คุณอยากมีผิวสีน้ำเงินไหม? อยากไปเจอเพื่อนโดยที่ไม่ต้องออกจากบ้านหรือเปล่า? เข้าร่วมงานแฟนไซต์กับศิลปินโดยที่ไม่ต้องบินไปต่างประเทศ? เดินในพิพิธภัณฑ์ความทรงจำของคนอื่น? — เคยจินตนาการเรื่องพวกนี้ไว้บ้างไหม
“เพราะอะไรที่เราจิตนาการได้มันเป็นไปได้”
วันที่ 29 ตุลาคมปี 2021 ช่วงเช้านี้คนไทยตื่นมาพร้อมกับข่าวที่ว่า Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Meta” การเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการรีแบรนด์ของเฟซบุ๊คแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นทิศทางของเฟซบุ๊คว่าต่อไป บริษัทจะมุ่งหน้าเอาดีทางด้าน Metaverse (โลกเสมือน) มากขึ้น แต่ในส่วนของชื่อแบรนด์และแอพต่าง ๆ ในเครือจะยังคงไว้ดังเดิม แอพ Facebook จะยังคงชื่อ Facebook ไว้ (เหมือนที่ Google เปลี่ยนชื่อเป็น Alphabet)
โลกของเรากำลังจะมีเครื่องมือสื่อสารที่ล้ำไปอีกขั้นจากเดิมที่มี
วิทยุ > ทีวี > ข่าวสด > อินเทอร์เน็ต และตอนนี้ METAVERSE
Metaverse คืออะไร?
Metaverse ก็คือโลกเสมือนจริงที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบซึ่งกันและกัน พร้อม ๆ กับอยู่ในสภาพแวดล้อมดิจิตอล โดยพวกเขายอมรับตัวตนดิจิทัลผ่านอวตารและผ่าน Virtual Reality (VR)
โลกเสมือนจริงขนาดใหญ่ที่เรากำลังพูดถึง ไม่ใช่เรื่องใหม่และถูกพูดถึงแล้วในนิยายไซไฟ อย่างเช่น Ready Players One หรือเกมที่มีชื่อเสียงก็ เช่น Fortnite และ Minecraft
Metaverse จึงเป็นเสมือนจักรวาลที่ปะติดปะต่อช่องว่างระหว่าง “สถานที่และเวลา” เข้าด้วยกันผ่าน “เครือข่ายอินเทอร์เน็ต” โดยผู้ใช้สามารถเดินทางและทำสิ่งต่างๆในโลกเสมือนนี้ได้อย่างอิสระ
เครือ FACEBOOK ที่เปลี่ยนชื่อเป็น “Meta” จะยังคงทำตามพันธะเดิมก็คือ “การเชื่อมต่อผู้คนให้เข้าถึงกัน” แต่เพิ่มความเหนือกว่าเข้าไปด้วยการเป็นผู้นำ “METAVERSE”
เทคโนโลยีของ META ที่กำลังจะมาถึง
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเฟซบุ๊คสร้างกระแสความตื่นเต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยการเปิดขาย Ray-Ban Stories แว่นตาอัจฉริยะที่ไปร่วมงานกับ Rayband ในขณะนั้นแว่นตาของเฟซบุ๊คก็เหมือนแว่นตาอัจฉริยะทั่ว ๆ ไปตามตลาดเทคโนโลยีที่ถ่ายรูป ถ่ายคลิป ฟังเพลงได้
แต่รอบนี้พอพี่มาร์ก พูดถึง Meta เขากำลังพูดถึงการสร้างเทคโนโลยีที่เปิดโลกใหม่ใบใหม่ โดยมีการสปอยด์โปรเจคค์ใหญ่ ๆ ที่กำลังทำอยู่ 3 โปรเจคค์ด้วยกัน คือ Horizon Home, Cambria, Nazaze
Horizon Home
Horizon Home ก็คือ Server หรือพื้นที่ พื้นที่หนึ่งบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยมันเป็นจักรวาลดิจิตอลที่เฟซบุ๊ค(เมตะ) กำลังจะสร้างขึ้นมา
CEO ของเมตะ Mark Zuckerberg เสนอแนวคิดที่ว่าในอนาคตทุกอย่างจะกลายเป็น Hologram และด้วย Horizon Home อีกไม่นานเราจะสามารถสื่อสารกันตัวเป็น ๆ ผ่านอวตารของเราได้ แม้จะอยู่ห่างกันข้ามทวีป
Mark Zuckerberg บอกว่าทุกอย่างจะใน Honrizon Home จะให้ความรู้สึกเป็น ‘ธรรมชาติและสดใส’ โดยเขาพยายามจะมอบเทคโนโลยีที่ทำให้การปรากฏตัวบนอินเทอร์เน็ตของเราในเวอร์ชั่นต่อไป มีการสื่อสารที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้มันเพื่อ เล่นเกมร่วมกัน การการประชุม ทั้งหมดจะถูกปรับรูปรูปแบบ โดยการเข้ามาของโลกเสมือนนี้จะทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าได้อยู่ร่วมกันของพื้นที่ โดยอาจใช้คำว่า ‘teleport’ ไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ทั่วโลก แทนที่จะมองแต่หน้าจอ ผู้ใช้จะอยู่ในประสบการณ์ ของจักรวาลเมตาเวิร์สที่เหมือนกับโลกจริง
มันคือการสร้างโลกใหม่ แต่คำถามสำคัญก็คือในโลกใบใหม่ที่เมตะสร้างจะมีรูปแบบเป็นแบบไหน และความเป็นมนุษย์ของเราจะทำอะไรกับโลกใบใหม่นี้ได้บ้าง?
Project Cambria : VR ที่มากกว่า VR
Meta CEO บอกกับเราไว้ว่า Cambria คือ Advance Technology ที่มีแผนจะปล่อยมันอออกมาในปีหน้า ด้วยเครื่องมือนี้ มันจะทำให้อวตาร(ตัวตนของเรา) ใน Metaverse มีความเสมือนจริงมากขึ้น เช่น สามารถที่จะสบตาได้โดยไม่ดูปลอม แสดงสีหน้าออกมาได้อย่างชัดเจน
Cambria ยังได้คำนึงถึงการผสมผสานระหว่างโลกดิจิตอลกับโลกจริง ซึ่งจะมีการติดตามใบหน้า และระบบเลนส์ที่กะทัดรัดยิ่งขึ้น แต่แน่นอนว่า VR ตัวใหม่ที่จะออกมาในปีหน้านี้จะต้องมีราคาที่สูงและเน้นผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่มแน่ ๆ
Nazaze : the first full augmented reality glasses
ด้วย แว่นตาเสมือนจริงแบบเต็มรูปแบบ นี้ Meta CEO บอกกับเราว่า เราจะสามารถมองเห็นการแชทระหว่างเรากับเพื่อนใน Whatapps ได้ผ่านแว่นตา โดยมันจะมีการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีโฮโลแกรม วิทยุ Silicon Chip ส่วนตัว กล้อง ชุดลำโพง และเซนเซอร์ที่ทำแผนที่รอบ ๆ ให้เป็นเสมือนกับการย่อโลกทั้งใบไว้ในแว่นตาหนึ่งอัน
แล้วทั้งหมดนี้เกี่ยวอะไรกับเรา
พูดอย่างง่ายก็คือ Metaverse โดย Meta อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์ม Soical Media ที่มนุษย์ทั่วไปสามารถทดลองใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยความสำเร็จของ Meta อาจจะเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ในยุคถัดไปออกไป ทั้งการสื่อสาร การโทรคมนาคม(คนอินกับการเทเรพอร์ตมากกว่าไปพบกันจริง ๆ) ระบบเศรษฐกิจทั้งระบบที่เปลี่ยนตัวกลางจากเงินสกุลต่าง ๆ ที่อิงตามรัฐ ไปสู่ระบบ Cypto
การผสมผสานของเทคโนโลยีบล็อคเชน คริปโตเคอเรนซี่ และความเป็นจริงเสมือนกำลังจะสร้างระบบเศรษฐกิจดิจิทัลใหม่ สังคมระหว่างประเทศใหม่ และมันจะทำให้บุคคลหรือแบรนด์ สามารถสร้างเนื้อหาและประสบการณ์ใน Metaverse ได้อย่างไร้ข้อจำกัด(ยิ่งกว่าเดิม) อาจมีคนที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลได้จากพื้นที่ดิจิตอล หรือถ้าเกิดว่าคุณไม่ชอบ และไม่อินกับเฟซบุ๊ค ผลิตภัณฑ์ต่อไปที่คุณต้องหลีกเลี่ยงก็คือผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจากแบรนด์ Meta
อย่างไรก็ดีการเปิดตัวเทคโนโลยีต่าง ๆ ของ Meta ไม่ใช่แนวคิดใหม่เสียทีเดียว แต่เป็นแนวคิดที่ออกมาจากปากของอัจฉริยะเทคโนโลยีคนหนึ่งที่โลกมี โปรเจคค์ใหญ่ที่กำลังถูกทำขึ้นมาจริง ๆ โดยองค์กรที่ใหญ่พอจะเปลี่ยนโลกได้
เตรียมเงินให้พร้อมเพราะโลกเสมือนกำลังจะมาเคาะประตูหน้าบ้านคุณแล้ว
อ้างอิง :
https://www.youtube.com/watch?v=KDNlg9TQ4Tw
https://www.cnet.com/tech/computing/facebook-says-its-developing-fully-ar-glasses/
https://bettermarketing.pub/what-the-metaverse-means-for-brands-in-2021-and-beyond
