SOPON’S BLOG
“สุขมากขึ้น ร่ำรวยขึ้น และสงบมากขึ้น” : เปิดประสบการณ์ ‘No Spend Year’ ของนักข่าวฟรีแลนซ์ที่เคยใช้เงินฟุ่มเฟือยกับปี 2024 ที่ตัดค่าใช้จ่ายเหลือแค่ที่จำเป็น
November 28, 2024
ด้านมืดของ ‘บริโภคนิยม’ จากสารคดี ‘Buy Now! The Shopping Conspiracy’ มนุษย์โหมบริโภค โลกจึงกลายเป็นกองขยะ
November 27, 2024
อย่าให้สังคมกำหนดว่าเรา ‘ต้องมีอะไร’ ถึงจะมีความสุข
November 27, 2024
แม้ไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายมีทุกวัน : 5 อย่างที่ต้องเตรียมพร้อมด้านการเงิน เมื่อตลาดแรงงานไม่มั่นคง
November 27, 2024
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว แต่วางหินวันละก้อน
November 26, 2024
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
BookReviewWhat to Read

Ideaflow : หนังสือธุรกิจที่บอกว่า ‘ไอเดียที่ดี’ เกิดขึ้นเพราะลงมือทำ

sopons
November 18, 2022 One Min Read
370 Views
0 Comments

ในหนังสือเล่มใหม่ของ Jeremy Utley และ Perry Klebahn ชื่อ “Ideaflow : The Only Business Metric That Matters” สองผู้อำนวยการของ d.school (ชื่อเต็มคือ The Hasso Plattner Institute of Design ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 ซึ่งนับเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมของ Stanford และได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาบันที่มีหลักสูตร Design Thinking ที่ดีที่สุดในโลก) ได้บอกเอาาไว้ว่าสิ่งหนึ่งที่คนเข้ามาเรียนจะรู้สึกตกใจคือแนวคิดที่ว่า ‘ไอเดียที่ดี’ ไม่ได้จู่ ๆ คุณนั่งอยู่แล้วเกิดขึ้นเหมือนเปิดไฟ แต่ ‘ไอเดียที่ดี’ เกิดขึ้นได้จากการสร้างไอเดียจำนวนมหาศาลและทดสอบมันจนกว่าจะได้ผู้ชนะ

Utley และ Klebahn เชื่อว่าคุณสามารถฝึกตัวเองเพื่อจะทำให้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้มากขึ้นได้ด้วย ความคิดสร้างสรรค์นั้นสามารถวัดได้จากจำนวนไอเดียที่แปลกใหม่ที่คน/กลุ่มคนสามารถสร้างขึ้นได้เมื่อเผชิญปัญหาในระยะเวลาที่ถูกตั้งเอาไว้ พวกเขาเรียกหน่วยวัดนี้ว่า ‘Ideaflow’ และอธิบายต่อด้วยว่ามันเป็น ‘ตัววัดของธุรกิจเพียงอย่างเดียวที่สำคัญ’ ทั้งคู่กล่าวว่า

“ส่วนใหญ่แล้วคุณไม่สามารถตัดสินคุณค่าของไอเดียได้จริงๆ จนกว่าจะได้ทดสอบมันในโลกแห่งความเป็นจริง ในช่วงเริ่มต้น คุณแค่ต้องการไอเดียมากมาย เมื่อพูดถึงความคิดสร้างสรรค์ ปริมาณจะขับเคลื่อนคุณภาพ”

หนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องเตือนใจที่มีประโยชน์ว่าแนวคิดใหม่ๆ มีความสำคัญมาก ๆ ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้

Ideaflow ยังเป็นสิ่งที่คุณทำได้เมื่อคุณอาจจะอยากผัดวันเมื่อเจอปัญหาที่ไม่อยากแก้อีกด้วย

“ไอเดียเป็นเพียงการเชื่อมต่อระหว่างสองสิ่งที่ล่องลอยอยู่ในหัวของคุณอยู่แล้ว”

แล้วเราจะทำยังไงให้มันเกิดขึ้นหล่ะ?

  1. ฝึกทุกวันเลย – ทุกเช้าตื่นขึ้นมาเขียนไอเดีย 10 อย่างกับปัญหาที่เรามีอยู่เมื่อวาน อย่างเช่นว่าก่อนนอนเราอาจจะคิดว่า “ทำยังไงถึงจะขอหัวหน้าขึ้นเงินเดือนได้นะ?” หรือ “จะพาลูกไปเที่ยวไหนที่ในงบที่ตั้งเอาไว้ไม่ให้บานปลาย?” พอตื่นขึ้นมาก่อนทำงานก็เขียนไปเลยครับว่ามีอะไรบ้างที่ทำได้ ไม่ต้องห่วงว่าจะดีไม่ดี เขียนไปเลย
  2. เขียนไอเดียของตัวเองเสมอ – เมื่อไหร่ก็ตามที่มีไอเดียเกิดขึ้น อาจจะเป็น Quotes เรื่องราว สถิติบางอย่าง หรือบทความที่อ่านมาก็เขียนลงไปในบันทึกของตัวเอง แทนที่จะพยายามหา ‘คำตอบ’ กับปัญหาที่มีอยู่ในชีวิต ลองสร้างทางออกที่มีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เขียนว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นยังไง สิ่งที่เรียนรู้ สิ่งที่ได้ลองทำ สิ่งที่น่าสนใจ เพราะการจดทำให้คุณมีไอเดียในสต็อคและอาจจะหยิบมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ Utley และ Klebahn บอกว่าสินค้าหรือบริการแต่ละอย่างที่กว่าจะประสบความสำเร็จได้ต้องใช้ไอเดียกว่า 2,000 ไอเดียโดยเฉลี่ยเลยทีเดียว
  3. ใช้ Innovation Sandwich เมื่อคิดเป็นกลุ่ม – เวลาการประชุมเพื่อสร้างไอเดีย ส่วนใหญ่มันจะกลายเป็นมีไอเดียหนึ่งที่น่าสนใจแล้วทุกคนก็ไปรุมไอเดียนั้นแล้วก็เริ่มทำ สิ่งนี้อาจจะไม่เพียงพอและไม่ได้สร้างผลลัพธ์ที่ดีมาก ในหนังสือแนะนำเทคนิค Innovation Sandwich ที่ทีมรับปัญหาหรือโจทย์ไปก่อนประชุม แล้วหลังจากนั้นก็มานำเสนอไอเดียกันครับ แต่ยังไม่ต้องสรุป แล้วเอาปัญหากลับไปแก้ต่อ นัดเจอกันอีกครั้งเพื่อตกผลึก โดยการประชุมนี้ควรทำในกลุ่มไม่ต้องใหญ่มาก 3-5 คน เพื่อจะให้ไอเดียนั้นมีการกระจายและพูดกันอย่างทั่วถึง

ในหนังสือบอกเอาไว่ว่า “แม้ว่าคุณจะถูกมองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายนั้น คุณก็ไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจว่าไอเดียไหนควรจะไปต่อเมื่อไม่มีข้อมูลจริง ๆ ไม่ว่าใครก็ตาม เพราะมีสิ่งที่ไม่ทราบเยอะมาก”


แล้วจะทดสอบไอเดียยังไงดีหล่ะ?

  1. เร็วที่สุดและใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด – ลองโฆษณาสินค้าที่ไม่มีอยู่จริงดูว่าจะมีคนซื้อไหม หรือ ไปตั้งบูทให้ทดลองสินค้าว่าจะมีคนสนใจรึเปล่า อย่าตัดสินจากแบบสำรวจ แต่ให้ตัดสินจากการกระทำของลูกค้า
  2. ทดสอบหลาย ๆ ไอเดีย – เราจะเริ่มรู้ทิศทางว่าควรไปทางไหนโดยการใช้ไอเดียที่ทดสอบแล้วเวิร์กหรือไม่เวิร์ก ทดลองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้พร้อม ๆ กัน ลองดูว่าไอเดียไหนทำให้รู้สึกตื่นเต้นอยากลองทำ
  3. ปรับทิศทางเมื่อได้ข้อมูลจากการทดสอบ – การเอาไอเดียที่ ‘ผิดพลาด’ ไปทดสอบกับลูกค้าจะสร้างผลตอบรับที่กลับมาอย่างไม่น่าเชื่อ เราจะเห็นการตอบสนองและข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อน

ทำยังไงให้สามารถสร้างไอเดียได้เยอะ ๆ หล่ะ?

อย่างแรกแน่นอนคือการเก็บ input หรือข้อมูลเยอะ ๆ ไม่ว่าจะจากคนรอบข้างหรือสื่อที่มีประโยชน์ต่าง ๆ ที่แตกต่างกันหลายแขนง

  • หาคนที่แตกต่างกัน พื้นฐาน ความรู้ ความเชี่ยวชาญ อยู่รอบ ๆ ตัวเพื่อเก็บเกี่ยวความคิดจากคนเหล่านี้ผ่านการสนทนา
  • ถ้าเป็นบริษัทก็ต้องหาวิธีคุยกับลูกค้าและรับฟีดแบคจากผู้ใช้งานจริง ๆ
  • ลองใช้บอร์ดที่ทุกคนสามารถเอาไอเดียมาแปะเชื่อมกันได้ที่บริษัท
  • หากลุ่มคนที่ ‘พอรู้จัก’ หรือมีความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ใกล้ชิดมากเพื่อหา input เพราะคนที่เราพอจะรู้จักแต่ไม่สนิทมากจะช่วยทำให้ไอเดียและแนวคิดที่แตกต่างจากเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัว
  • ใช้คำถาม ‘เราจะทำยังไงให้…” กับปัญหาที่มีอยู่ เช่น “เราจะทำยังไงให้บริษัทเติบโตมีลูกค้าถึงเป้าหนึ่งล้านบาทภายในสิ้นปี?” “เราจะทำยังไงให้ลูกค้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทมากกว่านี้?” ฯลฯ
  • เดินเล่นเรื่อยเปื่อย ใช้สิ่งที่เห็นเพื่อเชื่อมกับปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ เห็นทางม้าลายแล้วรู้สึกว่า ทำไมคนถึงไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่มีทางม้าลายตรงนี้ มันไม่เด่น หรือคนไม่สนใจ นั่นเป็นเหตุผลเดียวกับที่สินค้าเราวางบนชั้นแล้วไม่เด่นรึเปล่านะ คนเลยเดินผ่านไปโดยไม่หยิบมามอง เราอาจจะต้องทำป้ายอะไรให้เด่นกว่านี้ ฯลฯ
  • ถอยออกมาจากตรงนั้น กั้นเวลาให้หยุดทำอย่างอื่น เช่นไปเจอคน ไปอ่านหนังสือ เมื่อติดอยู่กับปัญหาของการสร้างไอเดีย เราต้องอนุญาตให้ตัวเองพักและถอยออกมาเพื่อจะทำให้สมองโล่งครับ ไปเดิน ออกกำลังกาย นอนพัก งีบหลับ หรือคุยกับคนรอบ ๆ ข้างถือว่าได้ประโยชน์ไม่น้อย

หนังสือเล่มนี้เป็นไกด์ที่ดีสำหรับใครก็ตามที่ทำงานมาถึงจุดหนึ่งแล้วรู้สึกว่าตัวเองติดอยู่กับที่ สร้างไอเดียใหม่ ๆ ไม่ได้ หรือคนที่อยากมีแนวคิดที่มาเปลี่ยนการทำงานของตัวเองหรือบริษัทที่ทำงานอยู่ให้ดีขึ้น เรียกว่าเป็น ‘practical guide’ ที่ทำตามได้จริง ๆ และมีตัวอย่างในหนังสือเยอะมาก อย่าง Timbuk, James Dyson, Prehype, Jon Beekman, Patagonia และอีกเยอะเลย

เป็นหนังสือธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวกับกลยุทธ์ วิธีการทำงาน หรือการปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น แต่เป็นหนังสือธุรกิจที่คล้ายกล่องเครื่องมือในการสร้างไอเดียให้เกิดขึ้นจำนวนมหาศาลในเวลาอันสั้นแถมยังได้ทดสอบไอเดียเหล่านั้นด้วย แล้วคุณจะเข้าใจว่าการสร้างไอเดียและความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องที่ฝึกกันได้ อย่าไปคิดว่ามันต้องเป็นจังหวะที่หลอดไฟในหัวสว่างขึ้นมาแล้วทุกอย่างจะจุดติด ไม่ใช่เลย นอกจากนั้นแล้วมันยังจะช่วยทำให้เราไม่ต้องผัดวันกับการเผชิญหน้ากับปัญหาไม่ว่าจะส่วนตัวหรือกับทีม

เป็นหนังสือที่มีข้อมูลที่ดี มีตัวอย่างที่ดี อ่านสนุกและช่วยทำให้คำว่า “ความคิดสร้างสรรค์” ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมสำหรับคนทั่วไปอีกต่อไป

Tags:

Businessd.schoolideaflowJeremy UtleyPerry KlebahnreviewThe Only Business Metric That Mattersธุรกิจ

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

ทำไมชักหน้าไม่เคยถึงหลัง : ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องเงิน เพราะเงินในอนาคตอาจไม่มีอยู่จริง

Next

20 บทเรียนจากนักจิตบำบัดที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น

Next
November 20, 2022

20 บทเรียนจากนักจิตบำบัดที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น

Previews
November 17, 2022

ทำไมชักหน้าไม่เคยถึงหลัง : ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องเงิน เพราะเงินในอนาคตอาจไม่มีอยู่จริง

No Comment! Be the first one.

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Posts

MOOH DONUT

by sopons
April 26, 2021

‘พลังของความเสียดาย’ : เล่มนี้จะ ‘เสียดาย’ ถ้าไม่ได้อ่าน

by sopons
October 29, 2022

กินอยู่ได้ @เชียงใหม่

by sopons
April 27, 2021

SweetBuns & CocoCino @Chiangmai

by sopons
April 27, 2021
SOPON’S BLOG

STUFF WORTH READING

© 2022, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Psychology

Follow

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact