มากกว่าเต้าหู้ทอดที่เคยรู้จัก PIM TOFU : คุณพิม – รุ้งพราย กัญญมา
ถ้าพูดถึง “เต้าหู้ทอด” หลายคนคงจะนึกถึงเต้าหู้ที่เป็นสีเหลืองทอดกรอบๆ และมีกลิ่นถั่วแรงๆจิ้มกับซอสหวานๆแน่ๆ ในตอนเด็กต่ายก็เคยมีโอกาสได้กินเต้าหู้ประเภทนี้และไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ จนเมื่อไม่นานมานี้ต่ายได้รู้จักกับ “PIM TOFU” แล้วคำว่าเต้าหู้ทอดของต่ายก็เปลี่ยนไป

ต่ายมีโอกาสได้มานัดคุยกับ คุณพิม – รุ้งพราย กัญญมา ซึ่งจบจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คุณพิมเล่าให้ต่ายฟังว่าหลังจบมา คุณพิมก็เปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ผัดไทยอยู่ที่โซนกาดหลวง เซนทรัลเชียงใหม่แอร์พอร์ต ตอนนั้นเมนูที่ขายดีดันเป็น “เต้าหู้ทอด” ที่เป็นสูตรของคุณยาย จากตรงนั้นคุณพิมก็เลยเริ่มคิดที่จะทำเต้าหู้ทอดจากสูตรของคุณยายมาขาย
เต้าหู้ ก็คือถ้าย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีที่แล้ว เป็นสูตรของคุณยายค่ะ ตั้งแต่พิมตัวเล็กๆก็จะทานเต้าหู้ผัด เต้าหู้ทอด ที่เป็นสีขาวธรรมดา สูตรนี้คุณยายก็ส่งต่อให้คุณแม่ จริงๆคุณแม่ก็ขายส่งทั่วเชียงใหม่ กรุงเทพแต่ก็เป็นแค่รสธรรมดา
เต้าหู้ของเรามันจะดีกว่าตรงที่มันจะหอมและเราทำสดใหม่ทุกวัน ตอนที่พิมทำผัดไทยอยู่ก็จะมีชาวต่างชาติมาบอกว่าขอให้ใส่เต้าหู้ทอดเยอะๆ

อะไรทำให้ตัดสินใจมาทำเต้าหู้อย่างจริงจัง
“ตอนที่ทำร้านผัดไทย ทำอยู่ประมาณปีหนึ่งก็เจอโควิด เราก็เลยต้องปิดกิจการ ตอนนั้นเราก็ไม่มีอะไรทำ เราก็เลยคิดว่าจะทำอะไรดี พิมก็เลยคิดว่างั้นเราลองเอาเต้าหู้ที่ขายดีอยู่แล้ว เอาไปลงในกลุ่มลูกช้าง กลุ่มตลาดขายของแล้วส่งขายเดลิเวอร์รี่ดีกว่า ตอนนั้นเราก็ทอดขายตั้งแต่เช้าแล้วก็ไปส่ง เราทำอย่างนี้อยู่ประมาณสักเดือนหนึ่ง คนที่สั่งเราส่วนใหญ่จะเป็นคนวัยกลางคน”
“ตอนนั้นพิมก็มาคิดนะว่า ทำไมนะ มันหอม มันทานง่าย มันอร่อยมากๆ ทำไมเด็กๆวัยรุ่นถึงพลาดของที่มีประโยชน์แบบนี้ไป และพิมก็เลยคิดว่าจะทำยังไงดีให้เขามาสนใจเต้าหู้ธรรมดาๆ ที่มีประโยชน์มากๆแบบนี้”
“พิมก็เลยคิดว่า เอ้ หรือว่าเราจะผสมผักลงไปไหม ผักที่มันโดดเด่นที่มันจะมีสีสันแล้วทำให้เด็กๆหรือวัยรุ่นเปิดใจ รสแรกที่เราทำก็น่าจะเป็นฟักทอง แครอท อะไรที่สีมันชัดๆและมีประโยชน์ช่วงแรกที่เราทำ เราก็ทำตระเวนขายตามหมู่บ้าน ตามออเดอร์ประมาณ 2-3 เดือน แล้วเราก็รู้สึกว่ามันเหนื่อยมากๆ”

ตอนนั้นคุณพิมก็เลยเริ่มคิดที่จะเปิดเป็นร้านโดยเป็นป๊อบอัพสโตร์เล็กๆ คุณพิมเล่าว่าย้ายไปย้ายมา จนไปอยู่ที่หน้าศูนย์สุขภาพ
“มันก็โอเคนะคะ แต่ว่ามันก็จะมีคนที่ขับรถผ่านมาแล้วจะไม่เห็นเรา หรือคนที่เห็นเขาก็อาจจะผ่านไปเลย แต่คนที่มาซื้อ ก็จะมาซ้ำเรื่อยๆ เราก็เลยหาที่ใหม่ไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอที่นิมมานซอย 17 ขายที่นั่นก็เกือบปีอยู่เหมือนกัน”
“ตอนนี้เริ่มมี 7 รสแล้วค่ะ แครอท ฟักทอง งาดำ อัญชัน เห็ดหอม เผือกและออริจินอล”
คุณพิมเล่าให้ต่ายฟังว่าเรื่องการเลือกรสชาตินี้ก็ค่อยคิดค่อยทำ โดยเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบ ประกอบกับชื่อของคุณพิมที่มีคำว่ารุ้ง คุณพิมเลยคิดไว้ว่าอยากจะให้มันมี 7 สีเหมือนกับสีของรุ้ง

ตอนที่เริ่มคิดจะทำได้ลองเทสตลาดไหม
“เหมือนเราซึมซับมาตั้งแต่เด็ก เราก็ทานมาโดยตลอด แต่ตอนที่เราขายผัดไทยมีคนเขามาบอกว่าขอเต้าหู้เพิ่ม ซึ่งตอนนั้นเราใช้วัตถุดิบของตัวเอง เราก็เลย อ้อ เขาน่าจะชอบและคนมาสั่งเต้าหู้ทอดออเดอร์ค่อนข้างที่จะเยอะ”
ช่วงแรกที่ขายตามบ้านจะเป็นทอดล้วนๆ เลยค่ะ แล้วเราก็ค่อยมาคิดว่าเขาน่าจะเอาไปผัดเองได้ เลยเอาไปซีลสุญญากาศ
“ถ้าย้อนกลับไปตอนปี 4 มันมีวันหนึ่งกำลังจะเรียนจบโปรเจคเสร็จแล้ว ก็เลยยกเตาแก๊ส หม้อน้ำมัน ไปตั้งแล้วก็ทอดเต้าหู้ให้เขา แล้วเขาก็รู้สึกว่า ว้าว เพราะมันไม่เหมือนที่อื่น”
ตอนเริ่มทำสาขาแรกที่ศูนย์สุขภาพเป็นยังไงบ้าง
“ตอนแรกเราก็มีไปวางแองกี้ฮัทแล้วก็ไปทอดขายร้อนๆที่ศูนย์สุขภาพ เสียงตอบรับก็ดีนะคะ”
“แต่ว่ามันมีปัญหาพวกเราใช้หม้อทอดแล้วไฟไม่พอ บางวันก็ฝนตก เราก็กลัวไฟช็อตก็เลยเริ่มมองหาที่ที่เป็นหลัก เป็นแหล่งก็มาได้ที่ที่นิมมาน ซึ่งตอนนั้นกระแสก็ดีมาก”

ตอนนี้คุณพิมมีร้านเต้าหู้ 3 สาขา
“เราย้ายจากนิมมานเพราะว่าพื้นที่ค่อนข้างแคบ อีกอย่างเรามีบริการส่งต่างจังหวัด มันเลยต้องมีการสต๊อกของต่างๆ เราก็เลยย้ายมาตรงนี้ก็คือสาขาสวนดอกซึ่งเป็นสาขาหลัก สาขาสองก็คือตลาดแม่เหี๊ยะและก็สาขาที่สามก็คือ 89 พลาซ่า”
คุณพิมเล่าให้ต่ายฟังว่ามีครั้งหนึ่งตอนขายอยู่ที่ตลาดมีเด็กคนหนึ่งเห็นเต้าหู้ทอดคุณพิม น้องก็งอแงอยากจะกิน คุณพิมเล่าว่าตอนนั้นน้องอาจจะไม่รู้จักด้วยซ้ำว่ามันเป็นเต้าหู้แต่ว่าที่น้องสนใจเพราะสีของเต้าหู้ คุณพิมเล่าว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องคุณพิมดีใจมากๆที่มีเด็กๆสนใจทานเต้าหู้เพราะการปรับปรุงของคุณพิม
ปัญหาในการทำเต้าหู้
“ปกติเต้าหู้รสออริจินอลถ้าซีลแล้วอยู่ในตู้เย็น จะอยู่ได้ประมาณ 25-30 วัน ถ้าเป็นตัวงาดำเขาจะทำปฏิกิริยาต่างๆ ทำให้อยู่ได้แค่ 10 วัน อายุของงาดำก็จะสั้นกว่าทุกรส”
ขั้นตอนทุกอย่างพิมช่วยทำกับที่บ้านที่คอยช่วยดู

เรื่องการโดนก้อปปี้ที่คุณพิมเล่าในเพจ
“เหมือนว่าเขาทำแล้วใช้ชื่อคล้ายๆเรา อาจจะเติมเข้าไปนิดหนึ่งแล้วเขาก็ก็อปคอนเทนต์ต่างๆ เหมือนที่ว่าเราบอกว่ามันมีประโยชน์อย่างนี้ ยอดขายเท่านี้ เขาก็พูดเหมือนเราเลย ตอนนั้นก็มีลูกค้าแคปมาให้ดู พิมก็บอกเขาไปว่าไม่ใช่นะคะ แต่เราก็รู้สึกเสียใจเพราะกว่าเราจะคิดได้ การเริ่มมาตั้งแต่แรกขับรถไปตามบ้าน ตื่นตั้งแต่ตี 5 คิดว่าทำยังไงดีให้ทุกคนสนใจ เราก็รู้สึกเสียใจอยู่ แต่การวิ่งตามใคร มันไม่น่าภูมิใจเท่าเราคิดเองทำเอง เพราะเราจะต้องวิ่งตามเค้าเรื่อยๆ ถ้าต้นฉบับหยุดเดิน เค้าก็จะหยุดเช่นกัน”
อุปสรรคที่เราเจอในธุรกิจที่พึ่งเจอมา
“น่าจะเป็นเรื่องของการรักษาอุณหภูมิในการขนส่ง ซึ่งมีปัญหามากแล้ว บางพื้นที่ลูกค้าก็อยากทานมากแต่ไม่มีบริการรถตู้เย็น เราก็เลยคิดว่าทำยังไงดีบางทีก็ถูกตีกลับหรือขนส่งล่าช้าเกินไป อันนั้นเป็นปัญหาในช่วงแรก ปัจจุบันนี้มีปัญหาน้อยแล้วค่ะ”
นอกจากเรื่องนี้แล้วการที่คุณพิมเป็นมือใหม่ๆมาก ครั้งหนึ่งเลยโดนพนักงานสาขาโกง คุณพิมเล่าว่าในเรื่องของการจัดการระบบ เมื่อมีช่องโหว่ ก็โกงได้ง่าย เราก็ต้องอุดช่องนั้น และก็เปลี่ยนพนักงานทันที

เมนูที่ขายดีที่สุด กับ ผลกระทบช่วงโควิดที่ผ่านมา
“ทอดรวมค่ะ ทอดรวมทุกรส แล้วก็มีข้าวเกรียบที่ทำจากเต้าหู้ ไม่มีแป้งเลย ตอนนี้แผนจะขยายสาขาไปที่รวมโชคกับกาดฝรั่ง หน้าร้านมีผลกระทบค่ะ เราก็เลยต้องวิ่งเข้าหาตลาด ก็คือไปตั้งที่ตลาดที่เขาไปตลาดกันเลย ลูกค้าต้องไปที่ตลาดอยู่แล้ว เขาต้องไปซื้อวัตถุดิบอะไร เราเลยไปตั้งที่ตลาดเผื่อเขาผ่านมาเขาก็จะแวะซื้อได้”
“ช่วงที่ขายไม่ดีก็จะค่อนข้างเครียดค่ะ ตอนนั้นเราก็พยายามโพสต์พยายามพูดพยายามทำให้ทุกคนเห็น เราคิดว่าที่เขาไม่ซื้อเป็นเพราะเขาไม่ค่อยเห็นมากกว่า ถ้าหน้าร้านขายไม่ดีเราก็จะไปจับยอดทางออนไลน์”

ร้าน PIM TOFU ในอีก 5 ปี
“ตอนนี้อยากเอาสินค้าไปลงที่ริมปิงค่ะ เพราะว่าตอนนี้เรากำลังจะทำโรงงาน รอให้ได้ อย. เมื่ออะไรเรียบร้อยเราก็จะเอาไปลงที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต”
“อีก 5 ปีในอนาคตก็คงจะยังขายเต้าหู้เหมือนเดิม แต่ว่าอยากจะพัฒนาเต้าหู้ให้ดียิ่งขึ้น ร้านเราอาจจะไม่ได้มีแค่เต้าหู้ทอดแล้ว แต่จะมีเมนูเพื่อสุขภาพมากขึ้น”
คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่
เรามีของมีค่าที่ใกล้ตัวอยู่แล้ว เเต่หลายต่อหลายครั้ง เรามองข้ามมันไป เราอาจจะคิดว่าไม่น่าภูมิใจและวิ่งตามคนอื่น คิดว่าถ้าเปิดร้านนั้น เท่ คูล ตามกระเเสเค้าไป
แต่เมื่อถึงจุดนึง ที่เราถึงวิกฤติแล้ว มองไปทางไหนก็ตันไปหมดแล้ว เราจะเริ่มมองสิ่งใกล้ตัว แล้วเริ่มเห็นคุณค่า และกล้าที่จะบอกเล่าคุณค่าของของเรา ให้ทุกคนได้รับรู้ถึงคุณค่านั้นเช่นกัน และการเริ่มอะไรใหม่ๆ ที่มันไม่เคยมีมาก่อน มันจะยากมาก เราจะกลัวมาก แต่ถ้าเราไม่ทำ แล้วมีวันนึงมีคนทำมันได้ เราจะเสียใจมาก ยิ่งกว่าการก๊อปปี้ อยากให้ทุกคนคิด แล้วทำเลยค่ะ
ใครที่สนใจอยากลองกินเต้าหู้ทอดหรือข้าวเกรียบเต้าหู้ น้ำเต้าหู้ที่รสชาติดี อร่อยไม่เหมือนใครก็ไปลองทานที่ร้านนี้ได้ แต่ถ้าเกิดว่าไม่อยากออกไปไหนก็ติดต่อคุณพิมโดยตรงช่องทางติดต่อด้านล่าง หรือฝากต่ายไปซื้อก็ได้นะครับ
ช่องทางติดต่อ
Facebook Fanpage : เต้าหู้โฮมเมด
Line : @pimtofu
IG : pim.tofu
Tel.0628922265, 0622828666
Maps : https://goo.gl/maps/iXR5zgfN7hQN8j3H8