ไม่ต้องเก่งไปซะทุกอย่าง วันไหนอยากหนีบ้างก็ไม่ใช่เรื่องผิด
ช่วงนี้เป็นช่วงที่บรรยากาศและอะไรต่างๆทำให้เราอยากจะ “หนี” แต่ด้วยความรับผิดชอบและเหตุผลมากมาย ฉุดรั้งความคิดผู้เขียนไว้ว่า การหนีเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะ — แล้วผู้เขียนก็ไปเจอเรื่องหนึ่งจากหนังสือที่ตั้งไว้มากมายข้างโต๊ะของผู้เขียน ผู้เขียนพบว่าจริงๆแล้ว การหนีก็ไม่ใช่เรื่องแย่นะ
เรามาหนีกันเถอะ ในเรื่องนี้ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจมากจากหนังสือที่ชื่อ ความเครียดเป็นศูนย์ แต่ผู้เขียนจะไม่ลอกเอาคอนเซ็ปต์ทั้งหมดมา ส่วนใครที่อยากซื้อหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนแนะนำว่าดีจริงๆและควรมีติดโต๊ะทำงานไว้
ทำไมต้องหนี?
มนุษย์เรามีเหตุผลมากมายที่จะหนี หลายครั้งการหนีมักจะถูกมองในแง่ร้ายว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ การหนีเป็นการกระทำของคนอ่อนแอหรือไม่กล้าหาญ แต่ในความเป็นจริง บางครั้งการหนีก็เป็นเรื่องที่ดี ถ้าการหนีนั้นมันทำให้ชีวิตของเราเดินหน้าไปต่อได้ เราไม่จำเป็นต้องทำเรื่องที่เราไม่อยากทำเพียงเพราะคนอื่นบอกว่า “มันหนีไม่ได้”
ลองถามตัวเองดูดีๆสักครั้งว่าอะไรสำคัญกับคุณที่สุด
“ตัวคุณเอง” นั้นแหละ จะบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ของคุณหรอกหรือที่ต้องปกป้องตัวเอง จากการไปสู่หายนะทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และศักดิ์ศรี
ดังนั้นถ้าถามว่าทำไมเราต้องหนี ก็เพราะว่าการหนีในหลายครั้งมันคือการปกป้องตัวเองจากอันตราย หรืออาจจะหมายถึงการถอยไปตั้งหลัก
เมื่อไหร่ที่ควรจะหนี?
- รู้สึกว่าต้องหนี
สัญชาตญาณแรกจะให้คำตอบที่ถูกต้องได้ ก็ต่อเมื่อเกิดการสั่งสมความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ เมื่อเจอปัญหาที่ต้องตัดสินใจ คำตอบ หรือความคิดความรู้สึกแวบแรกที่ผุดขึ้นมาก็จะมีโอกาสถูกต้องสูง
ในการทำธุรกิจหรือการทำงาน เรียกร้องให้เราต้องโฟกัสและจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นเพราะฉะนั้นเราจะรู้ดีที่สุดว่าถึงจุดไหนควรวิ่งเข้าหาและจุดไหนควรวิ่งหนี
“เชื่อในสัญชาตญาณของคุณ ถ้าถึงเวลาต้องหนีจงหนี”
- รู้สึกว่าเรื่องนี้ทำให้สุขภาพของคุณแย่
สุขภาพจิตและสุขภาพกายของคุณสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีอะไรในโลกที่คุณควรจะปกป้องไปมากกว่าแม่สาวน้อยสุขภาพจิตและพ่อหนุ่มสุขภาพกายของคุณอีกแล้ว ถ้าคุณต้องสูญเสียหรือทำให้พวกเขาเจ็บป่วยขึ้นมา คุณจะต้องลำบากแน่ๆ เพราะฉะนั้นไม่ผิดเลยที่คุณจะหนีอะไรที่จะทำร้ายสิ่งที่ทำร้ายสุขภาพจิตและสุขภายกายของคุณ
การหนีไปเพื่อรักษาสุขภาพจิตและกายของคุณไม่ทำให้โลกทั้งใบของคุณพังหรอก การที่คุณไม่หนีแล้วทำทั้งคู่พังต่างหากที่จะทำให้โลกของคุณพัง
- รู้สึกว่าคนนี้กำลังโมโห
คนที่หงุดหงิดและไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองไปทั่ว ไม่คู่ควรที่จะอยู่ข้างคุณ จงหนีไปเสียก่อนที่ความฉุนเฉียวของเขาจะทำให้คุณเดือดร้อนหรือรู้สึกแย่ไปด้วย
- รู้สึกว่ากำลังหดหู่
คล้ายกันกับการที่ผู้เขียนบอกว่าให้หนีจากคนที่กำลังโมโห คุณคงไม่อยากให้ใครต้องมารองรับอารมณ์ของคุณหรือสูบเอาพลังงานของใครไป พอๆกับที่ไม่อยากให้คนอื่นมาทำกับคุณ ในหนังสือเรื่องความเครียดเป็นศูนย์เขียนเน้นไว้อย่างชัดเจนว่า
“การกินอาหารให้เต็มที่ ออกกำลังกาย นอนหลับอย่างมีคุณภาพ รวมถึงทำสิ่งที่ชอบเพื่อลดความเครียด จะทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติและสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายกลับมาเป็นปกติ ส่งผลให้พลังใจกลับคืนมา — หลักสำคัญมีอยู่ 1 ข้อคือต้องไม่เจอผู้คน”
- รู้สึกว่าถูกล้ำเส้น
การเป็นคนง่ายๆสบายๆจะทำให้คุณได้เจอกับเรื่องแปลกใหม่และความตื่นเต้นอยู่เสมอ เพราะคุณไม่มีกรอบเกณฑ์อะไร แต่เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกล้ำเส้น หรือถูกทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่คุณเป็นนั้น “ไม่มีค่า” เมื่อนั้นแหละคุณควรจะรีบหนีออกมา โลกนี้ไม่มีใครที่ไม่มีค่า และเมื่อถูกคนปฎิบัติหรือพูดจาแย่ๆใส่จนทำให้ความนับถือตัวเอง (self-esteem) ของคุณลดลง คุณควรหนีจากตรงนั้นให้ไว้เพราะหากความนับถือตัวเองพังแล้วคงไม่กลับเป็นเหมือนเดิมได้ง่าย
- รู้สึกว่าทำได้ไม่ดี
แม้เราจะลองพยายามกี่ครั้งก็ตามแต่ แต่ผลที่ได้กลับทำได้ไม่ดีเอาเสียเลย ให้ลองคิดดูอีกทีว่า “นั่นเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับเราหรือเปล่านะ” มนุษย์อย่างเรามีหลายมุมหลายด้านเหลือเกิน และแน่นอนว่ามนุษย์ไม่สามารถจะเก่งและเรียนรู้จนแตกฉานไปเสียทุกเรื่องได้ คนเรามีทั้งสิ่งที่เหมาะสมกับเราและไม่เหมาะสมกับเราอยู่
เพราะฉะนั้นอย่าคิดมากหากเราพบว่าสิ่งที่เราต้องการ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแสดงความสามารถของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่มันจะต้องมีสักที่ที่เราจะแสดงความสามารถของเราออกมาได้ บางทีคุณก็ต้องตัดใจจากอะไรและออกตามหาสิ่งใหม่ๆที่ทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่าและสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่
ในบางครั้งเราเพียงต้องหนี เรื่องพวกนี้เพื่อ “ตัวเอง”
อ้างอิง
ความเครียดเป็นศูนย์ : Testosterone เขียน; เบญจรัตน์ สุขกสิ แปล
https://smarterlifebypsychology.com/2018/03/22/ความคิดแวบแรกตามสัญชาต/