MOOH DONUT
MOOH – ร้านโดนัทเล็กๆที่ง่ายต่อการตกหลุมรัก ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาต่ายแทบไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย เนื่องจากว่าต่ายน้อยป่วยซมอยู่ที่บ้าน แถมยังยุ่งเรื่องการหาพนักงานใหม่เข้ามาแทนชุดที่ออกไปด้วย เลยยุ่งเป็นสองสามต่อ ช่วงนี้ชีวิตเริ่มกลับมาเข้าจังหวะเดิม ปรับเกียร์มาสู่สโลว์ซบเลยว่าออกไปหาร้านขนมอร่อยๆทานกันดีกว่า
มีร้านหนึ่งที่หลายๆคนทักมาหลังไมค์บอกว่าควรค่าแก่การลองและแคลอรี่ก็คือร้าน MOOH ซึ่งเป็นร้านเปิดใหม่ที่อยู่ในนิมมานต์ฯ หลังจากเปิดไปดูที่เพจและสังเกตการณ์อยู่หลายวัน เมื่อวันก่อนเลยทักร้านไปและสั่งล่วงหน้าเอาไว้ก่อน เพราะรู้ว่าขนมหมดทุกวัน ทำมาไม่มากและคุณภาพจริงๆ
เช้าวันต่อมา ต่ายมาถึงช่วงประมาณ 10:30, ขนมหน้าร้านได้หมดไปแล้ว ที่เหลือคือมีเจ้าของจับจองหมดแล้ว ร้านนี้เปิดเช้าหน่อย 7:30 จนถึงของหมด ตอนที่ต่ายไปมีลูกค้าหลายคนมากที่มาแล้วต้องยูเทิร์นกลับไปด้วยหน้าตาที่ผิดหวัง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะบอกว่า “เดี๋ยวขอสั่งไว้สำหรับพรุ่งนี้เลยได้ไหม?” นี่คือเครื่องการันตีระดับหนึ่งว่าร้านนี้มีของไม่ธรรมดาจริงๆ
หลังจากทักทายกันเสร็จเรียบร้อย น้องหมูแนม และ น้องเกี๊ยก เจ้าของร้านเบเกอรี่ก็วุ่นวายจัดออเดอร์ที่เตรียมให้ลูกค้า ส่วนต่ายก็ไปนั่งรอขนมด้านในด้วยจิตใจว้าวุ่น อยากทานนนนน เมื่อเช้าไปวิ่งมาแล้วด้วย พร้อมรบ!
MOOH ร้านขนมน้องใหม่ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ก่อนอื่นต้องเล่าเท้าความที่มาที่ไปของร้าน MOOH ก่อนว่า ร้านนี้เกิดขึ้นมาจากความรักและความชื่นชอบขนมของนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ของน้องทั้งสองคน น้องทั้งคู่เป็นสายคาเฟ่ ชอบไปกินไปนั่งไปชิล แล้วก็รู้สึกว่าอยากจะมีร้านเล็กๆเป็นของตัวเองบ้าง น้องหมูแนม (ซึ่งพื้นเพเป็นเด็กเชียงราย) ก็ขึ้นมาทำงานที่ร้านขนมแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ แต่เป็นคนที่ดูแลส่วนด้านหน้า ไม่รู้หรอกว่าขนมที่ขายทางร้านทำกันยังไง แต่รู้สึกชอบและอยากเรียนรู้วิธีการทำขนม ส่วนเกี๊ยกเองหลังจากจบมาก็ทำงานประจำที่ธนาคาร แต่ใจลึกๆแล้วอยากช่วยสานความฝันของหมูแนมให้เกิดขึ้นจริงๆ เลยตัดสินใจลาออกจากงานที่มั่นคงและมาช่วยกันสร้างอะไรบางอย่างของทั้งคู่ด้วยกัน และย้ายมาเชียงใหม่มาเป็นบาริสต้า
ทั้งสองคนบอกกับต่ายว่าได้ใช้เวลาศึกษา เก็บข้อมูลทั้งนำข้อดี ข้อเสียในการทำขนม รวมถึงสะสมคนรู้จักและประสบการณ์ที่เชียงใหม่ระยะเวลาหนึ่งกว่าจะเปิดร้านตรงนี้ได้ โดยสุดท้ายมาลงตัวที่โดนัท
หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว ทั้งคู่ก็ลาออกและมาตามหาความฝันของตัวเอง หาสูตรแป้งที่เป็นแบบเฉพาะของตัวเอง ใช้เวลากว่าครึ่งปี ระหว่างนั้นไม่มีเงินเดือน น้องเกี๊ยกบอกว่าก็นั่งกินโดนัทของตัวเองไปนี้แหละ ทั้งคู่หวังไว้ในใจลึกๆเพียงแค่ว่า “มันต้องเป็นไปได้สิ” น้องเกี๊ยกบอกว่า “ที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีเราจะเห็นร้านแบบนี้หลายร้านมาก ซึ่งโดนัทแนวประมาณนี้ยังไม่ค่อยมี เราก็มองว่าตัวสินค้ามันน่าสนใจและเข้าถึงคนง่าย”
โดนัทที่ร้านนี้จะมีเนื้อที่นุ่มและเหนียว โดยวันนี้ที่ต่ายได้ไปลองก็จะมี Creme Brûlée Doughnut ที่เป็นตัว Signature ของร้านและ Berry Shortcake Doughnut ที่เป็นตัวที่มีมาตามฤดูกาล โดยเมนูพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ดูมาจากในอินสตราแกรมและเอามาลองปรับตามที่คิดว่าควรจะเป็นแบบนี้ (เป็นโดนัทแบบก้อนกลมๆ ไม่ใช่แบบที่มีรูปนะครับผม)
เอาตัว Creme Brûlée ก่อนละกันครับ ด้วยความนุ่มของขนมปัง ทำให้สัมผัสแรกนั้นค่อนข้างเบา ละมุนลิ้น และที่ตามมาก็คือเจ้าน้ำตาลไหม้ด้านบนที่มีความหอม กัดไปกรึ๊บ ฟิน! ความหวานของน้ำตาลไหม้เติมมาทำให้กลมกล่อมขึ้นไปอีก ไม่พอนะไม่พอ ไอ้ครีมที่อยู่ด้านในก็นุ๊มมมมนุ่ม ไม่หวานด้วย ผสมคลุกเคล้าในปาก งุ้ยยยยยยดี!!!!
แต่อีกตัวสำหรับต่ายแล้วเด็ดกว่าเพราะด้วยความที่เป็นคนชอบเปรี้ยวนิดๆ Berry Shortcake Doughnut ตอบโจทย์มากเลย เพราะแยมที่ทาจะมีความเปรี้ยวหน่อยๆ ตัดกับครีมสดที่ทั้งนุ่ม หอม และหวานนิดๆ เจอสตอเบอรี่สดที่เปรี้ยวๆหวานๆ รวมไปกับแป้งโดนัทนุ่มๆ…ตายยยยยยยย ตายๆๆๆๆๆ ตายไปเลย มันอร่อยนะ ชอบมากเป็นการส่วนตัว
น้องหมูแนมแอบบอกมาว่าตัวเนยของทางร้านจะเป็นตัวเนยแท้ ทุกอย่างนั้นคัดมาแล้วว่าต้องดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ วัตถุดิบทำวันต่อวันไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงก่อนวางขายแน่นอน โดนัทแต่ละลูกนั้นปั้นมือเอา ศึกษาวิธีการทำและพัฒนามาจากสูตรในอินเทอร์เน็ต โดนัทร้านนี้เลยแนะนำให้กินแบบวันต่อวันต่อจะได้คุณภาพที่ดีที่สุด แต่ถ้าใครอยากเก็บไว้น้องเกี๊ยกบอกว่าไม่ควรเกิน 2 วันเพราะเจ้าโดนัทมันจะแข็ง.“ในอนาคตก็จะมีเมนูขึ้นมาเรื่อยๆ เราคิดไว้ในหัวเยอะ แต่กลัวทำออกมาไม่ทันหรือคุณภาพตกเพราะเราก็ทำกันอยู่สองคน”.ทั้งสองคนเล่าต่อว่าตอนนี้จำนวนของโดนัทที่ทำออกมาขาย ถูกทำมาให้พอดีกับจำนวนเฉลี่ยจากออร์เดอร์ที่หน้าร้าน
“เราเคยทำมาเกินละขายไม่หมดครั้งหนึ่งครับ เพราะวันนั้นเราคิดว่าเป็นวันเสาร์น่าจะขายดี แต่กลายเป็นว่าเหลือประมาณ 40 ลูก เราก็เลยต้องทิ้งไปหมด เราก็เลยคิดออร์เดอร์ให้มันพอดีกับที่เราขายได้ปกติคือวันละประมาณ 80 ชิ้น จะได้หมดพอดี”
“อย่างที่รู้กันว่าเชียงใหม่เป็นเมืองที่ร้านดังมาไวไปไว เราก็ได้เตรียมใจไว้แล้วว่าช่วงแรก แต่ก็ยังดีที่ว่าเราไม่ได้หวังไว้สูงมาก เราหวังไว้แค่ว่าสักวันละ 30 ชิ้นต่อวันก็โอเคแล้ว ผมมองว่าถ้าเราผ่านหน้าฝนไปได้หน้าไฮท์ก็น่าจะโอเค ละถึงตอนนั้นเราก็คงจะมีเงินสักก้อนหนึ่งมาเปิดร้าน เราก็พอรู้มาบ้างครับว่าช่วงไหนคนเยอะ บางเมนูเราก็ยังไม่ปล่อยออกมาเผื่อเอาไว้ดึงลูกค้าตอนช่วงโลว์ แต่ตอนนี้เราก็แฮปปี้แล้วนะครับ” น้องเกี๊ยกบอกกับเราว่าร้านนี้เป็น Passion ของหมูแนม ส่วนตัวเขาเนี่ยก็ตามมา
“โลโก้เลยเป็นรูปแนมเพราะแนมรู้จักคนเยอะและมี Passion ด้านการทำอาหาร”
ทั้งนี้คุยกันไปคุยกันมาต่ายก็นึกสงสัยว่า เอ๊ะ อะไรกันที่ทำให้คนที่เรียนคณะเศรษฐศาสตร์คิดจะมาเปิดร้านโดนัทขาย.“ตอนนั้นแนมก็ยังหาตัวเองไม่เจอค่ะ เรียนไปก่อน ระหว่างนั้นก็ได้ทำงานพาร์ทไทม์ตามร้านกาแฟและสุดท้ายเราก็รู้ว่าเราชอบ”.สุดท้ายขนมก็กลายมาเป็น Passion ของทั้งสองคน โดยมีน้องเกี๊ยกช่วยนวดแป้ง คิดเสนอไอเดียรูปแบบขนม ส่วนน้องหมูแนมก็จะเป็นคนลงมือทำ
ต่อมาต่ายก็ถามว่าจะเปิดเป็นเฟรนชายด์ไหม ทั้งสองคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ไม่อยากเพราะคิดว่าจะรักษาคุณภาพยาก แต่มีแผนว่าอยากจะไปเปิดร้านที่เชียงรายซึ่งเป็นบ้านเกิดของน้องหมูแนม ระหว่างที่คุยๆอยู่ก็ยังมีลูกค้าแวะเวียนมาเรื่อยๆ
“ช่วงนี้เหมือนเป็นช่วงที่คนกำลังอิน เราก็เลยทะยานขึ้น พออีกสักนิดนึงก็จะค่อยๆเข้าสู่ความเป็นจริง สักสามเดือนเนี่ยน่าจะจับทางในอนาคตได้ นี่ก็เลยเป็นโจทย์ของเราที่ทำยังไงให้เขากลับมา ลูกค้าหลักของเราตอนนี้ก็จะมีเป็นนักศึกษาแพทย์ แอร์โฮสเตส”
ตอนนี้ร้าน MOOH ตรงนี้เป็นที่ที่ทั้งสองคนเช่าอยู่ ในอนาคตเขาก็เลยอยากจะเก็บเงินสักก้อนเพื่อที่จะลงทุนซื้อที่และขยับขยายในอนาคต จากที่ลองดูต่ายก็เอาใจช่วยนะครับอยากให้ร้านขนมที่คนขายใส่ใจในรสชาติและคุณภาพอยู่คู่เชียงใหม่นานๆ
สิ่งที่ประหลาดใจก็คือว่าร้านเพิ่งเปิดได้ยังไม่ถึงหนึ่งเดือน แน่นอนว่าสำหรับหลายๆคนที่เป็นสายขนม หรือสายโดนัทตัวเบ้ง อาจจะบอกว่ามันยังไม่สุด แต่สำหรับต่ายแล้ว การเปิดมาด้วยระยะเวลาแค่นี้ สูตรอาจจะยังไม่นิ่ง เครื่องมืออาจจะยังไม่พร้อม ทุกอย่างอาจจะไม่ 100% ได้แค่นี้ก็ถือว่าน้องทั้งคู่เก่งมากๆแล้ว ด้วยอัธยาศัยที่ยิ้มง่าย คุยเก่ง มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองรัก มันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะตกหลุมรักน้องๆทั้งสองคนและขนมของร้านโดนัทเล็กๆแห่งนี้ บอกเลยว่าน่าจะต้องมีกลับไปกินอีกอย่างแน่นอน
ใครอยากลองชิมขนมร้าน MOOH หาไม่ยากครับ สามารถ search บน Google Maps ได้ ไม่พาหลงแน่นอน แนะนำให้จองขนมไปก่อนนะครับผม ทางร้านจะได้เตรียมของให้ในวันต่อไป ส่วนใครถ้าอยากเสียงดวง ก็หน้าร้านกันเลยจ้า
แน่นอนว่า Busy Rabbit ส่งได้อยู่แล้ว จะสั่งกับต่ายเองหรือกับทางร้านและให้ต่ายไปรับส่งให้ก็ได้เช่นกันครับผม