SOPON’S BLOG
“สุขมากขึ้น ร่ำรวยขึ้น และสงบมากขึ้น” : เปิดประสบการณ์ ‘No Spend Year’ ของนักข่าวฟรีแลนซ์ที่เคยใช้เงินฟุ่มเฟือยกับปี 2024 ที่ตัดค่าใช้จ่ายเหลือแค่ที่จำเป็น
November 28, 2024
ด้านมืดของ ‘บริโภคนิยม’ จากสารคดี ‘Buy Now! The Shopping Conspiracy’ มนุษย์โหมบริโภค โลกจึงกลายเป็นกองขยะ
November 27, 2024
อย่าให้สังคมกำหนดว่าเรา ‘ต้องมีอะไร’ ถึงจะมีความสุข
November 27, 2024
แม้ไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายมีทุกวัน : 5 อย่างที่ต้องเตรียมพร้อมด้านการเงิน เมื่อตลาดแรงงานไม่มั่นคง
November 27, 2024
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว แต่วางหินวันละก้อน
November 26, 2024
Facebook Twitter Youtube Instagram Medium Bootstrap
SOPON’S BLOG

Type and hit Enter to search

  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Tech
    • Business
    • Thoughts
    • Science
    • Startups
    • Lifehack
    • People
    • Travel
    • Inspiration
  • Podcast
  • About
  • Contact
  • Follow
    • Facebook
    • Twitter
    • Instagram
    • Blockdit
    • Telegram
Inspiration

5 ความล้มเหลวของ Jeff Bezos และวิธีข้ามพ้นมันของเขา

sopons
September 28, 2021 3 Mins Read
319 Views
0 Comments

Jeff Bezos ประสบความสำเร็จจากแพลตฟอร์ม e-commerce ระดับโลก แต่เช่นเดียวกันกับธุรกิจน้อยใหญ่ทั่วโลก เขาต้องเคยเจออุปสรรค ในขณะที่ Elon Musk หรือ Mark Zuckerberg พัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ตัวของ Jeff Bezos กลับมีวิสัยทัศน์ในการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ การรับความเสี่ยงและยึดมั่นในวัฒนธรรมแห่งการทดลองและการประดิษฐ

สิ่งที่เขาลงทุนเสี่ยงเหล่านั้น ทำให้เขาได้พบกับความล้มเหลว แต่สุดท้ายเขาก็ใช้ความสามารถในการแก้ปัญหา และกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยเป็นอันดับที่สองของโลก ความสำเร็จของเขาเป็นที่ประจักษ์ว่าวิธีที่เขาแก้ปัญหานั้นถูกต้อง กุญแจสู่ความอยู่รอดในโลกธุรกิจคือความสามารถในการลุกขึ้นหลังจากความล้มเหลว และใช้ความล้มเหลวของคุณเป็นฐาน เพื่อความสำเร็จครั้งต่อไป บทความนี้จะเล่าถึงการที่ Jeff Bezos ล้มและเขาลุกขึ้นมาได้อย่างไร

1) Amazon’ Fire Phone’ 

https://www.wired.com/2015/01/amazon-fire-phone-always-going-fail/

ในช่วงปี 2010 อเมซอนต้องแบ่งตลาดกับแอพต่าง ๆ ในมือถือ และเพื่อแก้ปัญหานั้นในปี 2014 อเมซอนได้นำเสนอ Amazon Fire Phone มือถือที่เป็นเสมือนเครื่องมือช็อปปิ้งออกมา โดยมีวัตถุประสงค์คือให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาและซื้อของจากมือถืออเมซอนได้โดยตรง 

แต่อย่างไรก็ตาม Amazon Fire Phone ล้มเหลว เนื่องจากเป้าหมายที่ผิวเผินและการวางแผนที่ไม่เหมาะสม แทนที่จะมองภาพรวมที่จะทำให้มันสามารถประสบความสำเร็จได้ จุดประสงค์ของการสร้างคือการชดเฉยรายได้ที่สูญเสียไป เนื่องจากมุมมองที่แคบ ทีมงาน Amazon จึงไม่สามารถมองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของสมาร์ทโฟนได้ เป็นผลให้ Amazon ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ และผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถูกยกเลิกหลังจากเปิดตัวเพียงสามเดือน บริษัทสูญเสียเงินไป 170 ล้านดอลลาร์ในกระบวนการสร้าง Fire Phone


Bezos แก้ไขสถานการณ์อย่างไร?

Bezos มักจะบอกว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจของเขาคือการทดลองและกล้าที่จะเสี่ยงครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเชื่อว่าเมื่อบริษัทต่างๆ เริ่มพึงพอใจ พวกเขาจะไม่ทดลองหรือยอมรับความเสี่ยงที่จะล้มเหลวต่อไป และในที่สุดพวกเขาก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ซึ่งพวกเขาต้องทำบางสิ่งที่เพื่อรักษาความเป็นอยู่ขององค์กร

สำหรับ Fire Phone เขาได้เปิดให้มีการถกเถียงกันถึงเหตุผลว่าทำไมผลิตภัณฑ์นี้ถึงล้มเหลว เขายอมรับว่า Amazon ควรใช้เวลามากกว่านี้ในการวิเคราะห์ทุกอย่างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และผู้บริโภค ในการให้สัมภาษณ์กับ Business Insider เขากล่าวว่าหนึ่งในหลายๆ งานของเขาคือการสนับสนุนให้ผู้คนกล้าแสดงออก ซึ่งงานนี้เป็นงานที่ยากอย่างไม่น่าเชื่อ

เขามองว่า Fire Phone เป็นการทดลองเกี่ยวกับแนวคิดและผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวเพื่อให้อีกผลิตภัณฑ์หนึ่งประสบความสำเร็จ เขาเล่าต่าว่าพอร์ต Amazon มีผลิตภัณฑ์อีกมากมายที่ล้มเหลว และมีเพียงไม่กี่ผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ แต่มันก็ยิ่งใหญ่มากพอที่จะทดแทนผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวเหล่านั้น

อย่างเช่น ความล้มเหลวของ Fire Phone นำไปสู่ความสำเร็จของ Amazon Echo Smart และ Alexa

อะไรคือสิ่งที่บริษัทได้เรียนรู้?

การวางแผนระยะยาวและการวิจัยที่เหมาะสมมีความสำคัญต่อการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัทจำเป็นต้องเข้าใจความต้องการของตลาด กลุ่มเป้าหมาย และต้องบรรลุเป้าหมายการขาย อีกทั้งยังต้องมีแผนระยะยาวสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเพื่อให้เหมาะสมกับวิสัยทัศน์และช่วยให้บริษัทมีรายได้อย่างต่อเนื่อง

2) Books getting deleted 

Photo by Ujesh Krishnan on Unsplash

ในปี 2009 Amazon ลบหนังสือฉบับดิจิทัลออกจากอุปกรณ์ Kindle เนื่องจากบริษัทพบว่ามันไม่ถูกลิขสิทธิ์ แม้ว่า Amazon จะคิดแผนปฏิบัติการเตรียมไว้ แต่พวกเขารู้ว่าการลบนั้นเป็นความคิดที่ไม่ดี อย่างไรก็ตาม พวกเขาดำเนินการลบ Copy ที่ผิดกฎหมายออกจากระบบและอุปกรณ์ของลูกค้า และคืนเงินให้ลูกค้า นี่ดูเหมือนปัญหาเล็กน้อยที่บริษัทใด ๆ จะต้องเผชิญ แต่ไม่จบแค่นั้น เมื่อผู้ใช้มีการรีวิวผลิตภัณฑ์และบริการต่อการกระทำนี้ของ Amazon และนี่ก็สร้างความฮือฮาไม่น้อย

ผู้ใช้ได้แสดงความคิดเห็นบนเว็บมากมาย และยังอ้างอิงถึงข้อตกลงการบริการในการเผยแพร่ (published terms of service agreement)ของ Amazon และ Kindle ที่บอกว่าบริษัทไม่มีสิทธิ์ที่จะลบเนื้อหาหลังจากที่การซื้อขายสำเร็จ พวกเขาผิดหวังกับ Amazon และผู้ค้ารายย่อยก็ไม่สามารถถอนการซื้อได้(retract a physical purchase) แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรักษา “unique tether” สำหรับ digital content


Bezos แก้ไขสถานการณ์อย่างไร?

Bezos ต้องสวมบทเป็นราชาแห่งการจัดการวิกฤต เมื่อการลบหนังสือทำให้เกิดความโกรธเคืองต่อลูกค้าของเขา เขายอมรับความผิดพลาดของบริษัทอย่างรวดเร็ว เขายอมรับว่าวิธีแก้ปัญหาของพวกเขานั้นไม่แน่นอนและไม่สอดคล้องกับหลักการของบริษัท

ทั้งนี้เขายังได้อธิบายด้วยว่าพวกเขาจะใช้ประสบการณ์นี้เป็นบทเรียนในอนาคตเพื่อตัดสินใจได้ดีขึ้น

อะไรคือสิ่งที่บริษัทได้เรียนรู้?

ในกรณีนี้ บริษัทควรปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่มีอยู่แล้วของบริษัท นอกจากนี้ คุณต้องเตรียมพร้อมกับแผนการจัดการวิกฤตหากมีอะไรเกิดขึ้นซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของคุณ ในยุคดิจิทัล การเงียบในช่วงวิกฤตอาจส่งผลเสียต่อธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าการเผชิญหน้าในประเด็นนี้

 

3) Feud with Hachette Book Group 

https://www.medianama.com/2014/08/223-amazon-and-hachette-controversy-deepens-as-authors-united-preps-to-bash-amazon-on-sundays-nyt/

Amazon ได้ก้าวเข้าสู่ความบาดหมางกับผู้จัดพิมพ์ Hatchette หลังจากข้อพิพาทเรื่องสัญญา พวกเขาต้องการเจรจาเงื่อนไขของสัญญาหลังจากหมดอายุ โดยต้องการให้มีการแก้ไขเงื่อนไขหลัก แต่เมื่อสิ่งที่พวกเขาต้องการ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของ Amazon บริษัทจึงตัดสินใจขยายสัญญาของ Hatchette โดยไม่คำนึงถึงข้อกำหนดในปัจจุบัน นั่นทำให้พวกเขาไม่สามารถสร้างการขายแบบดิจิทัลได้ ในขณะนั้น กลวิธีของ Amazon คือการปิดกั้นการสั่งจองล่วงหน้าสำหรับหนังสือของ Hatchette หลายเล่ม และชะลอเวลาการส่งมอบผลิตภัณฑ์ ทำให้ยอดขาย e-book ของ Hatchette ลดลง แต่พวกเขายังคงยืนกรานที่จะมีอิสระในผลิตภัณฑ์ของตน

นักเขียนหลายคนประณาม Amazon ว่าจงใจทำลายการขายหนังสือของ Hatchette และทำร้ายการดำรงชีวิตของผู้เขียน พวกเขาต่อต้านไปไกลถึงขั้นเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมสอบสวน Amazon สำหรับกลยุทธ์การผูกขาดที่ผิดกฎหมาย(monopoly tactics) แต่อย่างไรก็ตาม Hatchette ตัดสินใจที่จะยุติคดีเพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถต่อสู้ในศาลได้

มันช่วยปรับปรุงยอดขายหนังสือของ Amazon เนื่องจากผลของสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทสามารถรักษาราคา e-book ให้ต่ำลงได้ อย่างไรก็ตาม Hatchette คงไม่ยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ลองสู้ Amazon พยายามทำให้มีผู้ที่เสียหายเกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยที่สุด โดยพวกเขาเขียนจดหมายถึงนักเขียนที่ตีพิมพ์กับ Hatchette โดยบอกว่าพวกเขาไม่ควรอยู่ท่ามกลางข้อพิพาท และ Amazon จะให้ผลกำไร e-book 100% แก่พวกเขาจนกว่าสถานการณ์จะได้รับการแก้ไข

Hatchette ไม่เห็นด้วย โดยเรียกสิ่งที่ Amazon ทำว่า “การฆ่าตัวตาย” เนื่องจากพวกเขาต้องการที่จะควบคุมราคา ยิ่งกว่านั้น วิธีเดียวที่จะเคารพนักเขียนและรับประกันว่าวรรณกรรมจะตีพิมพ์ต่อไปคือการกำหนดราคาตามความสามารถของผู้แต่ง วันที่เผยแพร่ ฯลฯ ไม่ใช่ 9.99 ดอลลาร์ที่ Amazon ต้องการเรียกเก็บสำหรับ e-book ทั้งหมด

Bezos แก้ไขสถานการณ์อย่างไร?

Bezos กล่าวว่าภารกิจทั้งหมดของบริษัทของเขาคือการเจรจาอย่างจริงจังในฐานะตัวแทนของลูกค้า นั่นคือเป้าหมายที่ตั้งขึ้นตั้งแต่วันแรก และเขาจะทำให้มันเป็นอย่างนั้นต่อไป หนังสือไม่ได้เพียงแค่แข่งขันกับหนังสือเล่มอื่นๆ แต่พวกเขากำลังแข่งขันกับกิจกรรมยามว่างอื่นๆ เช่น การเล่นวิดีโอเกม ดูทีวี หรือเลื่อนดูโซเชียลมีเดีย

Bezos ในความเห็นในการสัมภาษณ์กับ Business Insider เขากล่าวว่าต้องการการสร้างวัฒนธรรมสำหรับการอ่านในระยะยาว หนังสือต้องเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ความคิดนี้ขับเคลื่อนเหตุผลเบื้องหลังการกำหนดราคา e-book ในสังคมที่พวกเขากำลังแข่งขันกับแอปและเกมอย่าง Candy Crush บริษัท Amazon ต้องการสร้างวิธีที่จะทำให้หนังสือมีราคาถูกและเข้าถึงได้มากขึ้น

อะไรคือสิ่งที่บริษัทได้เรียนรู้?

จงจับแผนธุรกิจไว้ให้แน่น สำหรับ Bezos แล้วมันชัดเจนมาตั้งแต่แรกว่าแผนของเขาคือการคำนึงถึงลูกค้า เขาอยากจะสร้างแพลตฟอร์มที่ทำให้การเข้าถึงหนังสือเป็นเรื่องที่ง่าย และแม้ว่าจะไม่ได้คำนึงถึงความขัดแย้งหรือปัญหา บริษัทจำเป็นต้องยึดมั่นในพันธกิจและวิสัยทัศน์เดิม เพราะมันจะช่วยให้พวกเขาสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าที่มีอยู่ และกลุ่มเป้าหมาย

 

4) Kozmo.com & Pets.com 

เมื่อ Amazon ตัดสินใจลงทุนเงินใน Kozmo.com และ Pets.com มันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการกระจายผลิตภัณฑ์เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ให้ “สถานที่ที่ลูกค้าสามารถค้นหา ค้นพบ และซื้ออะไรก็ได้ทางออนไลน์” ความร่วมมือเป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับ Amazon และอีกบริษัทหนึ่ง เนื่องจากเป็นแหล่งรายได้ใหม่ราคาถูกสำหรับ Amazon ที่เป็นยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ และเป็นช่องทางให้บริษัทเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของตน ในปี 1999 อเมซอนซื้อหุ้น 50% ใน Pets.com และสนับสนุนการจัดหาเงินทุน 50 ล้านดอลลาร์ในบริษัทจัดหาสัตว์เลี้ยง และยังลงทุนเพิ่มเติมอย่างน้อย 60 ล้านดอลลาร์ใน Kozmo.com อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าปลีกออนไลน์รายนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก่อนที่จะปิดตัวลง

Bezos แก้ไขสถานการณ์อย่างไร?

“ผมทำเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์จากความล้มเหลวที่ Amazon.com ความล้มเหลวนับพันล้านเหรียญ คุณอาจจำ Pets.com หรือ Kozmo.com มันเหมือนกับการได้รักษารากฟันโดยไม่ต้องดมยาสลบ ไม่มีอะไรเลยที่สนุก และมันก็ไม่สำคัญเช่นกัน” — Jeff Bezos.  

Bezos ยังคงยืนกรานเกี่ยวกับภารกิจของเขา และพร้อมที่จะเสี่ยงต่อไป เขามองว่าความล้มเหลวเป็นบทเรียนสำหรับอนาคต เขาเชื่อมั่นมากๆว่าการส่งเสริมความสามารถในการประดิษฐ์ และความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องมีเวลาสำหรับความอยากรู้อยากเห็นและการทดลอง

อะไรคือสิ่งที่บริษัทได้เรียนรู้?

Bezos กล่าวว่า เขาได้ทำความล้มเหลวและทำการทดลองมาแล้วนับพันล้านครั้ง เขาพบว่าเขาจะไม่มีกิจการใดๆเลย ถ้าไม่มีความเสี่ยง การประสบความสำเร็จ การก้าวต่อไป และเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต

5) Antitrust issues 

Photo by Joshua Hoehne on Unsplash

เมื่อโลกกลับตาลปัตรเมื่อปีที่แล้ว Jeff Bezos และผู้นำด้านเทคโนโลยีอีกสามคนตกเป็นจำเลยในประเด็นเรื่องการต่อต้านการผูกขาดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2020

Bezos ตกอยู่ภายใต้การวิจารณ์เมื่อผู้ขายที่เป็นบุคคลที่สามชี้แจงว่าพวกเขาไม่พอใจที่ Bezos พูดถึงพวกเขาในระหว่างการพิจารณาคดี ในขณะที่เขาเน้นว่าความสำเร็จในการค้าปลีกของ Amazon ขึ้นอยู่กับผู้ขายที่เป็นบุคคลที่สาม Bezos ยังระบุด้วยว่าผู้ขายประสบความสำเร็จเพราะเครื่องมือของ Amazon พวกเขาไม่พอใจเพราะดูเหมือนว่าคำพูดของเขานั้นไม่มีความจริงใจ

แม้ว่าเรื่องนี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระที่ต้องต่อสู้ แต่ปัญหานี้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว ตัวอย่างหนึ่งคือ เมื่อผู้ขายรายหนึ่งถูกระงับบัญชี ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายของเขาถึง 90% ในเวลาเพียงวันเดียว 

ผู้ขายแสดงความดูถูกเหยียดหยามโดยพูดอย่างเปิดเผยว่า “มีบางสิ่งที่ผมคิดก็คือจะเป็นไปได้ยังไงที่บริษัทมูลค่ากว่าล้านล้านล้าน ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ทั้งที่ธุรกิจที่ถูกกฎหมายหลายแห่งพึ่งพาพวกเขา” สก็อตต์ นีดแฮม พิธีกรของ “The Smartest Amazon Seller”  พอดคาสต์

The seller displayed his disdain by openly saying. “There are certain things where I think, ‘How does a trillion-dollar company not solve certain parts of this puzzle? Many legitimate businesses rely on them.” – Scott Needham, host of podcast

Bezos แก้ไขสถานการณ์อย่างไร?

เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้และดูเหมือนไม่ใช่ข่าวใหญ่โตอะไรมากนัก เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทว่าในความเป็นจริง เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจจำนวนมาก เมื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น

ในระหว่างการพิจารณาคดี เขาได้กล่าวถึงข้อกังวลที่ตัวแทนของสภาคองเกรสมีเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทในการเข้าถึงข้อมูลที่เกินความจำเป็นของผู้ขายบนแพลตฟอร์มของเขา ซึ่งเป็นคู่แข่งของเขาด้วย ข้อมูลตรงนี้ทำให้เขาได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งนี้เขาได้พูดอย่างตรงไปตรงมาว่าในขณะที่มีนโยบายที่ห้ามไม่ให้ใช้ข้อมูลผู้ขาย เขาก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่านโยบายนี้ไม่เคยถูกละเมิด

ตัวแทนหลายคนแสดงความกังวลที่คล้ายกันตลอดการซักถาม แต่ไม่สามารถให้ Bezos ยอมรับในข้อกล่าวหาใดๆ ได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดที่มีอยู่ได้ แต่ Bezos อาจให้เหตุผลแก่พวกเขาในการเขียนกฎหมายเหล่านี้ใหม่

อะไรคือสิ่งที่บริษัทได้เรียนรู้?

จงซื่อสัตย์และโปร่งใส ไม่ว่าจะเป็น นักข่าว สื่อมวลชน หรือประชาชนทั่วไป บริษัทต่างๆ จะต้องซื่อสัตย์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในอุตสาหกรรมนี้ ในขณะที่มีผู้คลางแคลงใจอาจตั้งคำถามถึงกลยุทธ์และการเคลื่อนไหวทางธุรกิจของเขา แต่ Bezos ก็เปิดเผยเกี่ยวกับปรัชญาและการตัดสินใจทางธุรกิจของเขา เพราะมันจะสร้างความไว้วางใจ และยิ่งไปกว่านั้น ความซื่อสัตย์มักจะรักษาความสนใจของลูกค้าที่มีอยู่และเปิดประตูสู่ลูกค้าใหม่

อย่างที่คุณเห็น Bezos พบกับความล้มเหลวหลายครั้งบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ แทนที่จะปล่อยให้อุปสรรคเหล่านี้เอาชนะเขา เขาเรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้นและเป็นนักธุรกิจที่ดีขึ้น

ในความเป็นแล้ว ในทุกวันนี้ เขาเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ดีที่สุดในยุคของเรา หากเราศึกษาจาก Bezos ว่าเขาจัดการกับความผิดพลาดของเขาอย่างไร เรื่องราวของเขาอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการที่ใหม่ ๆ ที่กำลังเติบโตขึ้น

ที่มา : https://press.farm/5-failures-of-jeff-bezos-and-how-he-overcame-them/

Tags:

amazonBussinessinspirationJeff Bezosแรงบันดาลใจ

Share Article

Follow Me Written By

sopons

Writer / Columnist (Salmon Books, 101.world, The Matter, Beartai, The People, a day Bulletin, CapitalRead, GQ, Billion Brands)

Other Articles

Previous

Lucy Hone : 3 เคล็ดลับของคนล้มแล้วลุก

Next

Diana Nyad : นักกีฬาว่ายน้ำหญิงแกร่งที่พิชิตมหาสมุทรแอตแลนติกในวัย 65 ปี ชีวิตคือถนนทางเดียว เราจะเลือกใช้มัน หรือ เลือกที่จะนั่งดูมันผ่านไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเรา

Next
October 4, 2021

Diana Nyad : นักกีฬาว่ายน้ำหญิงแกร่งที่พิชิตมหาสมุทรแอตแลนติกในวัย 65 ปี ชีวิตคือถนนทางเดียว เราจะเลือกใช้มัน หรือ เลือกที่จะนั่งดูมันผ่านไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเรา

Previews
September 27, 2021

Lucy Hone : 3 เคล็ดลับของคนล้มแล้วลุก

Related Posts

PEGGY GUGGENHEIM : นักสะสมงานศิลปะหญิงที่เฉียบและโมเดิลที่สุดในยุค 40s’

by sopons
January 12, 2022

MADAM C.J. WALKER : เศรษฐีนีคนแรกของอเมริกา

by sopons
January 4, 2022

Robert Waldinger : ชีวิตที่ดีเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ที่ดี

by sopons
October 26, 2021

Rutger Bregman :  ทำไมคนจนจึงตัดสินใจแย่ ๆ ?

by sopons
November 16, 2021
SOPON’S BLOG

STUFF WORTH READING

© 2022, All Rights Reserved.

Quick Links

  • Contact
  • About

Category

  • Self-Improvement
  • Technology
  • Business
  • Thoughts
  • Psychology

Follow

Facebook Twitter Youtube Instagram
  • Home
  • Topics
    • Featured
    • Self-Improvement
    • Business
    • Technology
    • Inspiration
    • Books
    • Life Style
    • Startups
    • Thoughts
    • Travel
  • About
  • Contact