Hack Life ด้วย ‘กฎ 5 วินาที’
✅ ในปี 2008 เมล ร็อบบินส์ (Mel Robbins) กำลังตกอยู่ในวังวนของชีวิตที่ไร้ซึ่งความหวัง
.
ทุกอย่างดูมืดมนไปซะหมด งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี ตอนนี้ธุรกิจที่สามีของเธอเอาเงินไปลงก็ร่อแร่เหมือนจะไปไม่รอด
.
คำว่า ‘ล้มละลาย’ คืบคลานเข้ามาใกล้เคาะประตูหน้าบ้านขึ้นทุกที
.
ในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่งเธอเล่าว่า “พูดถึงไม่มีแรงจูงใจเหรอ? เอาจริงๆ ฉันไม่มีแรงจูงใจที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต รวมไปถึงเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมาด้วย”
.
เอาง่ายๆ แค่การตัดสินใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตอย่างลุกออกจากเตียง ทุกเช้ากว่าเธอจะลากตัวเองออกมาจากเตียงได้ต้องรวบรวมกำลังใจมหาศาล
.
โชคยังดีที่เธอตระหนักว่าถ้ายังต้องพึ่งพาแรงจูงใจ (Motivation) เพียงอย่างเดียว ชีวิตเธอคงไม่สามารถหลุดพ้นออกจุดนี้ได้ เธอต้องการอะไรมากกว่าแรงจูงใจ กลยุทธ์บางอย่างที่จะดันให้เธอลุกมาทำ ‘สิ่งที่ควรทำ’ ไม่ว่าเธอจะอยากทำหรือไม่ก็ตาม
.
ศาสตราจารย์ เจอรัลด์ ซอลต์แมน (Gerald Zaltman) จากฮาร์วาร์ดค้นพบว่า การตัดสินใจของคน 95% ไม่ได้มาจากตรรกะหรือการคิดอย่างมีเหตุผล แต่มาจากอารมณ์ หรือความรู้สึกที่มีต่อการกระทำนั้นๆ
.
สมมุติเรื่องการออกกำลังกายน่าจะชัดเจนและเข้าใจง่ายที่สุด
.
เราทุกคนรู้ดีว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็น รู้ว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องดี
.
แต่ทุกครั้งเวลาต้องไปออกกำลังกายมันต้องใช้แรงใจมากเหลือเกิน เพราะมันเหนื่อย มันไม่สบายเหมือนนั่งกินมันฝรั่งทอดบนโซฟาแล้วเปิด Netflix ดู เราจึงพยายามหาข้ออ้างต่างๆ มากมายเพื่อหลอกตัวเองให้ไม่ต้องลุกไปออกกำลังกาย เช่นวันนี้ฝนตก, งานหนักมากเลยขอพักหน่อย, แดดแรงเกินไป, เมื่อคืนนอนดึก, เดี๋ยวเสาร์-อาทิตย์ค่อยไป ฯลฯ
.
เราเปลี่ยนเรื่องการออกกำลังกายเป็นอะไรก็ได้ที่จำเป็นต้องทำในชีวิต เช่นการออมเงิน, การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัว, การพัฒนาความรู้และความสามารถเพื่อจะก้าวหน้าในอาชีพการงาน, โปรเจกต์ที่ต้องส่งอาจารย์ช่วงปลายเดือน และอื่นๆ
.
“ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อคุณมีงานที่ต้องทำ คุณจะไม่รู้สึกอยากทำมัน และเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่จะนั่งรอให้ตัวเองมีแรงจูงใจก่อน และเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่กว่าที่จะคิดว่าสักวันหนึ่งคุณจะรู้สึกอยากทำมัน” ร็อบบินส์กล่าว
.
🌟 กฎห้าวินาที
.
หลังจากบังเอิญเห็นโฆษณาทางโทรทัศน์ที่มีภาพจรวดอวกาศกำลังทะยานขึ้น ร็อบบินส์ตัดสินใจว่าเธอจะลุกออกจากเตียงในวันรุ่งขึ้นด้วยความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นแบบเดียวกัน เมื่อนาฬิกาปลุกดัง เธอนับถอยหลังจากห้าเหมือน “นาซาตอนที่ปล่อยจรวด”
.
5-4-3-2-1 ลุกไปทำเลย!
.
แล้วมันก็ได้ผลครับ
.
เธอจึงทำซ้ำในวันถัดไปและวันต่อๆ มา และในไม่ช้า ร็อบบินส์ก็เริ่มนับถอยหลังสำหรับงานทุกอย่างที่เธอไม่รู้สึกอยากทำเลย ภายในเวลาห้าวินาที แม้จะไม่ได้อยากทำ แต่เธอก็กำลังทำสิ่งนั้นอยู่
.
มันกลายเป็นกฎที่เธอใช้มาและได้ผลอย่างยิ่งเลย
.
“ชีวิต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ คือเรื่องของการผลักดันตัวเองให้ทำสิ่งที่ไม่สบายใจเพื่อให้คุณสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่คุณต้องการ” ร็อบบินส์กล่าว “ความลับอยู่ที่การไม่รอให้คุณรู้สึกอยากทำ”
.
🎉 ความสำคัญของห้าวินาที
.
มีการประมาณการว่าคนเราต้องตัดสินใจประมาณ 35,000 ครั้งต่อวัน และส่วนใหญ่แล้ว การตัดสินใจเหล่านั้นเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
.
“เราชอบคิดว่าเราตัดสินใจบนพื้นฐานของตรรกะ บนพื้นฐานของสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของเรา” ร็อบบินส์กล่าว “ความจริงก็คือ 95 เปอร์เซ็นต์ของการตัดสินใจที่เราทำนั้นขึ้นอยู่กับความรู้สึกของเราในขณะนั้น”
.
สิ่งที่แย่กว่านั้นคือ อารมณ์ด้านลบเช่นความกลัว ความโกรธ และความไม่แน่นอนดูเหมือนจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจของเรา
.
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่ามีช่องว่างประมาณห้าวินาทีระหว่างความคิด ไอเดีย หรือสัญชาตญาณ และการที่สมองจะสนับสนุนหรือปฏิเสธสิ่งเหล่านั้น
.
“กลายเป็นว่าภายในช่วงเวลาห้าวินาทีนั้น ไม่ว่าจะเป็นชีวิตหรือธุรกิจของคุณทุกอย่างเปลี่ยนไปทั้งหมดเลยถ้าคุณลุกขึ้นมาควบคุมช่วงเวลานั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจ” ร็อบบินส์กล่าว
.
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือว่า อย่าให้โอกาสสมองสร้างข้ออ้างขึ้นมาให้คุณไม่ลงมือทำสิ่งที่ควรทำนั่นเอง
.
🔬 วิทยาศาสตร์เบื้องหลังเทคนิคนี้
.
แล้วเทคนิคที่ดูเหมือนง่ายๆ นี้สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายได้อย่างไร?
.
มันทำงานแบบนี้ครับ
.
การนับถอยหลังจากห้า (5-4-3-2-1) บังคับให้สมองของคุณหยุด จดจ่อ และหันมาสนใจบางสิ่งบางอย่างที่เรากำลังจะทำ ความกลัว ความสงสัย ความโกรธ หรืออารมณ์รุนแรงอื่นๆ ที่อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่แย่และรวดเร็วจะหายไปจากสมองชั่วขณะ
.
นอกจากนี้มันยังกระตุ้นพรีฟรอนทัลคอร์เท็กซ์ (prefrontal cortex) ส่วนของสมองที่ทำงานเมื่อคุณกำลังเปลี่ยนพฤติกรรม กำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือเมื่อคุณกำลังควบคุมความคิดของคุณอยู่
.
มันเหมือนกับการที่เราเข้าไปควบคุมและเปลี่ยนโฟกัสของสมองก่อนที่มันจะหาข้ออ้างต่างๆนานา มาทำให้เรารู้สึกไม่อยากลุกไปทำสิ่งต่างๆ นั่นเอง
.
กฎห้าวินาทีมีประโยชน์มากๆ และสามารถปรับใช้กับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตได้หลากหลาย
.
ร็อบบินส์กล่าวว่าในชีวิตมันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเรามากมาย สิ่งสำคัญและทักษะที่จำเป็นมากๆ คือเราต้องอย่าให้อารมณ์และความรู้สึกเข้ามาตัดสินว่าเราทำหรือไม่ทำอะไร
.
ลองเอาไปใช้กันดูครับ, มีอะไรที่เรารู้ว่าต้องทำ แต่ยังยึกยักหาข้ออ้างผัดวันออกไปเรื่อยๆ
.
5-4-3-2-1 ลุยเลย!
.
[ปล. หลังจากที่ร็อบบินส์เริ่มกลับมาควบคุมสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้อีกครั้ง ตอนนี้กลายเป็นพิธีกรรายการพอดแคสต์ นักเขียน นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ และผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งเลย เคยขึ้นพูดบน TEDx เรื่อง “How to Stop Screwing Yourself Over” และมีหนังสือ The 5 Second Rule (เปลี่ยนตัวเองเป็นคนกล้าด้วยกฎ 5 วินาที) กับ The High 5 Habit ที่ขายดีมากๆ เช่นกัน ใครสนใจหนังสือ ]
[ใครสนใจหนังสือ “เปลี่ยนตัวเองเป็นคนกล้าด้วยกฎ 5 วินาที” สามารถดูรายละเอียดได้จากลิงก์นี้ครับ -> https://s.shopee.co.th/6ARNl7bdFQ ]
========
อ้างอิง :
https://hbswk.hbs.edu/item/the-subconscious-mind-of-the-consumer-and-how-to-reach-it
https://getpocket.com/explore/item/how-to-change-your-life-in-5-seconds