Mark Zuckerberg (มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก) เขียนโน๊ตถึงทุกคนหลังจากที่ระบบของบริษัทและแอพริเคชั่นในเครือข่ายไม่สามารถเข้าใช้งานได้ เขาบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เคยเกิดขึ้นมาในหลายปี 24 ชั่วโมงเขาทำงานอย่างหนักเพื่อเสริมระบบให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เขาบอกว่าเขาเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ของเขามีความสำคัญต่อผู้คนมากเพียงใด
ประเด็นต่อมาเขาได้พูดถึงประเด็นที่มีการถกเถียงในสังคม เขาย้ำว่าเฟซบุ๊คได้ใส่ใจปัญหาด้านความปลอดภัย ความเป็นอยู่และสุขภาพจิต เขายอมรับว่านี่ไม่ใช่ที่ง่ายที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการผิดพลาด เขากล่าวว่าหากบริษัทไม่สนใจ เขาจะทำการวิจัยและสร้างโปรแกรมเพื่อทำความเข้าใจทำไมตั้งแต่แรก
มาร์ก กล่าวว่าบริษัทลงทุนและจ้างคนจำนวนมากเพื่อต่อสู้กับเนื้อหาที่เป็นอันตราย และทางบริษัทเองก็ไม่เคยต้องการซ่อนผลลัพธ์ และถ้ามีใครกล่าวอ้างว่าโซเชียลมีเดียทำให้เกิดการแตกแยกในสังคม(polarizing society) ทำไมเรื่องนี้มันถึงเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯในขณะที่ในอีกหลายประเทศทั่วโลกก็ใช้มีเดียอย่างหนักแต่ก็ stays flat หรือ declines
นอกจากนี้มาร์กยังปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าที่กล่าวหาว่า บริษัทให้ความสำคัญกับกำไรมากกว่าปลอดภัยและความเป็นอยู่นั้นไม่จริง การที่มีการกล่าวหาว่าบริษัทจงใจแสดงคอนเทนต์ที่สร้างความโกรธแค้น เพื่อสร้างกำไรให้กับบริษัทนั่นเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมายและทางบริษัทเองก็ไม่เคยต้องการให้มีโฆษณาเชิงที่ทำให้ผู้คนโกรธหรือหดหู่ มาร์กกล่าวว่าเขาใช้เวลากับลูก ๆ และคนอื่น ๆ ในออนไลน์ เพราะฉะนั้นการทำให้คอนเทนต์ทางมีเดียปลอดภัยและดีต่อกับเด็ก ๆ ก็เป็นเรื่องที่เขาให้ความสำคัญ
เขากล่าวว่าในปัจจุบันมีเด็กมากมายที่มีโทรศัพท์ แทนที่จะเพิกเฉยและปล่อยให้พวกเขาใช้แพลตฟอร์มร่วมกับผู้ใหญ่ บริษัทเทคโนโลยีควรสร้างประสบการณ์ที่ตรงตามความต้องการของพวกเขา และทําให้พวกเขาปลอดภัย เขามุ่งมั่นอย่างที่จะให้อุตสาหกรรมเป็นพื้นที่นี้ ตัวอย่างที่ดีของงานนี้คือ Messenger Kids ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าดีกว่าและปลอดภัยกว่า
มาร์กยังได้ทํางานเพื่อสร้างเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการดูแลโดยผู้ปกครองสําหรับ Instagram ด้วย แต่ก็หยุดโปรเจกต์นั้นเพื่อใช้เวลาในการมีส่วนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งที่เราทําจะเป็นประโยชน์ เขาทํางานมาหลายปีและความพยายามนําอุตสาหกรรมของเขา ให้เป็นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือผู้คนในช่วงเวลาเหล่าที่ลำบาก เขาใช้งานวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนางานนี้ต่อไป
มาร์กได้พยายามสร้างสมดุลให้กับประเด็นทางสังคมอื่น ๆ โดยเขาไม่เชื่อว่าบริษัทเอกชนควรตัดสินใจด้วยตัวเองทั้งหมด นั่นคือเหตุผลที่เขาได้สนับสนุนให้มีการอัปเดตกฎระเบียบอินเทอร์เน็ต และได้ให้การในสภาคองเกรสหลายครั้งและขอให้พวกเขาอัปเดตข้อบังคับเหล่านี้
มาร์กกล่าวว่าเขามุ่งมั่นที่จะทํางานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทําได้ ในสภาคองเกรส เขาได้ตอบคำถาม เช่นอายุที่เหมาะสมสําหรับวัยรุ่นที่สามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้คือเท่าไหร่? บริการอินเทอร์เน็ตควรตรวจสอบอายุของผู้คนอย่างไร? และบริษัทควรสร้างสมดุลความเป็นส่วนตัวของวัยรุ่นในขณะที่ให้ผู้ปกครองมองเห็นกิจกรรมของพวกเขาอย่างไร? บริษัทมุ่งมั่นที่จะทําวิจัยตัวเราเองมากขึ้นและทําวิจัยให้กับสาธารณะมากขึ้น
ในตอนท้ายมาร์กได้กล่าวไว้ว่าเขาผิดหวังที่ความพยายามของเขาถูกตีความและถูกโจมตีไปในทางที่ผิด แต่เขาก็ยังมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะส่งมอบประสบการณ์และปรับปรุงเพื่อให้เกิดชุมชนที่ดีขึ้น
“เมื่อผมนึกถึงการทํางานของผม ผมคิดถึงผลกระทบที่แท้จริงที่เรามีต่อโลก — การที่คนสามารถติดต่อกับคนที่คุณรักได้ สร้างโอกาสเพื่อสนับสนุนตนเอง และหาชุมชน นี่คือเหตุผลว่าทําไมคนหลายพันล้านคนรักผลิตภัณฑ์ของเรา ผมภูมิใจกับทุกสิ่งที่เราทําเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์สังคมที่ดีที่สุดในโลกและขอบคุณทุกคนสําหรับงานที่ทําที่นี่ทุกวัน”
