SOPON’S BLOG
2 เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จด้านการเงิน
November 28, 2022
สูตรลดน้ำหนัก 4 กิโล ใน 4 สัปดาห์ : ไม่ต้องพึ่งยา แถมยังไปกินชาบูอีกต่างหาก
November 26, 2022
ฟีดแบคที่ดี ไม่ได้ดีเสมอไป : รับมือยังไงเมื่อเจอฟีดแบคหนัก ๆ ตรง ๆ และต้องปรับตัว
November 24, 2022
ปีใหม่ คนเก่า : จะเปลี่ยนตัวเองได้ ต้องรับตัวเองที่ไม่สมบูรณ์ให้ได้ก่อน
November 21, 2022
20 บทเรียนจากนักจิตบำบัดที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น
November 20, 2022
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
BookReviewWhat to Read

Ideaflow : หนังสือธุรกิจที่บอกว่า ‘ไอเดียที่ดี’ เกิดขึ้นเพราะลงมือทำ

sopons
November 18, 2022 One Min Read
114 Views
0 Comments

ในหนังสือเล่มใหม่ของ Jeremy Utley และ Perry Klebahn ชื่อ “Ideaflow : The Only Business Metric That Matters” สองผู้อำนวยการของ d.school (ชื่อเต็มคือ The Hasso Plattner Institute of Design ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 ซึ่งนับเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมของ Stanford และได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาบันที่มีหลักสูตร Design Thinking ที่ดีที่สุดในโลก) ได้บอกเอาาไว้ว่าสิ่งหนึ่งที่คนเข้ามาเรียนจะรู้สึกตกใจคือแนวคิดที่ว่า ‘ไอเดียที่ดี’ ไม่ได้จู่ ๆ คุณนั่งอยู่แล้วเกิดขึ้นเหมือนเปิดไฟ แต่ ‘ไอเดียที่ดี’ เกิดขึ้นได้จากการสร้างไอเดียจำนวนมหาศาลและทดสอบมันจนกว่าจะได้ผู้ชนะ

Utley และ Klebahn เชื่อว่าคุณสามารถฝึกตัวเองเพื่อจะทำให้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้มากขึ้นได้ด้วย ความคิดสร้างสรรค์นั้นสามารถวัดได้จากจำนวนไอเดียที่แปลกใหม่ที่คน/กลุ่มคนสามารถสร้างขึ้นได้เมื่อเผชิญปัญหาในระยะเวลาที่ถูกตั้งเอาไว้ พวกเขาเรียกหน่วยวัดนี้ว่า ‘Ideaflow’ และอธิบายต่อด้วยว่ามันเป็น ‘ตัววัดของธุรกิจเพียงอย่างเดียวที่สำคัญ’ ทั้งคู่กล่าวว่า

“ส่วนใหญ่แล้วคุณไม่สามารถตัดสินคุณค่าของไอเดียได้จริงๆ จนกว่าจะได้ทดสอบมันในโลกแห่งความเป็นจริง ในช่วงเริ่มต้น คุณแค่ต้องการไอเดียมากมาย เมื่อพูดถึงความคิดสร้างสรรค์ ปริมาณจะขับเคลื่อนคุณภาพ”

หนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องเตือนใจที่มีประโยชน์ว่าแนวคิดใหม่ๆ มีความสำคัญมาก ๆ ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้

Ideaflow ยังเป็นสิ่งที่คุณทำได้เมื่อคุณอาจจะอยากผัดวันเมื่อเจอปัญหาที่ไม่อยากแก้อีกด้วย

“ไอเดียเป็นเพียงการเชื่อมต่อระหว่างสองสิ่งที่ล่องลอยอยู่ในหัวของคุณอยู่แล้ว”

แล้วเราจะทำยังไงให้มันเกิดขึ้นหล่ะ?

  1. ฝึกทุกวันเลย – ทุกเช้าตื่นขึ้นมาเขียนไอเดีย 10 อย่างกับปัญหาที่เรามีอยู่เมื่อวาน อย่างเช่นว่าก่อนนอนเราอาจจะคิดว่า “ทำยังไงถึงจะขอหัวหน้าขึ้นเงินเดือนได้นะ?” หรือ “จะพาลูกไปเที่ยวไหนที่ในงบที่ตั้งเอาไว้ไม่ให้บานปลาย?” พอตื่นขึ้นมาก่อนทำงานก็เขียนไปเลยครับว่ามีอะไรบ้างที่ทำได้ ไม่ต้องห่วงว่าจะดีไม่ดี เขียนไปเลย
  2. เขียนไอเดียของตัวเองเสมอ – เมื่อไหร่ก็ตามที่มีไอเดียเกิดขึ้น อาจจะเป็น Quotes เรื่องราว สถิติบางอย่าง หรือบทความที่อ่านมาก็เขียนลงไปในบันทึกของตัวเอง แทนที่จะพยายามหา ‘คำตอบ’ กับปัญหาที่มีอยู่ในชีวิต ลองสร้างทางออกที่มีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เขียนว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นยังไง สิ่งที่เรียนรู้ สิ่งที่ได้ลองทำ สิ่งที่น่าสนใจ เพราะการจดทำให้คุณมีไอเดียในสต็อคและอาจจะหยิบมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ Utley และ Klebahn บอกว่าสินค้าหรือบริการแต่ละอย่างที่กว่าจะประสบความสำเร็จได้ต้องใช้ไอเดียกว่า 2,000 ไอเดียโดยเฉลี่ยเลยทีเดียว
  3. ใช้ Innovation Sandwich เมื่อคิดเป็นกลุ่ม – เวลาการประชุมเพื่อสร้างไอเดีย ส่วนใหญ่มันจะกลายเป็นมีไอเดียหนึ่งที่น่าสนใจแล้วทุกคนก็ไปรุมไอเดียนั้นแล้วก็เริ่มทำ สิ่งนี้อาจจะไม่เพียงพอและไม่ได้สร้างผลลัพธ์ที่ดีมาก ในหนังสือแนะนำเทคนิค Innovation Sandwich ที่ทีมรับปัญหาหรือโจทย์ไปก่อนประชุม แล้วหลังจากนั้นก็มานำเสนอไอเดียกันครับ แต่ยังไม่ต้องสรุป แล้วเอาปัญหากลับไปแก้ต่อ นัดเจอกันอีกครั้งเพื่อตกผลึก โดยการประชุมนี้ควรทำในกลุ่มไม่ต้องใหญ่มาก 3-5 คน เพื่อจะให้ไอเดียนั้นมีการกระจายและพูดกันอย่างทั่วถึง

ในหนังสือบอกเอาไว่ว่า “แม้ว่าคุณจะถูกมองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายนั้น คุณก็ไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจว่าไอเดียไหนควรจะไปต่อเมื่อไม่มีข้อมูลจริง ๆ ไม่ว่าใครก็ตาม เพราะมีสิ่งที่ไม่ทราบเยอะมาก”


แล้วจะทดสอบไอเดียยังไงดีหล่ะ?

  1. เร็วที่สุดและใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด – ลองโฆษณาสินค้าที่ไม่มีอยู่จริงดูว่าจะมีคนซื้อไหม หรือ ไปตั้งบูทให้ทดลองสินค้าว่าจะมีคนสนใจรึเปล่า อย่าตัดสินจากแบบสำรวจ แต่ให้ตัดสินจากการกระทำของลูกค้า
  2. ทดสอบหลาย ๆ ไอเดีย – เราจะเริ่มรู้ทิศทางว่าควรไปทางไหนโดยการใช้ไอเดียที่ทดสอบแล้วเวิร์กหรือไม่เวิร์ก ทดลองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้พร้อม ๆ กัน ลองดูว่าไอเดียไหนทำให้รู้สึกตื่นเต้นอยากลองทำ
  3. ปรับทิศทางเมื่อได้ข้อมูลจากการทดสอบ – การเอาไอเดียที่ ‘ผิดพลาด’ ไปทดสอบกับลูกค้าจะสร้างผลตอบรับที่กลับมาอย่างไม่น่าเชื่อ เราจะเห็นการตอบสนองและข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อน

ทำยังไงให้สามารถสร้างไอเดียได้เยอะ ๆ หล่ะ?

อย่างแรกแน่นอนคือการเก็บ input หรือข้อมูลเยอะ ๆ ไม่ว่าจะจากคนรอบข้างหรือสื่อที่มีประโยชน์ต่าง ๆ ที่แตกต่างกันหลายแขนง

  • หาคนที่แตกต่างกัน พื้นฐาน ความรู้ ความเชี่ยวชาญ อยู่รอบ ๆ ตัวเพื่อเก็บเกี่ยวความคิดจากคนเหล่านี้ผ่านการสนทนา
  • ถ้าเป็นบริษัทก็ต้องหาวิธีคุยกับลูกค้าและรับฟีดแบคจากผู้ใช้งานจริง ๆ
  • ลองใช้บอร์ดที่ทุกคนสามารถเอาไอเดียมาแปะเชื่อมกันได้ที่บริษัท
  • หากลุ่มคนที่ ‘พอรู้จัก’ หรือมีความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ใกล้ชิดมากเพื่อหา input เพราะคนที่เราพอจะรู้จักแต่ไม่สนิทมากจะช่วยทำให้ไอเดียและแนวคิดที่แตกต่างจากเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัว
  • ใช้คำถาม ‘เราจะทำยังไงให้…” กับปัญหาที่มีอยู่ เช่น “เราจะทำยังไงให้บริษัทเติบโตมีลูกค้าถึงเป้าหนึ่งล้านบาทภายในสิ้นปี?” “เราจะทำยังไงให้ลูกค้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทมากกว่านี้?” ฯลฯ
  • เดินเล่นเรื่อยเปื่อย ใช้สิ่งที่เห็นเพื่อเชื่อมกับปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ เห็นทางม้าลายแล้วรู้สึกว่า ทำไมคนถึงไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่มีทางม้าลายตรงนี้ มันไม่เด่น หรือคนไม่สนใจ นั่นเป็นเหตุผลเดียวกับที่สินค้าเราวางบนชั้นแล้วไม่เด่นรึเปล่านะ คนเลยเดินผ่านไปโดยไม่หยิบมามอง เราอาจจะต้องทำป้ายอะไรให้เด่นกว่านี้ ฯลฯ
  • ถอยออกมาจากตรงนั้น กั้นเวลาให้หยุดทำอย่างอื่น เช่นไปเจอคน ไปอ่านหนังสือ เมื่อติดอยู่กับปัญหาของการสร้างไอเดีย เราต้องอนุญาตให้ตัวเองพักและถอยออกมาเพื่อจะทำให้สมองโล่งครับ ไปเดิน ออกกำลังกาย นอนพัก งีบหลับ หรือคุยกับคนรอบ ๆ ข้างถือว่าได้ประโยชน์ไม่น้อย

หนังสือเล่มนี้เป็นไกด์ที่ดีสำหรับใครก็ตามที่ทำงานมาถึงจุดหนึ่งแล้วรู้สึกว่าตัวเองติดอยู่กับที่ สร้างไอเดียใหม่ ๆ ไม่ได้ หรือคนที่อยากมีแนวคิดที่มาเปลี่ยนการทำงานของตัวเองหรือบริษัทที่ทำงานอยู่ให้ดีขึ้น เรียกว่าเป็น ‘practical guide’ ที่ทำตามได้จริง ๆ และมีตัวอย่างในหนังสือเยอะมาก อย่าง Timbuk, James Dyson, Prehype, Jon Beekman, Patagonia และอีกเยอะเลย

เป็นหนังสือธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวกับกลยุทธ์ วิธีการทำงาน หรือการปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น แต่เป็นหนังสือธุรกิจที่คล้ายกล่องเครื่องมือในการสร้างไอเดียให้เกิดขึ้นจำนวนมหาศาลในเวลาอันสั้นแถมยังได้ทดสอบไอเดียเหล่านั้นด้วย แล้วคุณจะเข้าใจว่าการสร้างไอเดียและความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องที่ฝึกกันได้ อย่าไปคิดว่ามันต้องเป็นจังหวะที่หลอดไฟในหัวสว่างขึ้นมาแล้วทุกอย่างจะจุดติด ไม่ใช่เลย นอกจากนั้นแล้วมันยังจะช่วยทำให้เราไม่ต้องผัดวันกับการเผชิญหน้ากับปัญหาไม่ว่าจะส่วนตัวหรือกับทีม

เป็นหนังสือที่มีข้อมูลที่ดี มีตัวอย่างที่ดี อ่านสนุกและช่วยทำให้คำว่า “ความคิดสร้างสรรค์” ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมสำหรับคนทั่วไปอีกต่อไป

Tags:

Businessd.schoolideaflowJeremy UtleyPerry KlebahnreviewThe Only Business Metric That Mattersธุรกิจ

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

ทำไมชักหน้าไม่เคยถึงหลัง : ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องเงิน เพราะเงินในอนาคตอาจไม่มีอยู่จริง

Next

20 บทเรียนจากนักจิตบำบัดที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น

Next
November 20, 2022

20 บทเรียนจากนักจิตบำบัดที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น

Previews
November 17, 2022

ทำไมชักหน้าไม่เคยถึงหลัง : ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องเงิน เพราะเงินในอนาคตอาจไม่มีอยู่จริง

No Comment! Be the first one.

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Posts

น่าจะรู้อย่างนี้ตั้งแต่ตอนอายุ 20 : TINA SEELIG

by sopons
September 4, 2021

โง่ศาสตร์ : เมื่อนักเศรษฐศาสตร์ทำความเข้าใจคนโง่

by sopons
October 23, 2021

Reason to stay alive แด่ผู้แหลกสลาย ; ที่ยังอยากต่อสู้

by sopons
September 24, 2021

SweetBuns & CocoCino @Chiangmai

by sopons
April 27, 2021

Subscribe to our newsletter and stay updated.

SOPON’S BLOG

© 2021, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About
  • Billion Brands
  • Blockdit

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Travel

Follow Us

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact