Bora Korean Mart ร้านมินิมาร์ทเกาหลีแท้ๆที่เชียงใหม่ บทสัมภาษณ์ : ต้น สีหราช ปรางค์ศรีทอง
โลกาภิวัตน์ทำให้โลกเชื่อมถึงกันได้ง่ายขึ้นทั้งเวลาและระยะทางก็ไม่เป็นอุปสรรคในการที่ของชิ้นหนึ่งจะไปสู่อีกที่หนึ่งหรือเนรมิตร้านค้าในประเทศไทยให้เป็นร้านค้าเกาหลี “Bora Korean Mart เชียงใหม่”
วันนี้ต่ายมีโอกาสได้คุยกับ คุณต้น สีหราช ปรางค์ศรีทอง เจ้าของร้านโบราเชียงใหม่ ซึ่งคุณต้นเป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กว่าจะมาเป็นร้านโบราในปัจจุบัน คุณต้นทำมาหลายอย่างทั้งไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดา กลับมาเป็นพนักงานออฟฟิศที่กรุงเทพฯ เปิดร้านไอศกรีมและคาเฟ่ที่เรารู้จักกันในชื่อ On Cloud 9 (แต่ตอนนี้ปิดไปแล้วครับ)
คุณต้นเล่าให้ฟังว่าที่ตัดสินใจออกจากการเป็นพนักงานเป็นเพราะว่าถึงจุดอิ่มตัวและก็อยากจะเติบโตจากเดิม เลยหันกลับช่วยธุรกิจที่บ้าน
“ธุรกิจแรกที่เริ่มทำคือร้านไอศกรีม Ice creamery ต่อมาก็ขยับขยายมาเป็นร้าน On Cloud 9 ซึ่งทำร่วมกับน้องสาวก็จะเป็นแบบไอศกรีมมุ้งมิ้ง ร้านสีชมพูอะไรประมาณนี้ครับ ก็เป็นฟีลสำหรับคนชอบถ่ายรูปและมีเซ็ตเมนูที่หลากหลาย”
ต่อมาเกิดการระบาดของโควิด 19 เป็นที่รู้กันว่าโควิด 19 ทำให้ธุรกิจที่เป็นร้านไอศกรีม และธุรกิจที่เป็นร้านอาหารที่ต้องนั่งทานในร้าน แทบจะต้องปิดตัวลงไปเลย คุณต้นเล่าว่าเพราะความกังวลเรื่องการนั่งทานด้วยกัน ทำให้ตอนนั้นร้านไอศกรีมของคุณต้นต้องปรับวิธีใหม่
“ตอนนั้นเราก็จัดเป็นขนาดสำหรับคนเดียว แล้วก็มีแบบจัดส่งไปที่บ้านด้วย แต่ด้วยสถานการณ์โควิดที่หนักอยู่ทำให้ลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าคนจีนส่วนใหญ่หายไป ทำให้สองปีที่ผ่านมาผมกับน้องสาวต้องมาคิดกันใหม่ว่าจะเอายังไงดี เราก็พยายามปรับตัวในหลายๆเรื่องละแต่ในวงจรธุรกิจมันอาจจะไปต่อไม่ได้ในสถานการณ์นี้เราก็เลยต้องปรับเปลี่ยน”
จาก On Cloud 9 มาเป็น Bora คุณต้นคิดยังไง
“ต้องย้อนกลับไปที่แคนาดา ตอนน้ันผมก็มีเพื่อนที่เป็นคนเกาหลีเราก็จะเป็นแก๊งคนเอเชียอยู่ด้วยกัน คนเกาหลี คนไต้หวัน คนไทยเราก็สัมผัสวัฒนธรรมของเขา ทุกวันศุกร์เราก็ได้ไป Hangout กับเขา ได้ไป Korean Town ไปร้านขายของ จังหวะนั้นเราก็ได้สัมผัสวัฒนธรรมการกินขนม ไอติมนู้นนี่นั่น สักพักหนึ่งและจังหวะที่เพื่อนแต่งงานกับคนเกาหลี เขาก็เปิดโบราที่กรุงเทพ ผมก็เลยไปดูเขาว่าเป็นยังไง พอเข้าไปเห็นว่าของมันเยอะมาก เราก็เลยบอกกับเขาว่าเอาไปเปิดเชียงใหม่ได้ป่ะ”
คุณต้นเริ่มจากความประทับใจในร้านโบราที่กรุงเทพ อาจเพราะเห็นในคอนเซ็ปต์ของร้านที่มีความเป็นเกาหลีจ๋า เหมือนได้หลุดเข้าไปในเกาหลีทำให้คุณต้นสนใจที่จะเอาคอนเซ็ปต์นี้มาตั้งที่เชียงใหม่
ในตอนแรกที่เปิดร้านคุณต้นเขาประเมินไว้ว่าสเกลของคนที่จะมาซื้อของในมินิมาร์ทหรือชอบเกาหลีน่าจะมีสักประมาณ 5-10% แต่ฟีคแบคกลับมา กลับเป็น 30-40% และเป็นกลุ่มลูกค้ากลุ่มตลาดที่นึกไม่ถึง รวมถึงถึงคนที่ชอบซีรี่ย์เกาหลีด้วย
“ช่วงปีที่แล้ว เราตามหาซอสโคชูจังซอสที่จะทำกิมจิ และเครื่องปรุงต่างๆในเชียงใหม่ไม่ได้ เพราะเรื่อง Itaewon Class ที่ดังมากๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่อยากจะไปทำตาม แต่หาของไม่ได้ก็เลยต้องให้เพื่อนที่กรุงเทพฯ ส่งมาให้ ตรงนี้เราก็เลยเล็งเห็นว่าคนเชียงใหม่ก็ยังไม่ได้ทานอาหารเกาหลีหรือขนมเกาหลี เราก็เลยเอามาเลย”
หลังจากที่เปิดมีทำการตลาดหรือโฆษณายังไง?
“ทางโซเชียลเป็นหลักเลยครับ แล้วก็ต้องขอบคุณพวกสื่อและเพจรีวิวที่ติดต่อเข้ามารีวิว เขาก็จะมาถ่ายรูปสินค้ามาลองชิมรามยอน กระแสก็เลยไปเรื่อยๆครับ ปากต่อปาก”
“วิธีการคัดเลือกสินค้าของเราก็คือหลักๆเลยคือสินค้าที่อยู่ในซีรี่ย์ จะเป็นสินค้าที่ขายดีอันดับต้นๆ อย่าง Vincenzo พวกกาแฟ พวกมักกอลี ลูกค้าก็จะทักมาถามก่อนเลยว่ามีไหม คือเราก็จะรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร เขาก็จะแคปจากในซีรี่ย์มาให้ เราก็จะรู้ความต้องการของลูกค้าจากตรงนี้”
“สินค้าบางอย่างก็สามารถหาซื้อได้ในมินิมาร์ทหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป แต่ว่าความหลากหลายของสินค้าที่เรามี รวมถึงบรรยากาศ ถ้าไปซื้อที่อื่นมันจะไม่ได้ฟีลแบบเกาหลีทิพย์ เวลาคนมาที่นี่ก็จะชอบติด #เที่ยวทิพย์ #เกาหลีทิพย์ เราได้สัมผัสถึงสินค้าเกาหลีจริงๆ ไม่ได้มีแค่สินค้าที่ขายดีหรือว่าคนนิยม หลักๆเลยคือเราจะได้ลองขนม รวมถึงสินค้าเกาหลีที่แปลกใหม่ที่จะหาได้แค่ที่ร้านเรา ไม่ได้มีขายที่อื่น ดังนั้นมันเลยเป็นความต้องการที่ว่ามาซื้อของปกติพื้นฐานแล้วก็ได้ออฟชั่นเพิ่มอีก ได้ขนมแปลก ๆ ได้ขนมที่ยังไม่มีที่ไหนวางขาย ติดไม้ติดมือไปด้วย”
แนวคิดในการทำธุรกิจหรือมิชชั่น
สินค้าในร้านไม่ได้มีแค่ขนมหรือของกินเท่านั้น “ในร้านจะมีอาหารแช่แข็งที่ทางร้านสามารถบริการเวฟให้ทานได้เลย แล้วก็มีรามยอนที่เลือกแล้วมาต้มที่เครื่องต้มอัตโนมัติแล้วก็นั่งทางที่ร้านเหมือนทานที่มาร์ทเกาหลีได้เลย”
คุณต้นยิ้มแล้วก็ชี้ให้ดูว่ารอบๆมาร์ทมีที่นั่งสำหรับกินรามยอนอยู่
อุปสรรคที่เกิดขึ้นในการประกอบธุรกิจเปิดร้านขายสินค้านำเข้า
“ตอนนี้อุปสรรคหลักๆของเราเลยคือการชิปปิ้งเพราะว่าของที่ลูกค้าอยากได้จากเรา ส่งไม่ทันก็จะเห็นได้ว่าชั้นของเราจะเปลี่ยนทุกอาทิตย์ ทุกเดือนเลยเพราะว่าเรือของเราที่ส่งมา อาจจะไม่ทันรอบการจัดส่งจากเกาหลี ทำให้สินค้าขาดบางตัวทั้งๆที่เราสต็อกไว้ และประเมินความต้องการไว้ ทำให้ลูกค้าอาจจะต้องรอสินค้าของเรานิดนึง”
สถานการณ์โควิดที่กำลังจะกลับมาคุณต้นเตรียมรับมือยังไง และมองว่ามันส่งผลกระทบยังไงบ้าง
“ตอนนี้ผลกระทบยังไม่ได้ชัดเจนนะครับ แล้วก็ตอนนี้เราก็เริ่มส่งออนไลน์ คือลูกค้าสามารถทักแชทไลน์เข้ามาหาเราแล้วเราก็สามารถที่จะจัดส่งให้ได้ทั่วประเทศเลย ส่วนเชียงใหม่ก็ส่งเป็น Grab Express เพื่อลดการสัมผัส”
“ลูกค้าก็จะสามารถติดตามสินค้าใหม่ๆได้ทางหน้าเพจของร้าน”
สำหรับโบราเชียงใหม่ในอนาคต
“โบราตอนนี้ก็กำลังจะขยับขยายไปเปิดที่ลำปาง อีกสักเดือนสองเดือนข้างหน้า ชาวภาคเหนือก็จะได้ชิมอาหารขนมและเครื่องดื่มของเกาหลีครับ”
“ในอนาคตเรากำลังดูๆไว้ว่าจะนำเข้าพวกเครื่องครัวของเกาหลีครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกจานช้อนซ้อมและก็แพคเกจจิ้งต่างๆ ในส่วนของการทำครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวก็ดูๆไว้อยู่ นี่เป็นอีกพาร์ทหนึ่งที่น่าสนใจครับ”
แนะนำคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ
“สิ่งแรกเลยที่ผมอยากแนะนำก็คือเราต้องหาแรงบันดาลใจให้กับตัวเองเยอะๆ คือบางทีถ้าเราจะเริ่มทำอะไรสักอย่างมันจะมีเสียงเข้ามาในหัวตลอดว่าเอาเลยดีไหม ทำดีไหม แต่ถ้าเรามั่นใจไม่ว่าจะเป็นตัวเราเองข้อมูลหรือว่าความรู้ รวมถึงคอนเนคชั่นแล้วก็สินค้าหรือบริการที่เราสนใจ ถ้าเรามั่นใจที่จะทำแล้ว เราต้องตัดสินใจลงมือทำเลย เราเรียนรู้ไปพร้อมๆกับลงมือทำเลย อย่างโบราเนี่ยสินค้าพันกว่ารายการ เราไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันอ่านว่ายังไง กินยังไง คือถ้าไม่เริ่มเราก็ไม่เริ่มสักที เราก็เลยต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับการลงมือทำไปเลย ไม่งั้นโอกาสก็จะหลุดลอยไป อยากให้น้องๆลองดูถ้าเปิดประเมินแล้วโอกาสมาแล้วก็อยากให้ลงมือทำเลยครับ”
คุณต้นยังไงกับคำที่ว่า เชียงใหม่เป็นเมืองปราบเซียน
“ก็เห็นด้วยนิดนึงครับ เพราะว่าคนเชียงใหม่เดาพฤติกรรมยาก ปรับเปลี่ยนไปตามอารมณ์ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนเชียงใหม่อยู่แล้ว เราก็เลยรู้และพยายามเรียนรู้ทิศทางของตลาดในแต่ละปีว่าเขาปรับเปลี่ยนไปยังไง เพราะฉะนั้นการที่เชียงใหม่จะอยู่แล้วปราบเซียน ก็คือเราต้องปรับตัวให้เร็วเพราะว่าบางที สามเดือน หกเดือน รูปแบบการนำเสนอก็จะต้องเปลี่ยนไปแล้ว เพื่อจะให้ธุรกิจเราได้รันต่อ ซึ่งก็อยู่กับเราที่จะปรับตัวกับตลาดเชียงใหม่ได้ยังไง”
วิธีการรับมือการกระแส
“แพลนตอนนี้ด้วยโปรดักส์ที่เราอิมพอร์ตเข้ามา มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งอยู่ เราอยากขยับขยายโดยการนำสินค้าใหม่ๆที่ในตลาดในประเทศไทยหรือเชียงใหม่ยังไม่มี เข้ามากระตุ้นทำให้เกิดความต้องการใหม่ๆ รวมถึงวิธีการกินใหม่ วัฒนธรรมการกินใหม่ๆทั้งขนม การกินเครื่องดื่ม ที่เราจะสามารถเลือกตัวที่เกาหลีมีแล้วแต่เรายังไม่มี เราก็จะอิมพอร์ตเข้ามา ดังนั้นการอัพเดทสินค้าที่แทบจะเรียลไทม์กับเกาหลีเลย อาจจะเป็นจุดแข็งของเราที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาที่ร้านได้บ่อยๆ”
ความท้าทายระหว่างการเป็นพนักงาน มาสู่เจ้าของร้านขนมและในที่สุดร้านมาร์ท มันมีความท้าทายที่ต่างกันยังไงบ้าง
“ตอนเราเป็นพนักงานออฟฟิศเราเข้างาน 8 โมงออก 5 โมง เราแทบจะชัตดาวน์ทุกอย่าง ในหัวเราแทบจะหยุดคิดละไม่ต้องมานึกถึงการทำหน้าที่ ทำงานในช่วงเวลาของเราให้ดีที่สุดแค่นั้นก็จบแล้ว แต่พอมาถึงเป็นผู้ประกอบการมันไม่ใช่ มันมีทีมงานที่เราต้องดูแล งานหลังบ้าน กระบวนการคิด การตลาด การวางแผนหนึ่งไตรมาส สามเดือน หกเดือน เราจะมีแพลนยังไงต่อเรื่องของต้นทุนระบบบัญชี — มันมีหลายเรื่องให้คิดมากขึ้นเป็นเท่าๆตัว บางทีเราคิดว่าเราเป็นลูกจ้างโดนหัวหน้าสั่งอย่างเดียวก็เยอะแล้ว แต่พอมาทำธุรกิจของตัวเอง เราก็ต้องมารับมือกับอีกหลายๆเรื่อง และสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการทำงานเป็นพนักงานบริษัทมาแล้ว เราก็เอามาปรับใช้กับการเป็นผู้ประกอบการครับ”
การประสบความสำเร็จในทุกธุรกิจของคุณต้น คุณต้นมองว่าตัวเองโชคดีหรือว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร
“ก็โชคดีระดับหนึ่งครับ แต่สิ่งที่ทำให้เราสำเร็จและรันธุรกิจมาได้ขนาดนี้เป็นเพราะว่าทีมงานของเรา รวมถึงระบบหลังบ้าน การซัพพอร์ตกันไม่ว่าจะเป็นน้องสาวที่ช่วยกันหรือเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนกัน การคิดระดมไอเดียรวมถึงมีจุดอะไรที่เราต้องปรับแก้ เราก็รีบปรับเลย ไม่ปล่อยให้มันคาราคาซัง”
ตอนท้ายคุณต้นฝากร้านไว้ว่าอยากให้มาลองกินรามยอนที่ต้มด้วยเครื่องอินฟราเรดจากเกาหลีและในอนาคตตรงลานจอดรถตรงนี้อาจจะมีเต้นท์มาตั้งสำหรับดื่มโซจูกันด้วย ใครยังไม่เคยไปเยี่ยมร้านโบราก็ลองไปแวะดูสักครั้ง ขนมเกาหลีที่ร้านแปลกตา น่าอร่อยและราคาไม่แรง ถ้าได้ไปเลือกซื้อสักครั้งได้วนกลับมาซ้ำแน่ๆ
ช่องทางติดต่อ
เฟซบุ๊คแฟนเพจ : โบรา โคเรียน มาร์ท Bora Korean Mart สาขาเชียงใหม่
ไลน์ออฟฟิศเชียล : https://lin.ee/8HOnMgN
เบอร์โทรศัพท์ : 065 478 0688