ครัวอาจารย์สายหยุดและหมอทราย
ครัวอาจารย์สายหยุด ร้านอาหารไทยสไตล์ชาววังที่จะทำให้เราสัมผัสได้ถึงคำว่า “อาหาร ศิลปะแห่งการใช้ชีวิต” ความพิเศษของร้านนี้คืออาหารแต่ละจานล้วนมีที่มาที่ไป ที่พิถีพิถัน ที่สามารถสื่อออกมาได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นด้วยหน้าตาที่น่ารับประทาน การแกะสลักผักผลไม้แบบฝีมือชั้นครู การคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพเลิศ ที่ผ่านกระบวนการมาอย่างดีทำให้ทุกจานที่ออกจากครัวอาจารย์สายหยุดและหมอทรายเป็นร้านที่เป็นตำนานของผู้ที่ผ่านไปผ่านมาในเชียงใหม่
คงไม่มากเกินไปถ้าจะบอกว่าร้านนี้อร่อยตั้งแต่จัดจาน ดูความพิถีพิถันนี้สิครับ การแกะสลักเหล่านี้เป็นฝีมือของคุณหมอทรายและอาจารย์สายหยุดสองแม่ลูกที่หลงรักในการทำอาหารและการแกะสลัก ทำให้ทุกจานที่ออกมาจากครัวร้านนี้เรียกได้ว่าใส่ใจและใช้ใจทำในทุกขั้นตอนและมากกว่าหนึ่งขั้นตอนจริงๆ
วันนี้ต่ายได้มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณวามือขวาของคุณหมอทราย (ผู้จัดการร้านอาหารครัวอาจารย์สายหยุดและหมอทราย) คุณวาเล่าให้เราฟังว่าร้านนี้เปิดมาตอนนี้ก็เป็นรุ่นที่ 2 แล้ว โดยก่อนหน้านี้ก็มีอยู่แล้ว จากนั้นร้านก็ปิดไปเพราะตัวอาจารย์สายหยุดตามคุณหมอทรายไปที่กระบี่ แล้วก็กลับมาเปิดร้านที่นี่อีกครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ร้านนี้ไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้เป็นเพียงแค่ร้านผัดไทยธรรมดาจากนั้นก็ค่อยๆขยับขยายจนมาเป็นครัวอาจารย์สายหยุดและหมอทรายทุกวันนี้
อาจารย์สายหยุดจบการศึกษาด้านอาหารและโภชนาการจากวิทยาลัยเทคนิคสงขลา และเป็นอาจารย์สอนด้านคหกรรมที่พิษณุโลกและเชียงใหม่มากว่า 30 ปี ส่วนพ่อของคุณหมอเป็นคนนนทบุรีแต่มีที่ดินอยู่ที่เชียงใหม่ อาจารย์สายหยุดมีความชอบในการแกะสลักและทำอาหารไทย ร้านอาหารในร้านนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นอาหารใต้และไทยภาคกลาง
คุณวาได้พูดกับเราว่า
“แต่ละอย่างในร้านนี้ยอมฮับเลยหนาค่ะว่าเปิ้ลใจ้ใจ๋ยะแต้ๆ อย่างคุณหมอเนี่ยกะลุกตั้งแต่ตี 4 มานั่งแกะดอก”
พี่วาเล่าให้ฟังว่าทุกวันนี้การแกะสลักต่างๆจะเป็นคุณหมอกับพนักงานช่วยกันทำและมีอาจารย์สายหยุดคอยนั่งดูว่าสวยไหม และร้านนี้จะเน้นในเรื่องของรสชาติอาหาร ความสะอาดปลอดภัยและความพิถีพิถัน เมนูต่างๆในร้านจะยังคงเดิมแต่ก็มีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ลูกค้าที่เข้ามาในร้านส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวและคนในเชียงใหม่ที่ไม่ใช่คนเชียงใหม่ ที่เข้ามาอยู่เชียงใหม่ ซึ่งคนเชียงใหม่จะมาที่นี่น้อยเพราะที่ร้านไม่ได้เป็นร้านอาหารสไตล์เหนือ
เมนูที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่เลยก็จะเป็นกุ้งมะขาม กุ้งที่นี่จะเป็นกุ้งที่ตัวใหญ่และคิดราคาเป็นตัวขึ้นอยู่กับขนาดของกุ้ง อาหารทะเลของที่นี่จะเป็นของที่ดีที่สุดเพราะแฟนของคุณหมอทำธุรกิจเกี่ยวกับส่งออกอาหารทะเลทำให้สามารถที่จะคัดของอย่างดีดึงมาที่ร้านได้ และก็จะมีแกงคั่วเนื้อปูโดยปูของที่นี่ก็จะเป็นเนื้อปูสเตอร์ไลน์(เนื้อปูที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน) เนื้อปูที่นี่ก็จะเป็นก้อนสวย ไม่เหมือนในตลาดทั่วไป
ซึ่งเมนูแนะนำที่ต่ายได้สั่งมาวันนี้มีชุดอาหารว่างประเภทคาว ที่ประกอบด้วย ช่อม่วงของว่างที่เรียกได้ว่าหากินได้ยากมากๆ กระทงทอง(ครั้งที่แล้วต่ายมาต่ายสั่งมากิน 20 กว่าอัน) ล่าเตียงหรือหรุ่ม ปั้นขลิบไส้ปลา ขนมจีบหม้อและขนมจีบนก(รสชาติของไส้ทั้งสองไม่ต่างกันต่างกันเพียงแค่รูปลักษณ์เท่านั้น) และม้าฮ่อตามฤดูกาล ก็จะเป็นของว่างที่ข้างบนจะมีไส้หวานข้างล่างจะเป็นผลไม้รสเปรี้ยว พี่วาบอกว่าม้าฮ่อตามฤดูกาลจะเป็นได้ทั้งสับปะรด มะยงชิด แต่ในช่วงนี้จะเป็นส้ม เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย
และเมนูปลาทรายทอดขมิ้นก็คือปลาทรายตัวขนาดพอดีๆมาหมักคลุกเคล้ากับขมิ้น ทอดในน้ำมันร้อนๆจนกรอบ และอย่างสุดท้ายก็คือเมนูปลากะพงยัดไส้ เป็นเมนูใหม่ของร้าน ที่นำปลากะพงสดๆจากทะเลเลาะเนื้อออกมาแล้วก็เอามาปรุงเครื่องใส่เห็ด ใส่แครอท ใส่ซอส(ตามสูตรของร้าน)แล้วก็เอายัดเข้าไปในตัวปลาใหม่แล้วก็เอาไปนึ่ง แล้วก็เอาตัวปลาไปทอดให้กรอบ เป็นสูตรของเชฟชาวใต้อีกคนของร้านซึ่งมีทักษะในการทำอาหารแต่พอมาอยู่ที่ร้านนี้ก็เปลี่ยนก็ปรับให้รสชาติดั้งเดิมของร้าน ข้อดีของปลากะพงยัดไส้คือเนื้อฉ่ำ ได้รสชาติปลากะพงไม่มีกลิ่นคาว ไม่มีก้าง )แล้วก็ยัดเข้าไปในตัวปลาแล้วก็ทอดอีกที ปลากระพงและปลาทรายที่สั่งมาที่นี่จะเป็นปลาที่สั่งมาจากทะเลซึ่งแฟนของคุณหมอเป็นคนติดต่อให้ พี่วายังเน้นอีกว่าคุณภาพของอาหารของที่นี่คือที่สุดจริงๆ
และแม้จะเป็นรุ่นที่ 2 แล้วเรื่องของรสชาติ การแกะสลักต่างๆนั้นก็ยังรักษาคุณภาพมาตลอด โดยการที่ตัวอาจารย์สายหยุดเองในปัจจุบันก็ได้ถ่ายทอดวิชาให้กับพนักงานและพ่อครัวแม่ครัว รวมถึงยังมาให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องและคุณหมอก็จะเป็นคนตรวจสอบความเรียบร้อย พี่วาบอกว่าในครัวมีคนทำอยู่เยอะเลย มีมือแกะสลักหนึ่งคน แกะมัน ทำของว่างอีกคนหนึ่ง และพ่อครัวแม่ครัวก็จะมีคนต้ม คนผัด คนยำมีเหมือนกับครัวทั่วไป แต่อาจารย์สายหยุดจะเน้นให้คนในครัวสามารถที่จะทำงานแทนกันได้ แต่ที่ล็อกไว้ก็จะเป็นคนที่ทำงานฝีมือ ซึ่งแต่ละคนกว่าจะชำนาญในการแกะสลักก็จะใช้เวลานานในการฝึกกว่าจะเข้ามือ
อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ มันเชื่อมแกะสลักในหนังสือแนะนำเมนูอาจารย์สายหยุดได้เล่าไว้ว่าได้แรงบันดาลใจมาจากโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งรสชาติของมันเชื่อมของที่ร้านนั้นจะมีความกรุบกรอบและชุ่มฉ่ำจากน้ำตาลและกะทิเป็นมันเชื่อมรสชาติดีที่ยากจะลืมเลือนทั้งนี้พี่วาได้บอกว่าถึงตอนนี้ร้านจะใหญ่ขึ้นแล้ว จากการที่ร้านเป็นที่รู้จัก มีลูกค้ามารอกินกันเยอะคุณหมอเลยยิ่งห่วงกับคุณภาพของสินค้า มาตราฐาน เพราะลูกค้าคาดหวังไว้เยอะ กว่าจะออกมาจากครัวได้ต้องผ่านสายตาของคุณหมอและเชฟที่อยู่ในครัวว่าดีพอที่จะออกมาถึงมือของลูกค้าแล้วเท่านั้น
สุดท้ายนี้ต่ายแนะนำเลยนะครับใครที่อยากจะทานอาหารไทยอร่อยๆที่พิถีพิถัน คุณภาพดีรสชาติเลิศ อย่าลืมร้านครัวอาจารย์สายหยุดและหมอทราย ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ที่ 32 โชตนา ซอย 12 ถนนศรีลานนา ตำบลป่าตัน อำเภอเชียงใหม่ เปิดทุกวันตั้งแต่ 10 โมง ถึง 3 ทุ่ม ครัวปิดตอน 2 ทุ่ม หยุดทุกวันพุธ สามารถโทรสั่งอาหารได้ที่เบอร์ 081-530-1172 หรือ 053-211-848 ร้านนี้ไม่มีบริการเดลิเวอร์รี่นะครับ แต่สามารถฝากต่ายไปซื้อได้ครับผม.
ช่องทางการติดต่อ
Facebook Fanpage : ครัวอาจารย์สายหยุด
เบอร์โทรศัพท์ : 081-530-1172 หรือ 053-211-848
Line Official : saiyud2003 หรือ
โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/jvngYahLhLJWgo6r