SOPON’S BLOG
“สุขมากขึ้น ร่ำรวยขึ้น และสงบมากขึ้น” : เปิดประสบการณ์ ‘No Spend Year’ ของนักข่าวฟรีแลนซ์ที่เคยใช้เงินฟุ่มเฟือยกับปี 2024 ที่ตัดค่าใช้จ่ายเหลือแค่ที่จำเป็น
November 28, 2024
ด้านมืดของ ‘บริโภคนิยม’ จากสารคดี ‘Buy Now! The Shopping Conspiracy’ มนุษย์โหมบริโภค โลกจึงกลายเป็นกองขยะ
November 27, 2024
อย่าให้สังคมกำหนดว่าเรา ‘ต้องมีอะไร’ ถึงจะมีความสุข
November 27, 2024
แม้ไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายมีทุกวัน : 5 อย่างที่ต้องเตรียมพร้อมด้านการเงิน เมื่อตลาดแรงงานไม่มั่นคง
November 27, 2024
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว แต่วางหินวันละก้อน
November 26, 2024
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
Book

“แกแม่งเป็นเสือชีต้าร์เลยนะ” – UNTAMED (Review) : Glennon Doyle

sopons
June 26, 2021 2 Mins Read
377 Views
0 Comments

“ชีวิตนี้เป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว ฉันจึงเลิกถามหาหนทางชีวิตจากคนอื่น เพราะพวกเขาไม่เคยมาที่นี่”

คือประโยคหลังปกหนังสือเรื่อง “UNTAMED อย่ายอม” โดย เกลนน็อน ดอยล์ (Glennon Doyle) หนังสือเล่มนี้เป็น #1 NewYorkTimes Bestseller แต่ว่าอะไรที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ขายไปแล้วมากกว่าหนึ่งล้านเล่ม เพราะเกลนน็อนเป็นเซเลปบิตี้? เพราะเธอเคยออกรายการทีวีชื่อดัง? ไม่ใช่ทั้งนั้น นั่นเป็นเพราะการเขียนที่ “ฉึบฉับ” ตรงประเด็นและ “กรีดด้วยความจริง” ใครที่กำลังสับสนหนังสือเล่มนี้อาจเป็นเล่มหนึ่งที่ช่วยเขย่าให้คุณตื่นขึ้นมา

เกลนน็อน ดอยล์ คือใคร

เกลนน็อน ดอยล์คือนักเขียนคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จกับหนังสือที่ชื่อ Love Warrior, Carry On และ Untamed ซึ่งเป็นหนังสือที่ขายดีอันดับหนึ่งโดยการจัดอันดับของเดอะนิวยอร์กไทมส์ แน่นอนว่าคุณเกลนน็อน เป็นคนอเมริกัน เป็นนักเขียนและก็นักกิจกรรม (Activist) ด้านผู้หญิงและเด็ก เธอเป็นคนหนึ่งที่ทำให้สังคมเหลียวมองได้จากเรื่องราวและงานเขียนหนังสือของเธอ เธอเคยออกรายการ Talk Show ชื่อดังของ Oprah Winfrey กับ The Ellen Show

ในรายการของ Oprah เราจะเห็นเกลนน็อน ดอยล์คือนักเขียนสาวคนหนึ่งที่บอกว่าความรักคือสิ่งที่เข้ามาเพื่อเปลี่ยนชีวิต และในที่สุดมันอาจจะมีความเจ็บปวด เหมือนกับดอกไม้ที่ถูกฤดูหนาวพรากไป กลับลงไปสู่พื้นดิน เพื่อรับดินรับแร่ธาตุใหม่ก่อนที่จะผลิบานขึ้นมาอีกครั้ง 

ในตอนนั้นเธอดูคลั่งรักในชีวิตการแต่งงาน และยอมรับที่จะรัก แม้มันจะเจ็บปวด เพื่อที่สุดท้ายแล้วเธอก็จะมีความสุข คล้ายกับการกอบโกยเศษซากเพื่อประกอบใหม่ให้สวยงามกว่าเก่า

หลังจากนั้นชีวิตของเธอเปลี่ยนไป หลังจากที่ได้เจอกับ Abby Wambach จุดพลิกผันของชีวิตหลังจากพยายามอย่างหนักในการยอมรับและชื่นชมยินดีกับสิ่งที่เรามีตามกรอบที่เราติด การตกหลุมรักครั้งใหม่ทำให้เธอต้องตั้งคำถามและคิดอีกครั้งเกี่ยวกับชีวิตของเธอ ซึ่งในหนังสือเรื่อง Untamed ผู้เขียนรู้สึกว่าเกล็นนอนกำลังพยายามจะบอกเราว่า “การยอมรับความจริงในตัวเอง” มันเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปอย่างไร และเธอได้บอกใน Ellen Show ว่าหนังสือเล่มนี้กำลังจะถูกนำไปทำเป็น TV Show อีกด้วย

ถ้าเล่าอย่างนี้เกลนน็อน ดอยล์ก็คือนักเขียนอเมริกันคนหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไป เธอเติบโตขึ้นและเขียนหนังสือที่เกี่ยวกับชีวิตของเธอ จากคนที่เชื่อในรัก ไปสู่คนที่เชื่อในการเป็นตัวเอง การรักตัวเองที่มาจากจิตวิญญาณ แล้วหนังสือ Untamed คืออะไรกันแน่??

แต่ที่แน่ๆหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เขียนถึงชีวิตที่ใครๆก็พบเจอได้ การรัก การเลิกรัก ความสงสัยในตัวตน การค้นพบตัวตน การทุบทำลายมันอีกครั้ง การที่ส่วนที่ดำมืดที่สุดในจิตใจกลายเป็นสิ่งที่กลายเป็นเรา แล้วเราจะรับมือกับมันยังไง สำหรับเกล็นนอนแล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เธอข้ามผ่านมันมา เธอคิดยังไงเธอถึงกล้าที่จะเปลี่ยนและออกจาก Comfort Zone ที่เหมือนเป็นกรอบของตัวเอง

หนังสือเล่มนี้คืออะไร

หนังสือเล่มนี้อยู่ในหมวดจิตวิทยาพัฒนาตัวเอง ถูกแปลเป็นภาษาไทยโดยคุณ K.D.  ต้องชมก่อนเลยว่าการแปลของคุณ K.D.  แปลภาษาได้สละสลวยและส่งต่อสิ่งที่เกลนน็อนพยายามจะสืบทอดออกมาในภาษาที่เราเข้าใจได้ง่ายๆ  หนังสือเล่มนี้ทำให้คนอ่านตั้งคำถามกับ คำว่า ‘ดีอยู่แล้วในชีวิต’ ว่าไอ้คำว่าดีอยู่แล้ว ใครนิยามคำว่าดีให้เรา ก่อนจะบอกให้เรา “อย่ายอม” “อย่าเชื่อง” “อย่าหยุดตั้งคำถาม” เป็นตัวเองให้ดีที่สุด 

“แกแม่งเป็นเสือชีต้าร์เลยนะ”

ประโยคนี้ในบทนำของหนังสือเป็นเหมือนกับการชี้ให้เราเห็นประตูสู่การยอมรับความเป็นตัวเรา ในขณะที่บางครั้งเรายอมรับเรื่องบางเรื่องอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ใครพูดอะไรมาเราก็ยอมรับมาปรับใช้กับตัวเอง แต่เราดันมองข้ามคำแนะนำที่มาจากในใจเรา หนังสือเล่มนี้ของเกลนน็อนจะพาเราไปถึงจุดที่เราต้องสดับฟังเสียงในตัวเองที่เรามองข้ามไป ในตอนที่เรากำลังพยายามจัดการกับปัญหา 

หนังสือเล่มนี้จะทำให้เรารู้สึกว่า “นี่เรานะ นี่เรานะโว้ย ใครจะมารู้ดีกว่าเราวะ!?”

อ่านยากไหม รู้สึกยังไงเมื่อได้อ่าน?

หนังสือเล่มนี้หนาก็จริง แต่ไม่ได้อ่านยากเลย ด้วยความที่เป็นหนังสือที่มีสไตล์การเขียนแบบ “ฉึบฉับ” เข้าเรื่องมาด้วยการที่เกลนน็อนมองเห็นเสือชีต้าที่ทำเชื่องเหมือนกับหมาพันธุ์ลาบราดอร์ แต่เจ้าเสือตัวนั้นก็ยังคงสัญชาตญาณของเสือชีต้าร์ และการที่เราเป็นชีต้าร์แต่ทำเหมือนตัวเองเป็นสัตว์เชื่องๆ นั่นมันหยามกันชัดๆ มันปลุกความเป็นตัวตนและทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาว่า เสือชีต้าร์ตัวนั้นถูกเลี้ยงเหมือนลาบราดอร์ แต่ยังคงมีความเป็นเสือ แล้วเราคนนี้ยังไงดี? เราถูกเลี้ยงมาให้อยู่ในกรอบของสังคม แล้วเรามีโอกาสได้รู้จักตัวตนของตัวเองแล้วหรือยัง?

มีบางคนบอกว่าหนังสือเล่มนี้เหมือนกับหลักของพุทธศาสนาที่พูดถึงความไม่แน่นอน ตนย่อมเป็นที่พึ่งแห่งตนและสมาธิ ในทัศนะของผู้เขียนแล้ว ผู้เขียนไม่ได้มองเห็นประเด็นเหล่านี้ชัดเท่าประเด็นเรื่องของการค้นพบความจริงเกี่ยวกับ การรักตัวเอง ความไม่แน่นอนของชีวิต และประเด็นทางสังคมใหญ่ๆสามประเด็น นั่นก็คือการพูดถึงการกล่อมเกลาทางสังคม ความหลากหลายทางเพศและบทบาทของแม่

การกล่อมเกลาทางสังคม — มาร์เก็ตติ้งชายหญิง ที่นอกจากจะขายความเป็นชายหญิงแล้ว ยังซื้อกรอบให้คุณอีกด้วย ในหนังสือจะมีการพูดถึงตอนหนึ่งที่เกลนน็อนได้เข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็ไปอ่านสโลแกนที่สร้างความเป็นชายความเป็นหญิงผ่านขวดแชมพู โฆษณาแชมพูของลูกสาวที่บอกว่าต้องอ่อนโยน นุ่มนวล ในขณะที่ของลูกชายจะต้องห้าวหาญ เข้มแข็ง ฟาดเก้าอี้ จากการโฆษณาแบบนี้แสดงถึงมโนภาพของสังคมที่มีต่อเพศชายและเพศหญิง โดยการขายความเป็นชาย ความเป็นหญิงว่าควรจะมีภาพลักษณ์ยังไง ควรจะคิดยังไง ในขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงค่านิยมที่ลดทอนอำนาจในการตัดสินใจของทั้งชายและหญิงในการแสดงออก ทั้งยังเป็นการเหมารวมว่าความเข้มแข็งต้องเป็นชาย และความอ่อนแอต้องเป็นผู้หญิง เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงและเกิดขึ้นมาหลายศตวรรษไม่สิ้นสุด

Glennon Doyle posted this photo to her Instagram account on December 25, 2019 with the caption: “Secret to Family Happiness: Disregard everything you’ve been taught about what a family is supposed to be. Celebrate the family YOU ARE. Love you. Just as you are. #UntamedFamily #Untamed”

เพศสภาพ, เพศวิถี — ความตื่นตูมของสังคมที่มองคนอยู่นอกกรอบว่าประหลาด แม้ว่านี่จะเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 20 เกิดในชีวิตของคนที่เป็นที่รู้จัก เป็นที่นับหน้าถือตาในเรื่องของการเป็นผู้นำทางความคิด การที่เขาหรือเธอออกมาเผยแพร่เรื่องของเพศที่ไม่ตรงกรอบก็จะต้องถูกคุกคามจากกลุ่มคนที่ต่อต้าน ทั้งๆที่เป็นเรื่องส่วนตัวและไม่จำเป็นที่จะต้องประกาศให้ใครรู้

บทบาทของแม่ — เรามักจะคิดว่าการเป็นแม่คือการทำทุกอย่างให้ลูก แต่ความเป็นจริงที่เกลนน็อนพบก็คือลูกไม่จำเป็นต้องให้แม่อยู่ในชีวิตเพื่อสนับสนุนเขาหรือเธอเสมอเพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แต่เป็นการที่ต้องการให้แม่ “ได้” สนับสนุนเสียมากกว่า ดั่งประโยคนี้ของเกลนน็อนที่ว่า “ลูกไม่มองฉันเป็นฮีโร่ แต่มองเป็นแบบอย่าง เธอไม่ได้ต้องการให้ฉันช่วย แต่ต้องการให้ฉันได้ช่วยต่างหาก” 

ต่อมาหนังสือเล่มนี้ก็มีประโยคที่ปลุกใจเราอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 

“หัวใจที่สลายส่งมอบจุดมุ่งหมายในชีวิตให้คุณ”

 “ถึงจะทำทุกอย่างไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะมาขัดขวางไม่ให้ฉันทำเท่าที่จะทำได้” 

“ดูแลตัวตนของคุณให้ดี จงสู้นรกแตกไปเลยเพื่อรักษาตัวเเองไว้และเมื่อคุณทำเธอหายไป จงทำทุกสิ่งที่ต้องทำเพื่อกลับมาหาเธอให้ได้”

หนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือที่ดีในวันที่เรารู้สึกเคว้ง ไม่มั่นคงทางใจและเหงา หนังสือเล่มนี้จะเป็นเพื่อนที่ดี ที่จะมาตบบ่าแล้วบอกอะไรกับเรามากกว่า การสั่งสอนให้เรายอมรับโชคชะตาซะ เล่มนี้จะบอกให้เราสู้ และเราจะพบสิ่งที่ดีกว่าในตัวเรา เมื่อเราได้ค้นพบความสุขในตัวเราอย่างแท้จริง 

โดยสรุปจากบทความนี้ในช่วงท้ายมีประโยคหนึ่งของเกลนน็อนที่เขียนถึงความรู้สึกของเธอที่มี เมื่อมนตราแห่งความหลงใหลเสื่อมลงระหว่างเธอและแอ๊บบี้

“เธอโหยหาที่จะค้นพบตัวเองอยู่ตลอด แต่ก็พร้อมทอดทิ้งตัวเองอยู่เสมอ”

นี่แหละความคลาสสิคของความเป็นมนุษย์…. ไม่มีอะไรแน่นอน แม้แต่สิ่งที่เราเรียกว่า “ตัวเอง”

เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าจะได้อะไรจากการอ่านหนังสือ UNTAMED คำตอบก็คือ “ความรู้สึกว่าเราจะไม่ยอมเป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเราเอง แม้ว่าตัวเราเองจะเป็นอะไรที่เราก็คาดไม่ถึง”

Tags:

UNTAMEDรีวิวหนังสือหนังสือ Untamedอย่ายอมเกล็นนอนเกลนน็อน ดอยล์

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

“รู้จักรถ ให้เหมือนรู้จักแฟน” ไลฟ์สดขายรถมือสองที่เน้นความจริงใจ – คุณมิ้นท์ บุญธิดา พิสูจน์ ร้าน “รถมือสองคนเชียงใหม่”

Next

“ราเมนไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ” Sanmai Ramen : คุณวิน – ทศพร จิรัฐติพงษ์

Next
June 29, 2021

“ราเมนไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ” Sanmai Ramen : คุณวิน – ทศพร จิรัฐติพงษ์

Previews
June 22, 2021

“รู้จักรถ ให้เหมือนรู้จักแฟน” ไลฟ์สดขายรถมือสองที่เน้นความจริงใจ – คุณมิ้นท์ บุญธิดา พิสูจน์ ร้าน “รถมือสองคนเชียงใหม่”

Related Posts

Rabbit Chat : ฝึกตัวเองให้เป็นคนทิ้งเป็น

by sopons
July 17, 2021

ได้อะไรจากการไม่ทำอะไร กับ หนังสือนี่เราใช้ชีวิตยากเกินไปหรือเปล่านะ

by sopons
July 10, 2021
SOPON’S BLOG

STUFF WORTH READING

© 2022, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Psychology

Follow

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact