ ที่จะเปิดประสบการณ์ด้านสุขภาพจากกัญชาแบบองค์รวม
แพ็คเกจนี้ เริ่มต้นด้วยการอาบน้ำสมุนไพรที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม เพื่อช่วยคลายเครียด ต่อด้วยไปที่ห้องอบไอน้ำกัญชา ซาวน่าด้วยเกลือหิมาลายันเพื่อล้างพิษ จากนั้นก็จะไปที่บาร์เพื่อลองชิมอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา แพ็กเกจทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
แสดงว่าแนวโน้มของกัญชาในประเทศไทยกำลังเดินทางไปในทิศทางที่เปิดกว้างขึ้น?
ก็เหมือนจะจริง เพราะจนถึงปัจจุบัน มีเพียงสองประเทศในโลกที่ออกกฎหมายให้ผลิตและจำหน่ายกัญชาเชิงพาณิชย์ได้จริงทั่วประเทศ คือประเทศอุรุกวัย ในปี 2013 และ แคนาดา ในปี 2018 ในศตวรรษนี้มีแนวโน้มว่าหลายประเทศจะผ่อนคลายข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ โดยปรับใช้ประโยชน์ของมันผ่านแคปซูล แผ่นแปะผิวหนัง สเปรย์ฉีด และการสูบตามแบบโบราณ ฯ ประเทศมหาอำนาจที่ยังคงเป็นศูนย์กลางของระเบียบโลกอย่างสหรัฐอเมริกาฯ ก็มีการออกกฏหมายสำหรับกัญชาในหลายสิบรัฐให้สามารถใช้ได้ (เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์)
ประเทศไทยนำร่องการศึกษาเกี่ยวกัญชากับยาแผนโบราณ ไม่ว่าจะเป็นด้านการรักษา หรือความงามที่สามารถใช้กัญชาเพื่อการดูแลรักษาผู้ป่วยและการศึกษาวิจัยได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้ใช้กัญชาในด้านนันทนาการ(ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒)
- การเข้าถึงกัญชา
เดือนธันวาคม 2018 ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ออกกฎหมายกัญชาเพื่อการรักษาโรค ในขณะเดียวกัน การใช้กัญชาเพื่อการนันทนาการยังผิดกฏหมาย การเพาะปลูกและการครอบครองกัญชาให้ถูกกฎหมายได้กำหนดข้อกำหนดที่เข้มงวด อาทิ
- ร้านอาหาร สามารถประกอบอาหารจากกัญชาได้ เฉพาะใบ ราก ลำต้น เท่านั้น ในส่วนของช่อดอก ใบติดดอก และเมล็ดกัญชา ยังเป็นยาเสพติด โดยกัญชาที่นำมาทำเป็นเมนูอาหาร ต้องมาจากแหล่งปลูกที่ถูกกฎหมาย ซึ่งได้มีการขออนุญาตในการใช้ประโยชน์กับ อย.
- ในกรณีที่มีการปลูกกัญชา สามารถปลูกได้ บ้านละ 6 ต้น ทำได้ทั่วประเทศ แต่ว่าต้องรวมตัวกัน 7 ครัวเรือนขึ้นไป เพื่อทำเป็นวิสาหกิจชุมชน จดแจ้งกับเกษตรอำเภอ นำไปสู่กระบวนการทำเรื่องขอใบอนุญาตจาก อย. จากนั้นก็ต้องมี ‘ผู้มีความรู้เข้าควบคุม’
อุปสรรคสำคัญก็คือ
- ขั้นตอนของการขออนุญาตที่ต้องใช้เวลานาน BBC Thai อ้างว่าต้องยื่นเอกสารกับหน่วยงานหลายแห่ง กว่าจะได้รับการอนุญาตให้ปลูกกัญชาได้ และเป็นที่ทราบกันในวงผู้ดำเนินเอกสาร ในการดำเนินการต่าง ๆ ระหว่างรัฐกับประชาชนในเรื่องขอสิทธิ์หรือการขออนุญาต หากไม่มี ‘เส้นสาย’ หรือ ‘พี่เลี้ยง’ กระบวนการขออนุญาตนี้ก็จะเป็นเสมือนประตูอีกบาน ที่นำไปสู่การคอรัปชั่นรูปแบบต่าง ๆ
- ตลาดที่จำกัดเนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เพื่อปลดล็อกส่วนของกัญชาและกัญชงให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด ให้ใช้ได้เฉพาะส่วน ใบ ลำต้น หรือราก ทำให้นโยบายกัญชาและกัญชงเสรีทางการแพทย์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงในทางปฏิบัติ เพราะได้กำหนดส่วนช่อดอกกัญชงและกัญชา รวมทั้งเมล็ดกัญชาว่า ยังเป็นยาเสพติด
“นโยบายนี้ เหมือนกับถูกหลอก เหมือนจะเสรีในลักษณะมีกำไลอีเอ็ม มีโซ่ตรวนผูกขา”
ดร. เชิดชัย เชี่ยวธีรกุล ให้สัมภาษณ์ BBC Thai
อย่างไรก็ตาม กฏหมายนี้ถือเป็นขั้นตอนที่ก้าวหน้ามากสำหรับประเทศไทย เพราะการนำกฎหมายที่สอดคล้องกับทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไปทั่วโลกที่มีต่อ “กัญชา” ในขณะที่ความขัดแย้งของกฎหมายกัญชานั้นมีอยู่ทั่วโลกเป็นเรื่องที่ “โดดเด่น” แม้รัฐบาลหลายแห่งยินดีที่จะใช้กัญชาเพื่อจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมสุขภาพแต่ก็ยังปฏิเสธและตั้งข้อกล่าวหาในการใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ที่ไม่ใช่ทางการแพทย์
ช่วงชิงประโยชน์จากความงุนงง
ตั้งแต่ต้นก่อนจะมีการออกกฏหมายเกี่ยวกับกัญชาในไทย นายอนุทิน ชาญวีรตระกูล (กระทรวงสาธารณสุข)การยอมรับกับสื่อว่าในการจะขึ้นกฏหมายกัญชานั้นมีขั้นตอนที่วุ่นวาย เพราะ กัญชา ยังเป็นยาเสพติด และยังผิดกฎหมายในส่วนของกฏหมายระหว่างประเทศ ทำให้นโยบายกัญชาเสรีที่เขาชูไว้ช่วงหาเสียต้องค่อยเป็น ค่อยไป และเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องพยายามหาช่องทางคลายล็อกการใช้กัญชาให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อให้ประชาชน ได้ประโยชน์สูงที่สุด
ในขณะที่ผู้คนพยายามสร้างรายได้จากความนิยมของกัญชา ตัวอักษร CBD เริ่มปรากฏบนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ CBD เป็นหนึ่งในสารแคนนาบินอยด์ 113 ชนิดที่พบในกัญชา สามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ ก็คือ CBD ที่เราพบขายกันมีสรรพคุณทำให้สงบ แตกต่างจากเตตระไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ผู้ใช้มีอาการมึนเมา (พบในดอกตูมของพืชที่รัฐยังคงให้เป็นสารเสพติด)
ทั้ง CBD และ THC ก็มีทั้งคุณและโทษที่ต่างกันไป
(อ่านข้อมูลเพิ่มเติม https://www.zenbiotech.co.th/2536)
- สรรพคุณ CBC ที่แท้จริง
“สำหรับผิวหนัง มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า CBD มีประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดการอักเสบ จึงสามารถช่วยต่อต้านริ้วรอยได้ และมีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าได้ผลกับคนที่เป็นกลาก สิว และโรคสะเก็ดเงิน” (John Bailey)
เมื่อปลายปี 2018 ทันทีที่รัฐบาลไทยประกาศกฎหมายฉบับแรกที่จะสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ และการวิจัย นั่นคือจุดเริ่มต้นที่นักลงทุนและภาคส่วนธุรกิจให้ความสนใจใน CBD ประเทศไทยถูกมองว่าเป็นจุดที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตอย่างรวดเร็วทางการศึกษาพฤกษศาสตร์ชนิดนี้
กฤษณ์ ธีรเกาศัลย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด (GTG) ซึ่งเป็นบริษัทแรก ๆ ที่ลงทุนในธุรกิจกัญชาในพื้นที่เชียงราย ให้สัมภาษณ์กับ Prestige Online ไว้ว่า
“ตั้งแต่ต้น เราต้องการทำ CBD” มีการอธิบายเพิ่มเติมว่าเนื่องจากประเทศไทยไม่มีสายพันธุ์ CBD ที่เหมาะสม GTG จึงได้รับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทางพันธุกรรมสำหรับ Cannatonic “จากนั้นเราก็นำมันมาที่ประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย โดยทำ MOU กับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (CRRU)”
(ประธาน GTG ก็ไม่ใช่ใครอื่นเขาคือ “ชัชวาลย์ เจียรวนนท์” สมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวเจียรวนนท์ กลุ่มนักธุรกิจแนวหน้าของไทย)
ไม่นานมานี้กฎหมายกัญชาใหม่เอี่ยมอนุญาตให้ใช้ CBD ได้ 1 เปอร์เซ็นต์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง GTG ได้เป็นกลุ่มที่ให้คำปรึกษาให้กับแบรนด์ความงามอย่าง Pañpuri และแบรนด์ความงามอื่นๆ อีกหลายแบรนด์ ทั้งไทยและต่างประเทศ เพราะเป็นเจ้าเดียวที่ผลิต CBDA เต็มรูปแบบ
บทสรุป “กัญชา” จะเป็นส่วนสำคัญของการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ไหม?
หากมองจากสถานการณ์กัญชาทั่วโลก ภาพฝันที่เราหวังว่า “กัญชา” จะเป็นส่วนสำคัญของการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทย ประเทศไทย ‘มีโอกาสและมีศักยภาพสูง’ ที่จะใช้กัญชาเป็นยืนพื้นพืชเศรษฐกิจ สืบเนื่องจากข้อกฏหมายที่ประเทศไทยเป็นที่แรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ผ่อนปรนข้อกฏหมายกัญชา ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านยังไม่มีท่าทีที่จะผ่อนปรนกฏหมายเกี่ยวกับพืชชนิดนี้
ถึงแม้ว่ากัญชาจะถูกใช้เป็นยาตั้งแต่สมัยโบราณ มีบันทึกในตำราอายุรเวทของชนเผ่าต่าง ๆ มานานกว่า 3,000 ปี และสามารถย้อนไปได้ไกลกว่านั้น แต่ในปัจจุบัน ความรู้เรื่องกัญชาทางการแพทย์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หลายโรคไม่มีข้อมูลของการรักษาที่ชัดเจน ต้องรอผลสรุปของงานวิจัยที่เชื่อถือได้ แต่งานวิจัยเกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์ เป็นไปอย่างเชื่องช้า จนไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์และความต้องการในการรักษาด้วยกัญชาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เพราะมีอุปสรรคและปัญหาหลายข้อ
หากมองในแง่ของ “กัญชาในฐานะที่เป็นพืชสมุนไพร” กัญชาเสรีไม่ใช่เรื่องใหม่อย่างแน่นอน เพราะมีหลักฐานการใช้กัญชาทั้งเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ติดต่อเทพเจ้า จนกระทั่งใช้เพื่อรักษาโรคในทุกวัฒนธรรม อาจเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่พลเมืองทั้งหลายจะไม่สามารถเข้าถึงกัญชาได้ง่าย ๆ และคงจะมีอุปสรรคมากมายที่จะเกิดขึ้น หากสุ่มสี่สุ่มห้าเปิดเสรี
ปัญหาที่ตามมาสำหรับบางคนอาจจะไม่น่ากลัว ถ้าเราบอกว่า มันเซ็กซี่นะ ที่เราจะสละเจตจำนงบางประการให้ ‘รัฐ’ ตัดสินใจในเรื่องที่เราไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้แทน?
อ้างอิง 1 อ้างอิง 2 อ้างอิง 3 อ้างอิง 4 อ้างอิง 5 อ้างอิง 6 อ้างอิง 7 อ้างอิง 8